"ทักษิณ" ถึงศาลอาญาแล้ว มาตามนัดสืบพยาน คดี 112 แต่หลบสื่อเข้าประตูข้าง พบเพียงรถเลี้ยวจอดหน้าศาล
จากกรณีเมื่อปี 2558 นายทักษิณ จำเลย ได้ให้สัมภาษณ์สื่อทีวีต่างประเทศประเทศเกาหลีใต้พาดพิง ดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง คดีนี้จำเลยให้การปฏิเสธ และได้รับการประกันตัวไป
วันนี้ (1 ก.ค.68) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ ห้องพิจารณา 902 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก มีการนัดสืบพยานกรณี นายทักษิณ ชินวัตร จำเลยในคดี "หมิ่นสถาบันเบื้องสูง" หมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีต นายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยในความผิดฐาน "ดูหมิ่นสถาบันฯ" ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 ความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
โดยบรรยากาศที่ศาลอาญารัชดามีสื่อมวลชนจำนวนมากมาเฝ้าปักหลักในการทำข่าวครั้งนี้ โดยพบว่าในเวลา 07:55 น. นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เดินทางมาที่ศาลอาญารัชดา แต่เจ้าตัวไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมาชน
ต่อมาเวลา 8.25 น. นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวนายทักษิณ ชิณวัตร ได้เดินทางมาที่ศาลอาญาและได้ให้สัมภาษณ์ นายวิญญัติ ระบุว่า ศาลได้นัดสืบพยานแบบต่อเนื่องเป็นเวลา 3 วันติดต่อกัน คือ วันที่ 1 กรกฎาคม ถึงวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 โดยฝั่งโจทก์มีพยานทั้งหมด 10 ปาก จำเลย 14 ปาก / พร้อมบอกว่าการสืบพยานมีทั้งหมด 7 นัด แต่สามารถเสร็จก่อน 7 นัดได้ ขึ้นอยู่กับกระบวนการของศาล ส่วนนัดสุดท้ายในการสืบพยานคือวันที่ 23 กรกฎาคม
สำหรับอัยการที่เป็นโจทก์ฟ้องนายทักษิณชินวัตร วันนี้ถือว่าเป็นนัดแรก ใน 3 นัด ที่โจทก์นำพยานหลักฐานขึ้นสืบพยานในข้อหาความผิดมาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ โดยฝ่ายโจทก์จะนำพยาน 3 ปากที่ได้นัดไว้จาก10ปากมาขึ้นเบิกความ และทนายฝ่ายจำเลยถามค้าน ส่วนกระบวนการพิจารณาก็มีเพียงเท่านี้ เพราะยังไม่ถึงเวลาที่นายทักษิณจะขึ้นมาเบิกความ
เมื่อถามว่านายทักษิณจะต้องเดินทางมาที่ศาลอาญาทุกรอบเลยหรือไม่ นายวิญญัติ ระบุว่า คดีนี้ เป็นคดีที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว และได้รับการประกันตัวระหว่างพิจารณา ซึ่งนายทักษิณจะต้องมาปรากฏตัวต่อศาล เพราะในวันนี้เป็นนัดแรก ส่วนหลังจากนี้จะต้องดูว่าศาลจะออกข้อกำหนดในการพิจารณาคดีว่าอย่างไร เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย และราบรื่นต่อการพิจารณาคดี
เมื่อถามว่าจะมีการพิจารณาลับหลังจำเลยหรือไม่ นายวิญญัติ ระบุว่า ตามประมวลกฎหมายพิจารณาคดีอาญาการจะขอสืบพยานลับหลังจะต้องมีอัตราโทษไม่เกิน 10 ปี แต่คดีนี้สูงกว่า 10 ปี และอาจเป็นข้อยกเว้น แต่ถ้าหากจำเป็น และจำเลยมีทนายอยู่แล้ว ก็ขอพิจารณาลับหลังได้ แต่นายวิญญัติ ยืนยันว่าเบื้องต้นนายทักษิณจะขอรับเข้าการพิจารณาคดีทุกรอบหากไม่นิดภารกิจ
เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าประเด็นที่ติดใจคือเรื่องการให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างชาติว่าอาจจะมีการแปลผิด ยังคงติดใจในประเด็นนี้อยู่หรือไม่ นายวิญญัติ ระบุ ภายใน 1-2 วัน จะมีการพิจารณาเรื่องคลิปการสัมภาษณ์อย่างแน่นอน และจะทำให้เห็นว่าคลิปวิดีโอดังกล่าวน่าเชื่อถือหรือไม่ และมีการเก็บพยานหลักฐานมาได้อย่างไร สิ่งเหล่านี้เป็นขั้นตอนในการพิสูจน์หลักฐาน ที่เป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และอิเล็กทรอนิกส์
เมื่อถามว่าศาลจะให้น้ำหนักในเรื่องใด ในการพิจารณาคดี นายวิญญัติระบุว่า ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของท่านไม่สามารถก้าวล่วงท่านได้ ดังนั้นการพิจารณาคดีอาญามีหลักสำคัญ หลักเดียว จำเลยกระทำความผิดตามฟ้อง หรือไม่มีพยานหลักฐาน มีน้ำหนัก เพียงพอหรือไม่
นอกจากนี้ยังพบว่า บริเวณหน้าศาลอาญา ยังมีประชาชนกลุ่มหนึ่ง (4-5คน) สวมเสื้อยืดลายธงชาติพร้อมข้อความ “คนไทยไม่ขายชาติ” จากการสอบถามจากกลุ่มคนดังกล่าว
ต่อมา เวลา 09.10 น. มีรายงานว่า นายทักษิณเดินทางมาถึงที่ศาล โดยเข้าประตูด้านข้างเพื่อขึ้นไปยังห้องพิจารณาคดี ก่อนที่รถ Mercedes-Maybach สีดำ - เงิน ทะเบียน ธษ 267 กทม. ของนายทักษิณจะเข้ามาจอดบริเวณด้านข้างของศาล ที่มีสื่อมวลชนปักหลักรอทำข่าวอยู่
นอกจากนี้ ยังมีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เดินทางมาที่ศาลอาญา ด้วยเช่นเดียวกัน แต่ไม่ได้มีการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า บริเวณด้านหน้าทางขึ้นศาลอาญา มีประชาชนจำนวน 4-5 คน สวมเสื้อยืดลายธงชาติไทย และเขียนคำว่า “คนไทยไม่ขายชาติ” มายืนรอเช่นเดียวกัน ซึ่งจากการสอบถามจากกลุ่มบุคคลดังกล่าว ตอบว่า “ตั้งใจเดินทางมาที่ศาลอาญาหลังจากรู้กำหนดการว่านายทักษิณจะเดินทางมาฟังการสืบพยานในนัดแรก หวังว่านายทักษิณ จะเห็นข้อความที่อยู่บนเสื้อ”