แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายความส่วนตัวยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อสภานายกพิเศษ กรณีมติที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภามีมติพักใบอนุญาตฯ ปม "ทักษิณ ชินวัตร" รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ
วันที่ 13 พ.ค. 2568 ที่อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข นายเนติธร หลินหะตระกูล ทนายความส่วนตัวที่ได้รับมอบอำนาจจากพลตำรวจโททวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะนายกสภาพิเศษ กรณีที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภามีมติการพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในกรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ปม "ทักษิณ ชินวัตร" รักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีมติลงโทษแพทย์ 3 คน โดยเป็นการว่ากล่าวตักเตือน 1 คน ในกรณีประกอบวิชาชีพและเวชกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน เกี่ยวกับการออกใบส่งตัว และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน ในกรณีให้ข้อมูลหรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง ทั้งนี้มีนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับเรื่อง
นายกองตรี ดร.ธนกฤต กล่าวว่า ทนายความผู้รับมอบอำนาจ ได้มายื่นเรื่องเพื่อขอความเป็นธรรมกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะนายกสภาพิเศษ โดยตัวเองในฐานะผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข มีหน้าที่รับเรื่องราวร้องทุกข์ได้มารับเรื่องดังกล่าวเพื่อเสนอต่อรัฐมนตรี ในประเด็นที่เกี่ยวกับเรื่องของแพทยสภามีความเห็นเรื่องการลงโทษบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการวินิจฉัยโรคของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยได้รับเอกสารชี้แจงข้อมูลจำนวน 2 แผ่น
นายเนติธร กล่าวว่า ในฐานะทนายความผู้รับมอบอำนาจ วันนี้มาในฐานะทนายความส่วนตัว โดยได้รับมอบอำนาจมายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อสภานายกพิเศษ เพื่อให้ทบทวนคำสั่งของแพทยสภา ส่วนรายละเอียดขอให้เป็นไปตามการชี้แจงของหนังสือร้องขอความเป็นธรรม ไม่ขอพูดถึงรายละเอียดในส่วนนี้ ทั้งนี้พลตำรวจโททวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ มีความไม่สบายใจที่ได้ข่าวจากสื่อสำนักต่าง ๆ จึงขอใช้สิทธิ์ในการร้องขอความเป็นธรรมเพราะข่าวที่ออกไปก็กระทบต่อชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของท่าน ส่วนรายละเอียดในเรื่องอื่น ๆ จะต้องขอใช้สิทธิ์ตามกระบวนการขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
นายกองตรี ดร.ธนกฤต กล่าวว่า รายละเอียดที่มีอยู่สามารถบอกได้คร่าว ๆ ว่าทางพลตำรวจโททวีศิลป์ทราบจากสื่อมวลชนว่าข้อเท็จจริงมีการลงโทษแพทย์ ทั้งนี้ขั้นตอนการไต่สวนก็ทำให้พอจะทราบว่าใครจะถูกไต่สวนบ้าง จึงได้มีการร้องขอความเป็นธรรม โดยประเด็นที่ร้องขอความเป็นธรรมเพราะอุปนายกแพทยสภาท่านหนึ่งแจ้งไว้ในเรื่องของข้อมูลเชิงประจักษ์ หรือไม่เชิงประจักษ์ในการรักษาว่าเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่อย่างไร จึงอยากอธิบายหรือชี้แจงว่ามีอีกหนึ่งข้อมูลที่มีอยู่ เพื่อประกอบการพิจารณาของนายกสภาพิเศษจะได้มีความเห็นได้ชัดเจน ในมุมที่ท่านยังไม่ได้ชี้แจงต่อแพทยสภาหรือไม่ จึงต้องมีการยื่นเรื่องเพิ่มเติม ส่วนจะมีกี่ท่านที่จะได้รับการลงโทษส่วนตัวยังไม่ทราบ เพราะขณะนี้ได้รับแจ้งจากทางรัฐมนตรีว่ายังไม่มีหนังสือจากแพทยสภามาถึงที่กระทรวงสาธารณสุข
ในวันนี้จะดำเนินการตามขั้นตอนของการรับเรื่อง หลังจากนี้จะเสนอต่อรัฐมนตรีว่าจะต้องมีการตั้งคณะทำงานเพื่อดูข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงคาดว่าจะมีความชัดเจนใน 2-3 วันว่าใครจะเป็นคณะกรรมการในเรื่องนี้ ส่วนการพิจารณาทางรัฐมนตรีจะเป็นผู้พิจารณาวินิจฉัยให้ทันตามกรอบระยะเวลา 15 วัน หลังจากได้รับหนังสือจากแพทยสภา ยืนยันไม่เป็นการประวิงเวลา โดยจะต้องพิจารณาว่าการวินิจฉัยของแพทย์เป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพหรือไม่
มีรายงานว่าในหนังสือร้องขอความเป็นธรรมได้ชี้แจงถึงกรณีที่อุปนายกแพทยสภาท่านหนึ่งแจ้งไว้ในเรื่องของข้อมูลไม่เชิงประจักษ์ ช่วงเวลาที่มีการรักษา มีการวินิจฉัยตามเวชระเบียนที่มีอยู่ว่ามีภาวะช่วงนั้นเป็นช่วงที่วิกฤตหรือไม่วิกฤต แต่กลับไม่ได้นำข้อมูลการวินิจฉัยในช่วงนั้นมาบอกทั้งหมด จึงนำข้อมูลเพิ่มเติมกรณีที่มีการวินิจฉัยโรคมายื่นขอความเป็นธรรม ต่อสภานายกพิเศษ โดยนำข้อมูลในเชิงประจักษ์มาให้รัฐมนตรี เพื่อประกอบการพิจารณาว่าไม่ได้ทำอะไรเกินกรอบ