"ภูมิธรรม" วางกรอบศึกษาทำข้อสรุปประชามติภายใน ธ.ค.นี้ ยึดแนวทางศาลรัฐธรรมนูญ ก่อนชง ครม.อนุมัติ

วันที่ 17 ต.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงความคืบหน้าการตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่าง ในเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย2560 ว่าการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ (16 ต.ค.) ได้รายงานการแต่งตั้งคณะกรรมการนัดแรก ให้กับที่ประชุม ครม. ได้รับทราบ และได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ 2 ชุด ซึ่งเป็นชุดรับฟังความคิดเห็นกับชุดศึกษาแนวทางการทำประชามติ หลังจากนั้นตนเองได้เซ็นคำสั่งออกมาแล้ว

โดยคณะติดตามรับฟังความคิดเห็น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีนายนิกร จำนง ผอ. พรรคชาติไทยพัฒนา เป็นประธาน ส่วนคณะศึกษารัฐธรรมนูญฉบับต่างๆเพื่อหารือว่าการทำประชามติตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะดำเนินการอย่างไร มอบให้ศาสตราจารย์วุฒิสาร ตันไชย อดีตเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า เป็นประธาน โดยวางกรอบเวลาไว้ว่าจะพยายามศึกษาให้เสร็จภายในเดือนธันวาคมนี้ และเดือนมกราคม 2557 ไม่เกินไตรมาสแรก ต้องเสนอ ครม. อนุมัติ เพื่อดำเนินการ และส่งเรื่องให้ กกต. ดำเนินการจัดทำประชามติได้

ส่วนข้อสรุปว่าจะจัดทำประชามติครั้งนั้น นายภูมิธรรมยอมรับว่ามีหลายความเห็น บางคนมีความเห็นว่า 2 ครั้ง น่าจะเพียงพอเนื่องจากประหยัดงบประมาณ และบางคนมองว่าตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ อาจจะต้องทำประชามติ 3 ครั้ง บางคนก็ตีความว่าอาจต้องทำประชามติถึง 4 ครั้งก็ได้ เพราะฉะนั้นเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นการพิจารณาจะต้องทำ อย่างรอบคอบ โดยไม่ต้องให้คนไปยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ หรือถูกตีตกไป จึงต้องพยายามตีความ เป็นไปตามคำ วินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้ชัดเจนว่าจะต้องทำประชามติกี่ครั้ง ให้เป็นไปตามแนวทางที่ศาลได้วางไว้

ระหว่างนี้ เห็นว่าไม่จำเป็นที่ต้องยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความอีกครั้งอีกครั้ง เพราะเรื่องยังไม่เกิดขึ้น ซึ่งศาลอาจจะไม่รับเรื่อง อาจทำให้เสียเวลา ส่วนตัวคิดว่าการศึกษาให้ชัดเจน แล้วค่อยยื่นให้ศาล หรือหากมีคนยื่น ก็ค่อยดำเนินการพิจารณา ถือว่าอยู่ในกระบวนการอยู่แล้ว

ส่วนใครที่จะให้คำตอบได้ว่าจะผ่านศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า คณะกรรมการชุดที่ตั้งขึ้น มีบุคคลหลายฝ่ายทั้งผู้เชี่ยวชาญกฎหมาย จะเป็นคนพิจารณาแนวทางการทำประชามติ อย่างรอบคอบและเกิดความคุ้มค่าและสามารถดำเนินการได้