สวนดุสิตโพล เผยผลสำรวจ เรื่อง "5 นโยบายเร่งด่วน รัฐบาลเศรษฐา" ชี้ประชาชนร้อยละ 86 อยากให้เร่งลดค่าน้ำมัน ไฟฟ้า ก๊าซหุงต้ม มั่นใจนโยบายเงินดิจิทัล 1 หมื่นจะสำเร็จมากที่สุด

วันที่ 27 ก.ย. 2566 สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิตได้เผยโพลสำรวจเรื่อง “5 นโยบายเร่งด่วน รัฐบาลเศรษฐา” ระบุว่า หลังจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2566 โดยระบุว่ามี 5 นโยบายเร่งด่วนที่รัฐบาลจะดำเนินการทันที คือ 1. การเติมเงิน 10,000 บาทผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล 2.การแก้ปัญหาหนี้สินภาคการเกษตร ภาคธุรกิจ และภาคประชาชน 3.การลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้ประชาชน 4.การผลักดันรายได้จากการท่องเที่ยว และ 5.การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ สวนดุสิตโพลจึงสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “5 นโยบายเร่งด่วน รัฐบาลเศรษฐา” จำนวน 1,358 คน (สำรวจทางออนไลน์) ระหว่างวันที่ 18-25 กันยายน 2566 สรุปผลได้ ดังนี้

ความคิดเห็นของประชาชนต่อ 5 นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลเศรษฐา ในนโยบายการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน (ค่าน้ำมัน ค่าก๊าซหุงต้ม ค่าไฟฟ้า) 86%บอกเร่งด่วนที่สุด 10.87%ค่อนข้างด่วน และ 3.13%ชะลอไว้ก่อน, นโยบายการแก้ปัญหาหนี้สินภาคการเกษตร ภาคธุรกิจ และภาคประชาชน 72.69%เร่งด่วนที่สุด 26.04%ค่อนข้างด่วน และ 1.27%ชะลอไว้ก่อน, นโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท 63.95%เร่งด่วนที่สุด 16.38%ค่อนข้างด่วน และ 19.67%ชะลอไว้ก่อน, นโยบายการผลักดันรายได้จากการท่องเที่ยว 58.07%เร่งด่วนที่สุด 33.78%ค่อนข้างด่วน และ 8.15%ชะลอไว้ก่อน และนโยบายการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ 30.85%เร่งด่วนที่สุด 36.14%ค่อนข้างด่วน และ 33.01%ชะลอไว้ก่อน

 

 

เมื่อถามประชาชนคิดว่า 5 นโยบายเร่งด่วนจะทำได้สำเร็จหรือไม่ พบว่า นโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท 63.68%สำเร็จ 11.80%ไม่สำเร็จ 24.52%ไม่แน่ใจ, นโยบายการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน 62.46%สำเร็จ 11.64%ไม่สำเร็จ 25.90%ไม่แน่ใจ, นโยบายการผลักดันรายได้จากการท่องเที่ยว 60.78%สำเร็จ 6.61%ไม่สำเร็จ 32.61%ไม่แน่ใจ, นโยบายการแก้ปัญหาหนี้สินภาคการเกษตร ภาคธุรกิจ และภาคประชาชน 51.28%สำเร็จ 15.36%ไม่สำเร็จ33.36%ไม่แน่ใจ และนโยบายการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ 22.66%สำเร็จ 23.93%ไม่สำเร็จ 53.41%ไม่แน่ใจ

สุดท้ายเมื่อถามว่าประชาชนอยากให้รัฐบาลเศรษฐาเร่งดำเนินการนโยบายใดเพิ่มเติม อันดับ 1 ขึ้นเงินเดือน ขึ้นค่าแรง 52.03% อันดับ 2 ปราบปรามการทุจริต รับสินบน 47.38% อันดับ 3 พัฒนาระบบสาธารณสุข ดูแลสุขภาพประชาชน 43.02% อันดับ 4 ปฏิรูปการศึกษาไทย 38.95% และอันดับ 5 กระตุ้นเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน 36.05%