ไทม์ไลน์คดียิงสารวัตรทางหลวงในบ้านกำนันนก ก่อนลูกน้อง "หน่อง ท่าผา" พบจุดจบถูกวิสามัญ

วันที่ 7 ก.ย.66

06.00 น. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมอาวุธครบมือตามล่านายธนัญชัย ด้าน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการด่วนให้ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พร้อมชุดหนุมาน และ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เร่งรัดออกหมายจับนายธนัญชัย พร้อมไล่ล่าติดตามจับกุมมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว หากขัดขืนพร้อมจะใช้มาตรการเด็ดขาดดำเนินการ

09.30 น. ศาลจังหวัดนครปฐมออกหมายจับ นายธนัญชัย หมั่นมาก อายุ 45 ปี ในข้อหาประกอบด้วย ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พยายามฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต, ให้มีอาวุธปืนติดตัว และโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมนุมชน รวม 6 ข้อหา

11.00 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า เป็นพฤติกรรมที่อุกอาจมาก ขนาดตำรวจยังกล้าลงมือทำขนาดนี้แล้วประชาชนจะได้รับความปลอดภัยได้อย่างไร กำชับให้เร่งล่าคนร้ายอย่างเร่งด่วน ขอบอกไว้เลยว่าถ้าคนร้ายต่อสู้ตำรวจก็จะจัดการขั้นเด็ดขาดทันที ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เตรียมยื่นเรื่องไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขอรับโอนสำนวนคดีมาอยู่ในความดูแลของพนักงานสอบสวนกองปราบ

15.00 น. ศาลจังหวัดนครปฐม อนุมัติหมายจับ นายประวีณ จันทร์คล้าย อายุ 35 ปี ชาวจังหวัดนครปฐม ที่ จ.469/2566 ลงวันที่ 7 ก.ย.2566 ในความผิดฐาน “เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามฆ่าผู้อื่น” หลังพบพยานหลักฐานว่ามีส่วนเชื่อมโยงหรือเกี่ยวข้องกับกรณีที่นายธนัญชัย ยิง พ.ต.ต.ศิวกร เสียชีวิต และ พ.ต.ท.วศิน บาดเจ็บ

16.20 น. นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก พร้อมทนายความเข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม โดยมี พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รองผู้บังคับการกองปราบปราม ไปเปิดประตูแล้วดึงตัวลงมาจากรถทันที

วันที่ 8 ก.ย.66

05.45 น. ตำรวจวิสามัญ นายธนัญชัย หมั่นมาก เสียชีวิตข้างรถกระบะ ในซอยโรงเจร้าง หลังวัดพระแท่นดงรัง อ.ท่าเรือ จ.กาญจนบุรี หลังมีพฤติกรรมต่อสู้ขัดขวาง ชักอาวุธปืนยิงใส่ต่อสู้เพื่อจะหลบหนี

08.30 น. ตำรวจกองปราบปรามเบิกตัวนายประวีณ หรือกำนันนก จาก สภ.เมืองนครปฐม มายังกองบังคับการปราบปราม เพื่อสอบปากคําอย่างละเอียดอีกครั้ง หลังจากตลอดคืนที่ผ่านมา กํานันนกยังคงให้การปฏิเสธ อ้างว่าไม่ได้สั่งให้นายธนัญชัยยิง พ.ต.ต.ศิวกร แต่อย่างใด ยอมรับเพียงแค่ว่าอยู่ในเหตุการณ์เท่านั้น นายธนัญชัย เป็นผู้ตัดสินใจยิงเองไม่เกี่ยวกับตน

"อนุทิน" ได้รับรายงานจากผู้ว่าฯ นครปฐม สั่ง "กำนันนก" ออกจากราชการไว้ก่อน ย้ำทำแบล็กลิสต์ห้ามอันธพาลปกครองชาวบ้าน จ่อประสาน สตช. พกปืนร่อนไปทั่วไม่ได้

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงสั่งการให้กระทรวงมหาดไทยขึ้นบัญชีผู้ทรงอิทธิพลไม่ให้เข้ามาเป็นผู้นำท้องถิ่น หลังเกิดเหตุการณ์ที่จังหวัดนครปฐม ว่า อย่าใช้คำว่าสั่งการ เราเพียงแต่จะต้องคัดกรองบุคคลที่จะเข้ามาดูแลความเป็นอยู่ของประชาชน นอกจากจะต้องมีบุคลิกลักษณะเป็นผู้นำแล้ว จะต้องมีคุณธรรมไม่ใช้อิทธิพลในการปกครองดูแลชาวบ้าน แต่ถ้าเป็นผู้มีอิทธิพลแล้วมาปกครองดูแลชาวบ้านก็อาจจะเกิดเหตุการณ์แบบที่จังหวัดนครปฐมได้อีก ไม่พอใจก็จะใช้อารมณ์

เมื่อถามว่า จำเป็นจะต้องประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อขอประวัติบุคคลเหล่านี้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า จำเป็นจะต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียด เพราะเชื่อว่าประชาชนเองก็ไม่ต้องการที่จะอยู่ภายใต้การนำของอันธพาลเหล่านี้

ทั้งนี้ นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า ได้รับรายงานจากทางจังหวัดนครปฐมแล้วว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ขอให้นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก มามอบตัวแล้ว และคงจะมีการสั่งออกจากราชการไว้ก่อน คือหยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเราก็ต้องดูพฤติกรรมของคนเหล่านี้ ว่าจะปล่อยไปคุกคามประชาชนแบบนี้ไม่ได้ ต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด

“เศรษฐา” กร้าวรัฐบาลไม่ยอมรับการวิ่งเต้น-ส่วยตั้งข้าราชการ ปัดตอบตำรวจวิสามัญ "หน่อง ท่าผา"

ที่จ.ขอนแก่น นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีตำรวจถูกยิงเสียชีวิตคาบ้านกำนันดังในจ.นครปฐม โดยมีการเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับการวิ่งเต้นรับฝากคนเข้าราชการ ว่า เป็นเรื่องน่าเศร้า ซึ่งตนเคยได้แถลงการณ์ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีวันแรกแล้วเกี่ยวกับเรื่องการโยกย้ายข้าราชการอย่างเป็นธรรม ไม่ใช่แค่ข้าราชการตำรวจ แต่รวมถึงเรื่องของการซื้อขายตำแหน่งที่ต้องไม่มี

“เราต้องคิดถึงใจเขาใจเรา ทำงานมาตลอดทั้งชีวิต กำลังจะขึ้นสู่ตำแหน่งที่ดี แต่ต้องมาถูกนักการเมืองที่ไม่มีความเป็นธรรมมาโยกย้าย ซึ่งเคสนี้แย่กว่านั้นอีก เพราะเท่าที่ได้ยินมาเป็นผู้มีอิทธิพลมาโยกย้ายตำรวจ แล้วเกิดไม่ได้ดั่งใจ ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้บอกต้องเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้” นายเศรษฐา กล่าว

เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ตั้งแต่ผู้กำกับเข้าไปเกี่ยวข้อง นายเศรษฐา กล่าวว่า ทราบว่ารองผบ.ตร.ได้เรียกตำรวจทั้ง 20 นายที่เกี่ยวข้องเข้าไปสืบสวนแล้ว แต่ต้องให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ด้วย ทุกอย่างต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย และตนมั่นใจว่ารัฐบาลที่มาจากประชาชนที่ให้นโยบายเรื่องส่วย เรื่องของการแต่งตั้งไม่เป็นธรรม ซึ่งตนได้พูดไปหลายครั้ง หลายเวทีแล้ว และรัฐมนตรีได้รับทราบแล้ว เชื่อว่าไม่มีใครกล้า

วิโรจน์ แฉแชตลับสารวัตรแบงก์คือมือปราบน้ำหนักเกิน

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณี พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือสารวัตรแบงค์ ตำรวจทางหลวง ถูกยิงเสียชีวิตภายในงานเลี้ยงบ้านนายธนัญชัย หมั่นมาก หรือ กำนันนก จังหวัดนครปฐม

โดยเป็นภาพแชตไลน์ระหว่างชาวบ้านและสารวัตรแบงค์ พูดคุยเรื่องร้องเรียนเรื่องรถบรรทุกน้ำหนักเกินในพื้นที่

เบื้องต้น ผมคิดว่า ตำรวจระดับบังคับบัญชา ที่ จ.นครปฐม และตำรวจระดับบังคับบัญชาบางนาย ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ไม่น่าจะมีสภาพ และความน่าเชื่อถือพอที่จะจัดการกับคดีนี้ได้แล้ว ขนาดจะหาข้าวให้ลูกน้องกิน ยังต้องไปขอให้ผู้มีอิทธิพลมาเลี้ยง แถมตำรวจระดับสูงบางนายยังมีข้อครหา ว่ามีส่วนพัวพันกับส่วย และการเอื้อผลประโยชน์ให้กับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่อีกด้วย เบื้องต้นทาง ผบ.ตร. ควรตัดสินใจโยกย้ายนายตำรวจใหญ่ที่ต้องสงสัยเหล่านั้น ให้ออกนอกพื้นที่ ไม่ให้เข้ามาแทรกแซงการดำเนินคดีได้ พร้อมกับตั้งกรรมการสอบอย่างตรงไปตรงมา และพิจารณาดำเนินคดีอาญา กับตำรวจระดับบังคับบัญชา ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับส่วย และการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ด้วย

ผบ.ตร. ควรโยกเอานายตำรวจที่มีความตรงไปตรงมา เข้ามากำกับดูแลในคดีนี้แทน เพื่อให้สร้างความมั่นใจให้กับประชาชน และเป็นการเรียกขวัญและกำลังใจข้าราชการตำรวจน้ำดีในพื้นที่กลับมา

ผมได้รับการยืนยันว่า ที่ผ่านมา พ.ต.ต.ศิวกร เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา เป็นตำรวจทางหลวงที่ดำเนินการจับกุมกับรถบรรทุกที่บรรทุกน้ำหนักเกินในพื้นที่ อย่างเคร่งครัด ไม่มีการละเว้น ทั้งๆ ถูกตำรวจระดับสูงบางนายจากภูธรภาค 7 ต่อสายมากดดัน ก็ยังซื่อตรงต่อหน้าที่

ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผบ.ตร. จะให้ความเป็นธรรมกับ พ.ต.ต.ศิวกร ไม่ปล่อยให้ตำรวจน้ำดีต้องมาตายฟรีด้วยเงื้อมมือของผู้มีอิทธิพล และต้องไม่ปล่อยให้นายตำรวจยศใหญ่ๆ ทำตัวเป็นลูกสมุนรับใช้ผู้มีอิทธิพล ให้อยู่เหนือกฎหมายตามอำเภอใจได้อีกต่อไป

ที่สำคัญที่สุด ผมทราบมาว่า พ.ต.ต.ศิวกร เป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว ของลูกสาวในวัยเพียง 6 ขวบ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการสอบสวนกลาง ในฐานะต้นสังกัดของ พ.ต.ต.ศิวกร จะดูแลเยียวยาครอบครัวของ พ.ต.ต.ศิวกร และลูกสาวของนายตำรวจตงฉินคนนี้ เป็นอย่างดี