"รศ.ดร.ธนพร ศรียากูล" ฟันธง 22 สิงหาคม วันโหวตเลือกนายกฯ "ทักษิณ ชินวัตร" กลับบ้านแน่นอน และสุดท้ายแล้ว นายกฯ คือ "อุ๊งอิ๊งค์" ส่วน ‘เศรษฐา’ ถ้ามีการเสนอชื่อเข้าสภา ก็จะไม่ผ่านด่าน สว.

กลายเป็นข่าวฮือฮาขึ้นมาทันที หลัง “อุ๊งอิ๊งค์ – แพทองธาร ชินวัตร” โพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรมและทวิตเตอร์ “จะไปรับคุณพ่อทักษิณ ที่สนามบินดอนเมือง ในวันที่ 22 สิงหาคม” ซึ่งเป็นวันเดียวกับการโหวตนายกฯ ทำให้สถานการณ์การเมืองไทยร้อนฉ่าขึ้นมาเลย

โดย “ข่าวช่อง 8” ได้พูดคุยกับ “รศ.ดร.ธนพร ศรียากูล” ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์การเมืองและนโยบาย ว่าครั้งนี้กลับจริงหรือเลื่อนอีก รวมถึงการประกาศกลับบ้านครั้งล่าสุด มีนัยอย่างไรทางการเมือง ซึ่ง “รศ.ดร.ธนพร” ได้วิเคราะห์ ดังต่อไปนี้

“แหล่งข่าวผมกับ ‘คุณอุ๊งอิ๊งค์’ คือแหล่งข่าวเดียวกัน และในเมื่อ “คุณอุ๊งอิ๊งค์” ประกาศว่าคุณพ่อจะกลับบ้าน ข่าวก็ตรงกันกับที่ผมได้รับมา เพราะฉะนั้นผมจึงเชื่อว่า ‘คุณทักษิณ’ จะกลับไทยในวันที่ 22 สิงหาคมนี้

“ซึ่งผมยืนยันมาโดยตลอดว่า คุณทักษิณกลับแน่นอน เพราะว่า 1. มั่นใจแล้วว่า ‘เพื่อไทย’ ได้เป็นรัฐบาลและเป็นนายกฯ 2. ถ้าไม่กลับช่วงนี้ แบบตัวเป็นๆ หากกลับช่วงอื่นก็คงไม่ใช่ตัวเป็นๆ แล้ว

“โดยการกลับครั้งนี้ เพราะดีลต่างๆ จบแล้ว ทำให้ ‘คุณทักษิณ’ มั่นใจ เราจะเห็นว่าการเลื่อนวันโหวตนายกฯ วันที่ 18 สิงหาคม ไปเป็นวันที่ 22 สิงหาคม ทำให้ ‘พรรคเพื่อไทย’ มีเวลาเพิ่มมากขึ้นในการจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรี แล้วที่สำคัญก็คือ มีเวลาเพิ่มมากขึ้นที่จะตัดสินใจว่า จะเสนอ ‘คุณเศรษฐา’ หรือ ‘คุณอุ๊งอิ๊งค์’ เป็นนายกฯ

“ในตอนนี้ คนที่ออกมาพูดว่าเป็น ‘คุณเศรษฐา’ ก็มีแต่คนของ ‘พรรคเพื่อไทย’ แต่คนที่มาร่วมจัดตั้งรัฐบาล ค่อนข้างสงวนท่าที ประกาศแต่เพียงว่า สนับสนุนนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย แต่ก็ไม่มีพรรคไหนกล้ายืนยันว่า สนับสนุน ‘คุณเศรษฐา’

“ขณะเดียวกัน ในส่วนของ สว. ก็เงียบกริบเลย ไม่มีใครล่วงรู้ได้ว่า สว. จะโหวตให้ ‘คุณเศรษฐา’ หรือไม่ แต่จากข่าววงในที่ผมได้รับทราบมา ถึงวันนี้ สว. ยังไม่โหวตให้ ‘คุณเศรษฐา’

“ดังนั้นในวันที่ 22 สิงหาคม หาก ‘เพื่อไทย’ จะเสนอ ‘อุ๊งอิ๊งค์’ เป็นนายกฯ นั่นคือโซลูชั่นที่ดีที่สุดของ ‘ลุงโทนี่’ แต่ถ้า ‘พรรคเพื่อไทย’ คิดว่าจะลองเสนอ ‘คุณเศรษฐา’ ไปก่อนก็ได้ แล้ว ‘คุณเศรษฐา’ ก็จะไม่ผ่าน

“นั่นหมายความว่า กระบวนการเลือกนายกฯ ก็จะไปถึงรอบที่ 4 แล้วไปจบที่ ‘คุณอุ๊งอิ๊งค์’ เป็นนายกฯ แต่สิ่งที่ ‘พรรคเพื่อไทย’ จะสูญสียไปก็คือ การเข้าไปทำงานเร่งด่วน อย่างน้อยที่สุดก็คือ การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ‘พรรคเพื่อไทย’ จะถูก ‘ลุงตู่’ ชิงการนำโดยการแต่งตั้งไปเรื่อยๆ

“ดังนั้นถ้าโหวตนายกฯ วันที่ 22 สิงหาคม ไม่จบ ‘ลุงตู่’ ก็มีความชอบธรรมในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ เพราะยังไม่ได้รัฐบาลใหม่ แต่ถ้าจบวันที่ 22 สิงหาคมได้ มันก็จะทำให้เกมที่จะแต่งตั้งข้าราชการในกระทรวงทบวงกรมต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผบ.เหล่าทัพ กับ ผบ.ตร. จะถูกกระแสกดดันว่า ได้นายกฯ แล้ว ‘ลุงตู่’ ไม่ควรแต่งตั้งโยกย้ายอีก ถึงแม้กฎหมายจะให้อำนาจไว้ก็ตาม

“ซึ่งการแต่งตั้งข้าราชการ คือกลไกที่ ‘พรรคเพื่อไทย’ จะต้องเข้าไปมีบทบาทให้เร็วที่สุด เพราะอย่าลืมนะครับว่า ‘ระบอบประยุทธ์’ หรือว่า ‘รัฐพันลึก’ ในการจัดการ ‘คุณทักษิณ’ และเครือข่าย ก็จะจัดการผ่านคนเหล่านี้ ที่เราเรียกว่า ‘กลไกรัฐประหาร’

“เพราะฉะนั้นแล้ว ถ้า ‘พรรคเพื่อไทย’ ไม่สามารถเข้าไปจัดการบริหารกลไกนี้ได้ ก็ต้องบอกว่า สภาพนายกฯ คนใหม่จะไม่ต่างจาก ‘ท่านนายกฯ สมัคร’ ที่ต้องประนีประนอม แล้วสุดท้ายก็ไปไม่รอด

“แต่ถ้าเป็น ‘คุณอุ๊งอิ๊งค์’ และหากสามารถเข้าไปมีบทบาทในการแต่งตั้งโยกย้ายในครั้งนี้ได้ทัน อย่างน้อยที่สุดก็จะอยู่ในฐานะที่ต่อรองได้ ซึ่งยังดีกว่าต่อรองอะไรไม่ได้เลย

“การกลับบ้านของทักษิณในวันที่ 22 สิงหาคมนี้ ผมคิดว่าส่งผลดีมากกว่าผลเสีย ตามที่ผมเคยเรียนกับทาง ‘ข่าวช่อง 8’ ไปแล้วครับว่า ทุกพรรคที่เข้ามาร่วมจัดตั้งรัฐบาล เขาไม่เชื่อคำพูดของลูกหาบที่เจรจากันอยู่

“ทุกพรรคล้วนแต่ต้องการคุยตรงกับเจ้าของพรรค หรือสายตรงกับเจ้าของพรรค ถ้า ‘ลุงโทนี่’ อยู่เมืองนอก ถามว่าวีดีโอคอลได้ไหม โทรศัพท์คุยได้ไหม ก็ทำได้หมดแหละ แต่มันไม่สะดวกและชัดเจนเหมือนอยู่ในประเทศ

“แล้วถ้ามันต้องไปส่งผลกระทบกับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจากการเจรจา มันก็สามารถแก้ไขได้อย่างทันท่วงที อันนี้ก็เป็นเหตุผลที่ผมเคยเรียน ‘ข่าวช่อง 8’ ไปแล้ว

“ส่วนการรับโทษตามกระบวนการยุติธรรมนั้น คงไม่มีอะไรพิเศษในเชิงรูปแบบ แต่ในรายละเอียดมันไม่มีอะไรที่ไม่พิเศษหรอก ผมเคยบอกแล้วว่า อย่างน้อยที่สุด ‘กรมราชทัณฑ์’ เขาจะต้องดูแลคุณพ่อของว่าที่นายกฯ เป็นอย่างดี ซึ่งสิ่งที่จะทำให้ลุงโทนี่ก็มีความมั่นอกมั่นใจถึงขีดสุด มันมีเพียงเงื่อนไขเดียว นั่นก็คือ ‘คุณอุ๊งอิ๊งค์’ ต้องเป็นนายกรัฐมนตรี

“ผมพูดเรื่องนี้มานานหลายเดือน ได้พูดมาก่อนคนอื่น แล้วผมก็ไม่กลัวหน้าแตก เพราะผมได้ย้ำกับ ‘ข่าวช่อง 8’ มาตลอดว่า นโยบายเร่งด่วนที่สุดของ ‘พรรคเพื่อไทย’ ไม่ใช่การเติมเงินดิจิทัลหนึ่งหมื่น ไม่ใช่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่คือการอำนวยความสะดวกให้ลุงโทนี่กลับบ้าน”