ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 13 .00 น.แอปพลิเคชัน Smart Vote ของ กกต. แจ้งเตือนข้อความแปลกๆ เช่น ก้าวไกล no1 , ลุงตู่ลุงตู่อยู่ไหนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลอยู่รวมไทยสร้างชาติ เป็นต้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 13:32 ผู้อำนวยการประชาสัมพันธ์สำนักงาน กกต. แจ้งผ่านไลน์กลุ่ม "ภารกิจ กกต." ซึ่งเป็นกลุ่มสมาชิกที่เป็นสื่อมวลชนแต่ละสำนักว่า ขณะนี้ มีพวกแฮกเกอร์ กำลังเข้าโจมตีในแอปพลิเคชัน Smart Vote ทำให้มีข้อความประหลาดในการแจ้งเตือนของแอปพลิเคชัน Smart Vote ของเราค่ะซึ่งทางสปส.(สำนักประชาสัมพันธ์ ได้แจ้งทางสำนักสนับสนุนการเลือกตั้งและการออกเสียงประชามติแล้ว จึงเรียนมาเพื่อทราบ”

มีการวิเคราะห์ภาษากาย ของนายพิธา ขณะชูบัตรสส. มีการเม้มปาก รวมทั้ง สส.คนอื่นๆของพรรค ก็เม้มปากเช่นเดียวกัน

ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปสอบถาม ดร.ตฤณห์ โพธิ์รักษา นักอาชญาวิทยาเชิงจิตวิทยาและพฤติกรรม ซึ่งเป็นอาจารย์สอนประจำอยู่ที่คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อให้อาจารย์ถอดรหัสภาษากายของคุณพิธาที่แสดงออกมาในวันนั้น (19 ก.ค.)

อาจารย์ตฤณห์ ได้วิเคราะห์หลังจากที่ทีมข่าวได้เปิดคลิปคุณพิธาให้ดู อาจารย์ให้ความเห็นว่า ลักษณะภาษากายของคุณพิธาในวันที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญจะสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่วันนั้น จากคลิปตนเองสังเกตได้ชัดเจนมาก ทั้งสีหน้าและการขมวดคิ้วบางช่วงของคุณพิธา ซึ่งแสดงออกถึงความ อึดอัด โกรธ และเคร่งเครียด ถึงแม้คุณพิธาจะยิ้มและยกมือไหว้กับเพื่อนสมาชิกระหว่างเดินออกจากห้องประชุม

แต่วินาทีที่ คุณพิธา ได้ถอดบัตรสมาชิกรัฐสภาจากหน้าอกชูบัตรขึ้นและวางลงบนโต๊ะ จะเห็นได้ชัดเจนว่า คุณพิธาได้เม้มปากไปด้วย ซึ่งเป็นการแสดงภาษากายที่แสดงออกมาอย่างไม่รู้ตัว หรือ ไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งเกิดจากสมองส่วน Subconscious (ซับ-คอน-เชิส) สมองส่วนที่มนุษย์เราแสดงออกโดยไม่รู้ตัวอยู่ในจิตใตสำนึก

ซึ่งการที่คุณพิธาเม้มปากนั้น เรียกว่า “inward lip roll” คืออาการที่คุณพิธาพยายามควบคุมอารมณ์หรืออดกลั้นอารมณ์ลบ ทั้งความเครียด,โกรธ,เสียใจ,ผิดหวัง หรือ ความกังวลเอาไว้ ซึ่งจากสีหน้าและอาการของคุณพิธา แสดงออกชัดเจนว่า กำลังเก็บอารมณ์ที่มีความเข้มข้นสูง รุนแรง แต่พยายามเก็บอารมณ์ลบเอาไว้ จึงแสดงออกด้วยการเม้มปากออกมา

และเท่าที่ตนเองดูจากคลิป ไม่ใช่แค่คุณพิธาเพียงคนเดียวที่มีการลักษณะการแบบนั้น จะสังเกตได้ว่า สมาชิกพรรคก้าวไกลแต่ละคนก็เป็นอาการเช่นเดียวกัน คือการเม้มปาก

ส่วนการชูมือขึ้นและกำหมัดของคุณพิธาตนเองจะขอไม่อ่านภาษากายเนื่องจากเป็นการแสดงออกที่เกิดจากความตั้งใจสามารถตีความได้หลายอย่างแล้วแต่ตัวบุคคลที่จะแสดงออกมา

ส่วนการเข้าไปเขย่าหรือจับแขนของลูกพรรคและสมาชิกคนอื่นๆที่ทำกับคุณพิธา และคุณพิธาได้ทำกับ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ขณะเดินออกนั้น นั่นหมายถึง การเข้าไปให้กำลังใจ ซึ่งเป็นการตั้งใจให้กำลังใจอย่างหนักแน่น และทำให้ผู้ที่ถูกสัมผัส แน่วแน่ และมั่นคง

ส่วนที่คุณพิธาได้เข้าไปจับมือ กอด สมาชิกคนอื่นๆ ระหว่างเดินออก ก็ตีความหมายถึง การไม่ต้องเป็นห่วง และให้กำลังใจซึ่งกันและกัน

ส่วนที่สมาชิกพรรคก้าวไกลคนอื่นๆ ที่ได้เอามือกุมไว้ด้านหน้า ระหว่างคุณพิธาเดินออกจากห้องประชุมรัฐสภานั้น หมายถึง การต้องการรักษความสงบ ต้องการให้อารมณ์นิ่ง หรือ เป็นการให้เกียรติ หรือ อีกอย่างคือ ยืนเพื่อไว้อาลัย เพราะผิดหวัง ซึ่งการแสดงออกภาษากายของทุกคนในพรรค เห็นได้ชัดเจนว่า เศร้า เสียใจ และผิดหวัง

นอกจากนี้ ก่อนหน้าที่นายพิธา จะเดินออกจากห้องประชุม ได้กล่าวอำลา พร้อมทิ้งท้ายว่า “ผมคิดว่าประเทศไทยเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม และถ้าประชาชนชนะมาได้แล้วครึ่งทาง เหลืออีกครึ่งทางถึงแม้ผมไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ แต่ขอให้เพื่อนสมาชิกทุกคนดูแลประชาชนต่อไป” จากนั้นชูกำปั้น ยกขึ้นเหนือศรีษะซึ่งการชูกำปั้น ยกขึ้นเหนือศรีษะ เรียกว่า Raised Fist ไม่ใช่เพียงการทำเท่ ท่าเก๋ หรือท่าถ่ายรูปเท่านั้น แต่เป็นสัญญะทางการเมืองในการต่อต้านเผด็จการสากล โดยการชูกำปั้น “Raised fist” เป็นการแสดงออกอย่างสันติวิธี เป็นภาพสะท้อนความหมายที่หลากหลายที่มีมาช้านาน มักจะเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเคลื่อนไหวทางการเมือง

ทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ทั่วไปของการต่อต้านระบอบกดขี่ และขบวนการทางสังคมที่ปฏิวัติอื่น ๆ รวมถึงสามารถใช้แทนคำทักทายเพื่อแสดงความสามัคคี ความแข็งแกร่ง หรือการต่อต้าน

ถอดรหัสกายวันพิฆาตพิธา ต้องเม้มปาก สุดกลั้นแต่ทรนง บอกชัดสู้ไม่ถอย