ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.10 น. ก่อนที่นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล จะแถลงข่าวความคืบหน้าการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลของฝั่งพรรคก้าวไกล

เช้านี้นายพิเชษฐ์ ปานดำ พร้อมกลุ่มอนุรักษ์ ป่าชายเลนบ้านอ่าวกุ้ง จังหวัดภูเก็ตประมาณ 10 คน นำพริก กะปิ สะตอ และของพื้นบ้าน มามอบให้กำลังใจพรรคก้าวไกล โดยมีนายชัยธวัช มาเป็นตัวแทนรับ



โดยนายพิเชษฐ์ บอกว่า จะทำน้ำพริกกุ้งเสียบ 9 ครก คือ ก้าวไกล ก้าวหน้า ให้คนในพรรคกิน เพื่อเป็นกำลังใจ ให้กลับพรรคก้าวไกลในฐานะที่ได้เสียงอันดับ 1 ของมหาชนและประชาชน จึงอยากให้พรรคก้าวไกลผ่านพ้นอุปสรรคทุกอย่างของระบอบที่ซับซ้อน

ขณะที่ นายชัยธวัช ยิ้มรับ และตอบสั้นๆ ว่า สิ่งที่จะแถลงในวันนี้ เป็นข่าวดีแน่นอน ขอให้เราฟัง รับรองแซ่บเหมือนน้ำพริก พร้อมกับชูเม็ดพริกสีส้ม บอกว่า “พริกสีส้มเปรียบเหมือนพรรคก้าวไกล”

หลังแถลงข่าวแล้วเสร็จ นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ได้ลงมาตำน้ำพริกกับกลุ่มอนุรักษ์ป่าชายเลนบ้านอ่าวกุ้ง โดยตั้งชื่อเมนูน้ำพริกที่ตำว่า ให้เข้ากับสถานการณ์ว่า “น้ำพริกกุ้งเสียบก้าวไกล” หรือ “น้ำพริกกุ้งเสียบส้มจี๊ด”

ขณะที่ท่าทีของพรรคที่มีคะแนนอันดับ3 นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากพรรคเพื่อไทย จึงไม่ทราบว่าพรรคเพื่อไทย จะมีแนวทางอย่างไร

ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย มีจุดยืนที่ได้แถลงการณ์ และพูดหลายครั้งแล้วว่า เราจะไม่ร่วมจัดตั้งรัฐบาล กับพรรคที่มีนโยบายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

"พูดให้ชัดเจน ก็คือ พรรคก้าวไกล พรรคเดียวที่มีนโยบาย เรื่องนี้ และ ไม่มีท่าทีที่จะลดระดับ มีแต่จะเพิ่มความแข็งกร้าวขึ้น ทั้งแกนนำพรรคก้าวไกล คณะก้าวหน้า และ ผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกล มีการผลักดันที่จะให้แก้ไข มาตรา 112 อย่างแข็งกร้าว ไม่รับฟังเสียงทักท้วง คำร้องขอของใครทั้งนั้น ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่า ประเด็นนี้ จะทำให้เกิดความขัดแย้งของคนในชาติ" นายอนุทิน ระบุ

หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ถ้าเราได้รับการติดต่อจากพรรคเพื่อไทย ให้ร่วมจัดตั้งรัฐบาล ถ้ายังมีพรรคก้าวไกลอยู่ เราเข้าร่วมไม่ได้

ด้านนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ข้อความเฟซบุ๊ก ระบุว่า "ผมได้รับการสอบถามมาตลอดเวลาว่าแนวทางของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ในการโหวตเลือกนายกฯ ต่อไปจะเป็นอย่างไร จึงขอเรียนเพื่อความชัดเจนตรงนี้นะครับว่าเราพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)
1) เราเห็นความสำคัญของการจัดตั้งรัฐบาล แต่ความมั่นคงของชาติบ้านเมืองและสถาบันหลักทั้งสามของชาติสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด

2) เรายึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เราจึงไม่เห็นชอบกับบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนายกฯ ที่ผ่านมาทั้งสองครั้ง เพราะเราไม่เชื่อว่าพรรคก้าวไกลซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่บุคคลดังกล่าวสังกัดอยู่จะมีแนวทางเดียวกับเราอย่างแท้จริง

3) ในการโหวตเลือกนายกฯ ครั้งต่อไปหากยังมีพรรคก้าวไกลร่วมเป็นรัฐบาลด้วยเราก็จะไม่เห็นชอบกับบุคคลใดจากพรรคใดก็ตามที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯ เพราะจากการดำเนินการทางการเมืองที่ผ่านมาของพรรคก้าวไกลทำให้เราไม่เชื่อว่าพรรคดังกล่าวจะเปลี่ยนแนวทางและอุดมการณ์ของพรรคได้
4) เราจะไม่ร่วมเป็นรัฐบาลกับพรรคการเมืองใดก็ตามที่นำพรรคก้าวไกลมาร่วมเป็นรัฐบาลด้วยอย่างเด็ดขาดเพราะกรรมเป็นเครื่องชี้เจตนาชัดเจนนะครับ

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ว่า จากสถานการณ์ล่าสุดทราบว่า ในการประชุมรัฐสภาวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ จะมีการเสนอแคนดิเดตนายกฯรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย พรรคชาติไทยพัฒนายินดีสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯรัฐมนตรีที่เสนอโดยพรรคเพื่อไทย แต่มีเงื่อนไขว่าพรรคเพื่อไทยจะต้องไม่ทำงานร่วมกับพรรคการเมืองที่มีนโยบายแก้ไขหรือยกเลิกกฎหมายอาญา มาตรา 112 เช่นพรรคก้าวไกลที่มีนโยบายชัดเจนในเรื่องนี้มาโดยตลอด เพราะจุดยืนของพรรคชาติไทยพัฒนาคือ ไม่แตะต้อง และไม่แก้ไข มาตรา 112

เมื่อถามว่า ทางพรรคเพื่อไทยมีใครโทรศัพท์มาพูดคุยทาบทามแล้วหรือยัง นายวราวุธ กล่าวเพียงสั้นๆว่า ยังไม่มี เพียงแต่เราย้ำว่า หากไม่มีการแก้ไขมาตรา 112 ชาติไทยพัฒนาก็ยินดีสนับสนุน

ฟากฝั่งพรรคประชาธิปัตย์ คุณมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข จากพรรคประชาธิปัตย์โดยเธอเป็นหนึ่งในรายชื่อที่ถูกเสนอเป็นหัวหน้าพรรค ผู้สื่อข่าวถามถึงประเด็นหากพรรคเพื่อไทยจะมีการจับขั้วรัฐบาลใหม่แต่ไม่มีการเทียบเชิญพรรคประชาธิปัตย์ ทางพรรคประชาธิปัตย์จะคิดเห็นอย่างไร เธอเปิดเผยว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่อยู่มานาน การที่พรรคเพื่อไทยจะเทียบเชิญให้ไปเป็นรัฐบาลร่วมด้วยนั้น ยังไม่มีการติดต่อมา แต่ถึงแม้ว่ามีการติดต่อมาพรรคประชาธิปัตย์เองก็พร้อมที่จะเป็นทั้งพรรครัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านอยู่แล้ว ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ทำ 2 หน้าที่นี้มาได้ดีอยู่เสมอ แต่การจะให้พรรคประชาธิปัตย์ไปร่วมโดยมีพรรคก้าวไกลอยู่ด้วยอาจป็นเรื่องที่ยาก เพราะอุดมการทางการเมืองไม่ตรงกัน เนื่องจากพรรคก้าวไกลมีปัญหา เรื่องการแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันอยู่

ผู้สื่อข่าวถามต่อ ถ้าหากครั้งนี้พรรคเพื่อไทยมีการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคือคุณเศรษฐา พรรคประชาธิปัตย์จะมีการโหวตอย่างไร เธอเปิดเผยว่าต้องมีการประชุมกรรมการบริหารพรรค มีมติผ่านคณะกรรมการบริหารพรรคก่อนจึงจะตอบได้

ส่วนประเด็น การถูกเสนอชื่อเป็นหัวหน้าพรรคคนต่อไปเธอเปิดเผยว่าประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่ต้องการการปฏิรูปอย่างเร่งด่วนเพราะในสมัยการเลือกตั้งปี 2562 ประชาธิปัตย์ได้ ส.ส.จำนวน 50 ที่นั่งแต่ปัจจุบันพรรคประชาธิปัตย์ได้มาเพียง 25 ที่นั่ง หากเธอได้เข้าไปเป็นหัวหน้าพรรค การที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ ส.ส. น้อยลงไม่ได้หมายถึงว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ดี เป็นเพราะการสื่อสารระหว่างพรรคและประชาชนยังไม่สามารถเชื่อมต่อกัน สังคมเปลี่ยนไป การใช้ชีวิตแบบนิวนอลมอล ทำให้คนเสพข่าวปลอม IO มาเกินไป จึงไม่รู้ว่าประชาชนได้รับข่าวสารจริงเท็จแค่ไหน รวมทั้งมีการปฎิรูปในเรื่องของบุคคลากร ถ้าหากพรรคเพื่อไทยปล่อยมือพรรคก้าวไกลและไปจับมือกับพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย แต่ไม่มีพรรคประชาธิปัตย์มีความคิดเห็นอย่างไร เธอเปิดเผยว่าพรรคประชาธิปัตย์พร้อมที่จะเป็นทั้ง 2 อย่าง ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทยมีนโยบายหลายอย่างที่เธอกังวลว่าจะไม่สามารถทำได้ เช่นนโยบาย การแจกเงินดิจิตอล 10,000 บาทต่อคน โดยทั่วไปการแจกเงินเป็นเหมือนนโยบายในการเรียกคะแนนนิยมกลับมาของพรรคเพื่อไทย ซึ่งอีกในแง่มุมหนึ่งเป็นนโยบายที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้จริงเพราะว่าการที่จะไปเอาเงิน 10,000 บาทถึงแม้ว่าจะเป็นเงินดิจิตอลมาแจกคนที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป โดยไม่มีเงื่อนไข เป็นการใช้งบประมาณอย่างสิ้นเปลือง และไม่รู้ว่าจะไปจัดหางบประมาณมาจากที่ไหนในตอนที่เธอดีเบตบนเวทีมีการถามถึงประเด็นนี้กับผู้สมัครหลายคนของพรรคเพื่อไทย แต่ไม่ได้คำตอบกลับมาอย่างชัดเจนว่าจะไปเอาเงินจำนวนนี้มาจากไหน

ผู้สื่อข่าวถามต่อหากการโหวตครั้งที่ 3 พรรคเพื่อไทยมีการจับมือกับพรรคก้าวไกลอยู่เป็นไปได้หรือไม่ที่สมาชิกวุฒิสภาหรือ ส.ว.จะไม่โหวตให้พรรคเพื่อไทย เธอตอบว่า เป็นไปได้ เพราะการโหวตคือการใช้ดุลพินิจของสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งหากสมาชิกวุฒิสภามีความเห็นว่าแคนดิเดตนายกฯคนนั้นไม่เหมาะสมและมีความสุ่มเสี่ยงก็จะไม่โหวตให้อีกเช่นเคย ส่วนตัวเธอมองว่า สว. มีอำนาจในการใช้ดุลพินิจได้เพราะ ส.ว.มีการแต่งตั้งและคัดกรองมาแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามถึงนักวิชาการหญิงท่านหนึ่งที่ไปออกรายการดัง ได้มีโอกาสดูบ้างหรือไม่ เธอเปิดเผยว่าการที่ให้นักวิชาการที่เอนเอียงไปฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมาย่อมได้คำตอบที่ถูกใจแต่ไม่ถูกต้อง ส่วนมีการโฟนอิน ส.ว.เข้ามาตอบคำถามในรายการ เธอมองว่า ส.ว.เป็นผู้ชายเขาไม่เถียงผู้หญิงอยู่แล้ว เธอเน้นย้ำว่า นายพิธา จากการเสนอชื่อโหวต ยติได้ตกไปแล้ว ไม่สามารถที่จะทำได้ข้อบังคับมีชัดเจนว่า “มิสามารถ เสนอได้” ให้อ่านแล้วก็ไม่อ่าน อ่านว่า “มิสามารถ เสนอได้” แปลอะไร เธอย้อนถามผู้สื่อข่าว และตอบเองว่า ไม่สามารถเสนอได้ เพราะนายพิธาไม่มีคุณสมบัติ พรรคก้าวไกลพลาดเองที่เสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ 1 คน พรรคอื่นเขาเสนอ 2-3 คน แต่คุณต้องยอมรับว่าคุณพลาดเอง

โดดเดี่ยวก้าวไกล! ทุกพรรคไม่โหวตเพื่อไทยถ้าไม่สลัดออก "มัลลิกา" จัดหนักทำตัวเอง