8 ก.ค.66 นายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้ออกมาระบุว่า พรรคการเมืองที่ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ ซึ่งเรียกว่าฝ่ายประชาธิปไตยเราได้มัดกันเป็นข้าวต้ม โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล โดยมีประชาชนเหมือนตอกไม้ไผ่ ซึ่งพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล จะต้องเป็นพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล จะต้องเป็นนายกรัฐมนตรี ในบรรดาพรรคที่ไม่ได้เสียงเกินครึ่งไม่ถึง 250 เสียง แต่พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลได้มีการทำ MOU กันได้ 312 เสียง ยืนยันว่าจะไม่มีการแตกเสียงกัน

 

อย่างที่ผ่านมาที่มีการเลือกประธานสภา ทุกคนก็ได้ลงเสียงเดียวกันที่เลือกนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา โดยนายพิธานั้น เป็นคนหนุ่มอายุ 42 ปี ได้รับการเลือกจากประชาชนที่จะให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย ที่ผ่านมาคนไทยขาดคนรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศมานานแล้ว กว่า 10 ปี ที่ผ่านมา ประเทศไทยต้องเสียโอกาสและเศรษฐกิจของประเทศไม่ดี การที่นายพิธาจะเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี ถือว่าเป็นบุคคลที่เหมาะสมที่สุดแล้วที่จะเข้ามากอบกู้เศรษฐกิจ สังคม การเมือง และการต่างประเทศ โดยได้รับการสนับสนุนจากพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ที่มีเสียง ส.ส. จำนวน 141 เสียง

 

นายอดิศร เพียงเกษ กล่าวต่อไปว่า ในวันที่ 13 ก.ค. 66 ที่จะมาถึงจะมีการประชุมรัฐสภาครั้งที่ 1 โดยรัฐสภามี สมาชิกวุฒิสภากับสภาผู้แทนราษฎรรวม 750 คน รัฐธรรมนูญฉบับนี้ถือว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่เรียกได้ว่า เ_ล_ว มากที่สุด เพราะมีการให้สมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. มาเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีได้ ซึ่งตนเองได้มีการพูดคุยกับ สว. บางคนแล้ว โดยอยากให้ ส.ว. ทุกคน ได้เคารพถึงประชาชน ที่ได้มีการเลือกตั้ง ส.ส. เข้ามา วุฒิสภาจึงจะได้รับความน่าเชื่อถือจากพี่น้องประชาชน แม้ว่ายังมี ส.ว.บางคน ที่ให้เหตุผลจะไม่เลือกนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจากไม่มีความชอบส่วนตัว โดยตนเองได้ยกมือไหว้พร้อมบอกว่าสมาชิกวุฒิสภาเป็นผู้ที่มีวุฒิภาวะ ก็ควรจะไม่ต้องตั้งข้อสงสัยอะไรมากมาย เพราะประชาชนได้ตัดสินไปแล้วอย่าไปสวนทาง เพราะผู้พิพากษาที่ตัดสินไปก็คือประชาชน ท่านจะมาทำตัวใหญ่กว่าประชาชนไม่ได้ หากทำตัวใหญ่กว่าประชาชน เชื่อได้เลยว่า ส.ว. จะไม่มีที่อยู่ ตนเองหวังว่า ส.ว. จะเห็นแก่การเติบโตของระบอบประชาธิปไตย เพราะ ส.ว.ทั้ง 250 คน นั้นไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง โดยตนเองเชื่อว่า ส.ว. หลายคนที่ตนเองรู้จักเป็นเพื่อนกัน ซึ่งติดใจเรื่อง ม.112 ทำให้ทาง ส.ว. จะเลือกนายพิธาโดยไม่มีเงื่อนไข โดยนายพิธา จะต้องมีการไปตอบคำถามเรื่อง ม.112 นี้ให้ได้ ซึ่งในเร็วๆนี้จะมีการชุมชนของ FC พรรคก้าวไกลที่เซ็นทรัลเวิลด์ จะส่งผลสร้างความพอใจให้กับ ส.ว. หรือ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องของทางพรรคก้าวไกล เพราะต่อไปก็คือการที่จะโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี การเลือกตั้งจบไปแล้วแต่รากตั้งไม่จบ ตนเองได้แต่หวังว่าบ้านเมืองจะต้องเดินหน้าไปเสียที เพราะประชาชนหวังว่า อยากมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่เพราะที่ผ่านมาต้องทนการบริหารงานของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มากว่า 10 ปี ขณะนี้ถึงเวลาปรดโซ่ตรวนซึ่งประชาชนได้ตัดสินไปแล้ว

 

กรณีสื่อโซเชียลในเชียงใหม่ได้แชร์ภาพ ป้ายไวนิลขนาดใหญ่สีขาวตัวหนังสือสีแดง ความยาวประมาณ 3 เมตร ระบุข้อความว่า "หมดศรัทธาพรรคเพื่อไทย" และ "ต่อไปกูจะไม่เลือกแล้ว"

มีคนนำมาติดไว้ที่หน้าร้านขายเสื้อผ้าพื้นเมือง ที่บริเวณหน้าศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง ถนนท่าแพ ในตัวเมือง เชียงใหม่ โดย มีการแชร์ภาพนี้ออกไป ตามช่องทาง Application Line กลุ่มต่างๆมีคนเข้ามาแสดงความเห็นกันเป็นจำนวนมาก

ล่าสุดผู้สื่อข่าวจังหวัดเชียงใหม่ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าช่วงสายวันนี้ทางเจ้าของร้านได้นำป้ายไวนิลทั้งสองป้ายลงจากที่นำไปติดตั้งแล้ว

อดิศร โต้ พท.ชิงนายกฯ แข่งพิธา เปรียบ 2 พรรคข้าวต้มมัดแต่คนเหนือขึ้นป้ายฉะ