"เลขา ป.ป.ช." ยอมรับ "พิธา" ยื่นค้ำประกันเงินกู้มา 1 รายการ ไม่แน่ใจก้อนเดียวกับ 117 ล้านแล้วหรือไม่ ส่วนหุ้น itv ยื่นหลังรับตำแหน่ง ส.ส.ปี 62 ขอเวลาสอบ ยื่นมาในฐานะผู้จัดการมรดกหรือเจ้าของ เตรียมเปิดบัญชีทรัพย์สินเร็วๆนี้

9 มิ.ย. 66 นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ค้ำประกันการกู้ยืมเงินภายในบริษัทของธุรกิจในครอบครัว กว่า 117 ล้านบาท ว่า นายพิธา ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน รายการค้ำประกันเงินกู้ มา 1 รายการ ไม่แน่ใจว่าเป็นวงเงินเดียวกันหรือไม่ เพราะจำยอดไม่ได้ ขอเวลาไปตรวจสอบก่อน แต่หากมีการค้ำประกันเงินกู้แล้วไม่ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินหรือหนี้สิน ส่วนตังมองว่า การค้ำประกันเงินกู้ ไม่ถือเป็นหนี้ที่เกิดขึ้นจริง เป็นเพียงสิทธิ์ ที่เมื่อเวลาลูกหนี้ผิดนัด เจ้าหนี้ก็จะไปเรียกร้องกับผู้ค้ำประกันได้ ซึ่งอาจจะเกิดหนี้ในตอนนั้น และผู้ค้ำประกันจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ แต่ตอนนี้เป็นเพียงแค่การค้ำประกันเท่านั้น จึงยังไม่ชัดว่า รายการเหล่านี้ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินหรือไม่ ขอเวลาไปตรวจสอบอีกครั้ง

ส่วนจะต้องเชิญนายพิธา มาชี้แจงหรือไม่ นายนิวัติไชย กล่าวว่า เป็นการตรวจสอบบัญชีตามปกติ ที่ยื่นเข้ามา ซึ่ง ป.ป.ช.ต้องตรวจสอบอยู่แล้ว ว่าบัญชีที่ยื่นเข้ามามีความผิดปกติหรือไม่ เป็นการค้ำประกันหนี้ ให้กับใครมูลค่าเท่าไหร่

พร้อมกันนี้ นายนายนิวัติไชย กล่าวถึงการยื่นบัญชีทรัพย์สิน กรณีการถือหุ้นบริษัทไอทีวีจำกัด(มหาชน) ยื่นมาในฐานะผู้จัดการมรดกหรือเจ้าของหุ้น ว่า นายพิธายื่นมาในชื่อของนายพิธา โดยระบุจำนวนหุ้นประมาณ 42,000 หุ้น แต่ไม่ทราบว่ายื่นมาในฐานะอะไร ต้องรอการตรวจสอบ ส่วนหุ้นที่ยื่นมาเป็นหุ้นของสื่อมวลชนหรือไม่นั้น เลขาธิการป.ป.ช. กล่าวว่า เรื่องการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามไม่ใช่หน้าที่ของ ป.ป.ช. ป.ป.ช.มีหน้าที่อย่างเดียวคือการตรวจสอบความถูกต้องการมีอยู่จริงของทรัพย์สิน

"เมื่อมีอยู่แล้วยื่นไม่ได้ปกปิดก็โอเค แต่ถ้าเขาไม่ยื่นทั้งๆที่เป็นของเขาอันนี้จะเข้าข่ายจงใจปกปิดบัญชีทรัพย์สิน ส่วนทรัพย์สินนั้นจะส่งผลให้ขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามอย่างไร ไม่ใช่หน้าที่ป.ป.ช. แต่อาจจะประสาน มายังกกต. ได้ หรือกกตสามารถขอข้อมูลมาเป็นหลักฐาน ประกอบการพิจารณาได้"

ส่วนรายละเอียดที่แจ้งต่อ ป.ป.ช. ต้องระบุประเภทกิจการของหุ้นที่ถือหรือไม่ นายนิวัติไชย กล่าวว่า เอกสารที่ยื่นมาเป็นใบหุ้น ซึ่งระบุประเภทกิจการอยู่แล้ว แต่ไม่แน่ใจเรื่องของวัตถุประสงค์ ของบริษัทที่ถือหุ้นว่าได้ระบุไว้หรือไม่ ซึ่ง กกต.สามารถขอเอกสารมาเป็นหลักฐานในการพิจาณาได้

ส่วนที่นายพิธา ไม่ได้ยื่นหุ้น itv ตอนเข้ารับตำแหน่งนั้น นายนิวัติไชย ยืนยันว่า นายพิธาได้ยื่นเพิ่มเติมเข้ามาภายหลังรับตำแหน่ง ซึ่งต้องดูข้อเท็จจริง ว่า มีเจตนาอย่างไรปกปิดหรือไม่ แต่เข้ายื่นเพิ่มเติมมาแล้ว ก่อนที่จะเป็นประเด็นด้วย แต่กรณีพ้นจาก ส.ส.ล่าสุด เข้าใจว่าได้ยื่นแล้ว เตรียมจะเปิดเผยเร็วๆนี้