ผู้ประกอบการรายใหม่ แห่เรียนทำคราฟเบียร์ รับนโยบายก้าวไกลสุราก้าวหน้า

ที่ร้านฮ็อปเบียร์ ซึ่งเป็นโรงเบียร์ขนาดเล็ก ตั้งอยู่ที่ ถนนสืบศิริ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ได้มีกลุ่มผู้ประกอบการคราฟเบียร์จากหลายพื้นที่ทั่วประเทศ เกือบ 30 ราย เดินทางมาเรียนรู้การทำคราฟเบียร์ อย่างมืออาชีพ กับโรงเบียร์ ฮอบเบียร์ ภายหลังจากที่ พรรคร่วมรัฐบาลชุดใหม่ ที่มีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ ได้มีการลงนาม MOU ผลักดัน นโยบายสุราก้าวหน้า ลดการผูกขาดจากกลุ่มทุนใหญ่ กระจายรายได้ สู่ผู้ประกอบการรายย่อยให้มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม ทำให้ผู้ประกอบการคราฟเบียร์รายย่อยทั่วประเทศ ให้ความสนใจ อยากตั้งโรงเบียร์ขนาดเล็กกันอย่างคึกคัก โดยมี ดร.ลำไพร ศรีธรรมมา เจ้าของโรงเบียร์ ฮอบเบียร์ และนายธนากร โพธิโต สรรพสามิตพื้นที่นครราชสีมา ให้ความรู้ทั้งเรื่องของวิชาการด้านการทำคราฟเบียร์อย่างถูกวิธี และเรื่องของการคำนวณภาษี อย่างถูกต้องตามกฎหมาย นอกจากนี้ยังมีการสอนภาคปฏิบัติการทำคราฟเบียร์ และการทำสุราพื้นเมืองอย่างถูกวิธี เพื่อให้ได้คุณภาพดี และมีรสชาติตรงตามความต้องการของตลาดอีกด้วย

โดยนายมงคล ศรีธรรมมา เจ้าของโรงเบียร์ “ฮอบเบียร์” ซึ่งเป็นโรงเบียร์ขนาดเล็กชื่อดังแห่งเมืองโคราช กล่าวว่า ในเรื่องการทำคราฟเบียร์นั้น มีผู้สนใจมานานมากแล้ว เพราะที่โรงเบียร์ของตนก็จัดอบรมให้ความรู้ต่อเนื่อง ก็พบว่ามีคนในสมัครอบรมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง กระทั่งถึงตอนนี้ที่พรรคร่วมรัฐบาล ได้ทำ MOU ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับการผลักดันนโยบายสุราก้าวหน้าอยู่ด้วย ก็ยิ่งทำให้คนสนใจมากขึ้น จนทางร้านรับเข้าอบรมได้ไม่หมด ที่เป็นเช่นนี้ตนเชื่อว่าหลายคนมั่นใจว่านโยบายสุราก้าวหน้า จะทำได้สำเร็จในยุครัฐบาลชุดใหม่นี้

ด้านนายนฤพนธ์ ทิพวงษ์ อายุ 27 ปี ชาว จ.น่าน หนึ่งในผู้สนใจลงทุนทำร้านคราฟเบียร์ กล่าวว่า สิ่งที่ทำให้ตนเองสนใจทำคราฟเบียร์ เนื่องจากที่บ้านก็มีอาชีพทำนา ปลูกข้าว แต่ผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำมาก จึงมีความคิดว่าถ้าสามารถนำข้าวมาแปรรูปเป็นเบียร์ได้ ก็จะสามารถช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตทางการเกษตรได้มาก จึงได้เริ่มศึกษาหาความรู้ในยูทูบและในอินเทอร์เน็ต ก่อนที่จะมาอบรมในครั้งนี้ ส่วนเรื่องที่หลายฝ่ายกังวลว่า นโยบายสุราก้าวหน้าจะทำให้เยาวชนเข้าถึงเหล้า เบียร์ได้ง่าย และเกิดนักดื่มรายใหม่เพิ่มขึ้นนั้น ตนมองว่าทุกวันนี้ ก็มีการจำหน่ายสุรา และเบียร์อยู่ทั่วไปแล้ว รวมทั้งมีกฎหมายควบคุมไม่ให้จำหน่ายให้กับเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปีด้วย จึงไม่น่าเป็นกังวลอะไร สิ่งสำคัญอยู่ที่การเพิ่มมูลค่าให้กับพืชผลทางการเกษตร และลดการผูกขาดของทุนรายใหญ่มากกว่า ถ้าทำได้ก็จะส่งผลให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถแข่งขันกับนายทุนรายใหญ่ได้อย่างเป็นธรรม

ขณะที่นายธนากร โพธิโต สรรพสามิตพื้นที่นครราชสีมา กล่าวว่า สำหรับผู้ที่มีความประสงค์จะทำสุราประเภทเบียร์ บริวคัพ (BrewCup) ควรจะมีความรู้เรื่องกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วย ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายแม่ พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 ซึ่งมีผลบังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน นอกจากนี้ จะมีกฎหมายลูก เรียกว่า กฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ.2565 ซึ่งยกเลิกกฎหมาย พ.ศ.2560 ไปแล้ว มาใช้กฎหมายปี 2565 แทน โดยกฎกระทรวงฉบับนี้ มีการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ผลิตสุราที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ถือว่าเป็นโอกาสดีที่พี่น้องประชาชนที่สนใจจะทำสุราขึ้นเองที่บ้าน ได้มีทางเลือกผลิตสุราได้เอง แต่ทั้งนี้จะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด เช่น ผลิตสุราบริโภคเองที่บ้านได้ไม่เกิด 200 ลิตรต่อปี และมีต้องมีการชำระภาษีตามปริมาณขาเดียวมูลค่าไม่ต้องชำระ ต้องทำบัญชี ต้องจดทะเบียนเข้าสู่ในระบบสรรพสามิตเพื่อให้สามารถไปตรวจสอบได้ เป็นกฎกระทรวงที่ออกมาใช้บังคับเมื่อช่วงปลายปี 2565 นี้เอง นับว่าเป็นทางเลือกที่เหมาะสมให้กับประชาชนอีกทางหนึ่ง

ส่วนเรื่อง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ปัจจุบันยังไม่มีการใช้บังคับ แต่ก็มีการพูดถึงอย่างกว้างขวาง ซึ่งกรมสรรพสามิตเอง พร้อมจะยอมรับและปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลถ้าจะมีการแก้ไขเพิ่มเติมเป็น พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ถือเป็นนโยบายที่กรมสรรพสามิตจะต้องดำเนินการตามนโยบายอยู่แล้ว ซึ่งคิดว่าหลักเกณฑ์เงื่อนไข คงจะไม่ต่างจากที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง ปี พ.ศ.2565 ในเรื่องของการผลิตสุราที่ไม่ใช้เพื่อการค้าที่ได้มีการพูดไว้ แต่เรื่องรายละเอียดก็ต้องมาดูอีกทีว่าจะมีอะไรที่เพิ่มเติมแตกต่างออกไปหรือไม่ ซึ่งถ้ามีการบังคับใช้จริงๆ สรรพสามิตและประชาชนก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่ทางรัฐบาลกำหนด