ฝืนไม่ไหว !! "ผู้สมัครส.ส.นครพนม-สระแก้ว" ทีมลุงตู่ยอมถอยงดหาเสียง เดือดปมอ้าง "รทสช." เบี้ยวค่าใช้จ่ายเลือกตั้ง

จากกรณีที่ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข ผู้สมัคร ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ อดีต ส.ส. 11 สมัย นำผู้สมัคร ส.ส.สังกัด พรรครวมไทยสร้างชาติ กว่า 50 เขต แถลงข่าวไม่พอใจพรรคไม่ดำเนินการตามกฎหมาย เรื่องการใช้จ่ายการดำเนินการใช้จ่ายในเรื่องหาเสียง ต่อมา ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดเผยภายหลังรับฟังข้อเรียกร้องจากผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ว่า พรรคการเมืองเป็นที่รวบรวมคนที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองเหมือนกัน ไม่ใช่สถาบันทางการเงินเพื่อสนับสนุนการลงทุนให้ผู้สมัคร ผู้ที่เสนอตัวเพื่อมารับใช้แบ่งเบาภาระของพ่อแม่พี่น้องจึงควรเป็นผู้ที่มีความพร้อมในทุกๆ ด้าน เพื่อไม่เป็นภาระแก่ผู้ใด

 

ล่าสุด (10 พ.ค.66) นายสมชอบ นิติพจน์ ผู้สมัคร ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ เขต 4 นครพนม เบอร์ 4 โพสต์เฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา ระบุว่า “กราบขอโทษพี่น้องผู้มีสิทธิเลือกตั้งในพื้นที่เขต 4 นครพนม ที่ผมไม่สามารถหาเสียงได้ตามขั้นตอนที่วางไว้ จึงขอยุติการหาเสียงไว้เพียงเท่านี้ ถ้าพี่น้องยังสนับสนุนผมอยู่ขอให้เลือกพรรค เบอร์ 22”

 

ขณะที่วานนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานสาขาพรรครวมไทยสร้างชาติ เขต 2 สระแก้ว ต.วังน้ำเย็น อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว นายสุทธิรักษ์ วันเพ็ญ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ เขต 2 จ.สระแก้ว ได้ให้คนงานเข้าดำเนินการปลดป้ายหาเสียงของตัวเองลง โดยเริ่มจากป้ายหาเสียงที่ติดบนรถกระบะสำหรับบรรทุกเครื่องขยายเสียงออกโฆษณาประชาสัมพันธ์ ให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในเขตพื้นที่ รับทราบนโยบาย เบอร์ผู้สมัครและแนวทางการดำเนินการทางการเมืองเพื่อให้ประชาชนเลือกเป็นผู้แทนราษฏรในการเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค.ที่จะถึงนี้ รวมทั้งมีการปลดป้ายของที่ทำการพรรค ซึ่งเป็นป้ายไวนิลขนาดกลางและขนาดใหญ่ ออกด้วยเช่นกัน

 

ทั้งนี้ นายสุทธิรักษ์ วันเพ็ญ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สระแก้ว เขต 2 พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องมีการปลดป้ายหาเสียงและป้ายที่ทำการพรรคออก เนื่องจากถูกหลอกให้ลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรค โดยไม่ได้รับการดูแลและสนับสนุนจากทางพรรคเลย ตอนติดต่อให้ไปสมัคร บอกว่า จะมีการดำเนินการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เป็นงวด ๆ จนมีการเลือกตั้ง ทางผู้สมัครจึงได้ไปดำเนินการทำป้ายหาเสียงและลุยหาเสียงเพื่อให้พรรคและตนเองได้คะแนนเสียง แต่ปรากฏว่าที่ผ่านมาทางพรรคได้มีการสนับสนุนค่าใช้จ่ายเพียงครั้งเดียว หลังจากนั้นก็ไม่ได้ช่วยเหลือ ตนได้ออกค่าใช้จ่ายไปก่อนจำนวนหลายแสนบาท ขณะนี้เป็นหนีอยู่ ก่อนหน้านี้ได้รวมตัวกันจำนวนหลายร้อยเขต เพื่อทวงถามพรรคให้ดำเนินการแก้ไขในเรื่องนี้ แต่เมื่อครบกำหนดเส้นตายที่แจ้งไว้ จึงดำเนินการปลดป้ายดังกล่าวเช่นเดียวกับจังหวัดอื่น ๆ ที่ประสบปัญหาเดียวกัน ซึ่งกรณีนี้เหมือนเป็นการเอาตนเองมาฆ่าทางการเมือง