"สมชัย" ซัดสงครามการเมือง "เกทับ บลัฟแหลก" ใช้นโยบายแจกเงินแลกเสียง พรรคไหนให้มากกว่าชนะ?! ชี้ ปชช.ไม่ดูที่มาของเงินหรอก ของฟรีใครก็ชอบ ซัดนักการเมืองมาแล้วก็ไป แต่คนไทยต้องแบกรับหนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

วันที่ 13 เม.ย.66 จากกรณที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบาย พรรคเสรีรวมไทยและอดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นนโยบายประชานิยมของแต่ละพรรคการเมือง

อย่างไรก็ตามทางทีมข่าวออนไลน์ช่อง8 ได้สัมภาษณ์กับนายสมชัยผ่านทางโทรศัพท์ ซึ่ง นายสมชัย ระบุว่า ขณะนี้ทุกพรรคการเมืองพยายามจะใช้นโยบายเสนอตัวเลขเงินให้กับประชาชน เพื่อเป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจให้กับประชาชนว่าถ้าเลือกพรรคฉันจะได้เงินเท่านั้นเท่านี้ สุดท้ายก็จะกลายเป็นนโนบาย "เกทับ บลัฟแหลก" ซึ่งกันและกัน ซึ่งจริง ๆ ไม่ได้ไปดูหรอกว่าขีดความสามารถในการจ่ายเงินของรัฐจะมีสักเพียงไร และประเทศอยู่ในภาวะอย่างไร หากเป็นเช่นนี้ตนเองถือว่าเป็นอันตราย

หาก กกต. ไม่มีการส่งสัญญาณหรือการเตือนสิ่งใดสิ่งหนึ่งมา ผลที่เกิดขึ้นก็คือประชาชนจะเป็นคนตัดสินใจเลือกพรรคการเมืองใดเพราะอะไร และเราจะไม่ได้การเมืองที่ดี ไม่ได้ซึ่งนักการเมืองที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาประชาชนอย่างแท้จริง แต่กลับกลายเป็นว่ามาซ้ำเติมปัญหาของประชาชนมากขึ้น นายสมชัยกล่าว

ในขณะเดียวกัน นายสมชัย ยังระบุอีกว่า ประชาชนอยากได้เงินแน่นอนอยู่แล้ว ใครเอาเงินมาให้ก็ชอบแน่นอน อยู่ดี ๆ มีคนนำเงินมาให้ใช้ 1,000 บาท 10,000 บาท ต่อเดือน ไม่มีใครไม่ชอบ และประชาชนไม่คิดหรอกว่ารัฐบาลเอาเงินมาจากไหน แต่ในฐานะที่เป็นพรรคการเมือง จะต้องคิดหน้าคิดหลังให้รอบคอบ หากคุณทำแบบนั้นแล้ว คุณจะนำเงินมาจากไหน และจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อประเทศในระยะยาวอย่างไร

อย่างไรก็ตามต้องบอกว่า งบประมาณของรัฐนั้นมีขีดจำกัดมากทีเดียว แต่ละปี ๆ นั้นเพิ่มขึ้นไปเยอะ ทั้งนี้งบประมาณแผ่นดิน ในส่วนของงบลงทุน มีอยู่ประมาณร้อยละ 20.5 ของมวลโดยรวมทั้งหมด ซึ่งถือว่าต่ำเกือบจะถึงเกณฑ์แล้ว ซึ่งงบลงทุนนั้นหมายถึงว่า หากเรามีเงิน 100 บาท แบ่งเป็นเงินส่วนที่ใช้จ่ายประจำ อาทิ เงินเดือนราชการ ใช้หนี้เงินกู้ เงินส่วนที่ต้องจ่ายตามสัญญาต่าง ๆ นั้นปาไปแล้ว 80 บาท ในขณะเดียวกัน เหลือเงิน 20 บาท ที่จะสามารถแบ่งนำไปซื้อของ ครุภัณฑ์ สร้างตึก หรือเพื่อซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ เพราะฉะนั้นภาวะของประเทศไทยถือว่าค่อนข้างตึงตัวในการใช้จ่ายเป็นรายการอื่น ๆ ได้ โดยเฉพาะในแง่ของการลงทุนต่อยอดเพื่อการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า