พลคำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ลงพื้นที่หาเสียงให้ น.ส.นนทิกา ครองสินทรัพย์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต บางพลัด-บางกอกน้อย (ยกเว้นแขวงศิริราช) โดยลงพื้นที่พบประชาชน ณ ร้านค้าบริเวณเขตสวัสดิการกองทัพเรือ,ตลาดพรานนก และในช่วงเย็นจะลงพื้นที่ตลาดปิ่นเงินปิ่นทองและตลาดหน้าเมเจอร์ ปิ่นเกล้า
โดยพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์กล่าวถึงความพร้อมในการเลือกตั้งวันที่14 พฤษภาคมนี้ว่า การรับสมัคร ส.ส.เขต ระหว่างวันที่ 3-7 เม.ย. และรับสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ วันที่ 4-7 เม.ย.นั้น ยืนยันว่าผู้สมัครส.ส.ของพรรคพร้อม400เขตทั่วประเทศ ขอเรียนว่าที่ผ่านมายุ่งยากพอควรในการเตรียมผู้สมัคร ส.ส. เพราะผู้สมัครบางคนของพรรคที่กระเเสดีก็โดนบางพรรคซื้อตัว ตรงนี้คือข้อบกพร่องของรัฐธรรมนูญที่ควรแก้ไข ไม่อย่างนั้นจะเหนื่อยกับการเปลี่ยนตัวผู้สมัครส.ส.ที่เข้าๆออกๆ
ส่วนผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อนั้น ตนลงสมัครในลำดับที่1 ต้องกล้าแสดงตัวในฐานะหัวหน้าพรรค สมมติว่าหากประชาชนที่ศรัทธาพรรคเสรีรวมไทยมากมาย แต่หากผู้สมัครส.ส.ของพรรคและตนไม่ได้เป็นส.ส. ตนก็อายแย่ ดังนั้นทุกอย่างต้องพร้อม
เพราะการที่กฎหมายกำหนดให้ส่งผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน มันเป็นไปไม่ได้ที่ทุกพรรคจะได้ครบ 100 คน แม้แต่พรรคใหญ่ๆก็ยังไม่ได้ครบเลย และเปลืองเงินค่าสมัครคนละ 1 หมื่นบาท เพราะลำดับผู้สมัครอันดับท้ายๆอาจไม่ได้รับเลือกตั้ง ดังนั้น ตนประเมินไว้แล้วว่าพรรคเสรีรวมไทยจะส่งผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อพอสมควร
นอกจากนี้ยังกล่าวการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ที่มีกระแสข่าวว่าแคนดิเดตนายกฯบางพรรคอาจไม่ลงสมัคร ส.ส. ว่า แคนดิเดตนายกฯของพรรคอื่นๆลงสมัครส.ส.แทบทั้งนั้น แต่บางพรรคอาจไม่สมัคร ส.ส.เช่น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าที่แคนดิเดตฯของพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งอย่าลืมว่าเมื่อปี2562 พลเอกประยุทธ์เป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคพลังประชารัฐ โดยไม่ได้ทำอะไรเลย เพราะคนอื่นๆหาเสียงแบบเหน็ดเหนื่อยและมีความเสี่ยง เช่น หากลูกพรรคทำสิ่งที่อาจผิดกฎหมาย พรรคอาจโดนยุบ แต่ตอนที่พลเอกประยุทธ์อยู่พรรคพลังประชารัฐนั้นตนทราบว่าพลเอกประยุทธ์ไม่สนใจ จึงเกิดปัญหาว่าแคนดิเดตนายกฯกับสมาชิกพรรคที่ไม่มีความสัมพันธ์กัน และครั้งนี้ตนประเมินว่าการที่พลเอกประยุทธ์ไม่ลงสมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาตินั้น เพราะกลัว ขี้ขลาด เกรงว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะไม่ชนะเลือกตั้ง
พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ยังยกตัวอย่างว่าหากพรรครวมไทยสร้างชาติไม่ชนะเลือกตั้ง แต่ได้ส.ส.สองระบบเข้าสภาผู้แทนราษฎรจำนวนหนึ่ง พลเอกประยุทธ์ก็ลอยตัวไป โดยไม่ต้องเข้าสภา หากพลเอกประยุทธ์ลงสมัครส.ส.บัญชีรายชื่ออันดับ1 พรรคนี้ก็คงได้ส.ส.จำนวนหนึ่ง แต่หากพรรครวมไทยสร้างชาติแพ้พรรคเพื่อไทยที่ได้ตั้งรัฐบาล พลเอกประยุทธ์จะกล้านั่งในสภาผู้แทนราษฎรในฐานะส.ส. และจะยอมให้ส.ส.อภิปรายโจมตีหรือ หากถามเรื่องนี้กับตนนั้น ขอเรียนว่าตนพร้อมสละเก้าอี้ส.ส.ให้ลูกพรรคได้ทันที