"แรมโบ้" จับอาการพรรคเพื่อไทย ลุกลี้ลุกลน ขาดความมั่นใจ จนใช้วิธีชี้นำปั่นกระแสจะกวาดส.ส.มากขึ้นมากขึ้นทุกวัน

13 มีนาคม นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการกำหนดแนวนโยบายฯพรรค รทสช. กล่าวถึง  นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตั้งเป้าหมายพรรคเพื่อไทย ต้องชนะแบบแลนด์สไลด์ กวาด ส.ส. 310 ที่นั่ง เพื่อจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว ว่าจับอาการแกนนำพรรคเพื่อไทยวันนี้ เหมือนลุกลี้ลุกลน ขาดความมั่นใจ จึงใช้กุศโลบาย ใช้วิธีชี้นำปั่นกระแสให้ดูสูงเข้าไว้  วันก่อนอ้างโพลลับ พรรคเพื่อไทยจะได้ส.ส. 270 ที่นั่ง ถัดมาไม่กี่วันบอกจะเอา 310 ที่นั่ง นี่ถ้าถึงวันเลือกตั้งคงทะลุ 500 ที่นั่งกระมัง ไม่เหลือให้พรรคการเมืองอื่นเลยสักที่นั่งเดียว

 

"การเที่ยวอวดโอ้ชี้นำและปั่นกระแสที่พรรคเพื่อไทยกำลังทำอยู่นั้น ระวังกลายเป็นดาบสองคม โดยเฉพาะต่อตัวหมอชลน่าน ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพราะเป้าหมายกับความรับผิดชอบทางการเมืองต้องควบคู่ไปด้วยกัน  หากได้ไม่ถึง 310 ที่นั่ง จะรับผิดชอบทางการเมืองอย่างไร" นายเสกสกลกล่าวและว่า นพ.ชลน่าน คงจำกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หลังรู้ผลการเลือกตั้งปี 2562 ที่ผ่านมา

 

นายเสกสกลย้ำว่าตนเองยังเชื่อว่า เป้าหมาย 310 ที่นั่งของพรรคเพื่อไทยนั้น คงเป็นจริงได้แค่ในความฝัน แต่พอสะดุ้งตื่นขึ้นมาเจอความจริง ระวังจะกระอักเลือดกันทั้งพรรคและเจ้าของพรรค  เพราะสภาพพรรคเพื่อไทยวันนี้ แทบจะหาจุดขายไม่เจอ ทั้งนโยบายพรรคที่จับต้องไม่ได้ เอาของเก่าเมื่อ 20 ปี มาขายในบริบทสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป 

 

"ทั้งตัวบุคคลที่จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย คนหนึ่งดีก็แค่เป็นลูกสาวเจ้าของพรรค ไม่รู้ตรงไหนที่จะมีความรู้ความสามารถ ที่จะเข้ามาเป็นผู้นำประเทศชาติบ้านเมือง และอีกคนเก่งก็แค่ขายบ้าน ค้ากำไรจากประชาชน แต่นี่ประเทศไทยไม่ได้มีไว้ให้ขาย ต้องพึงระวังบทเรียนในอดีต ย้ำอีกรอบดูบทเรียนเจ้าของคอกที่หลบหนีคดีไปอยู่ดูไบ "นายเสกสกลกล่าว

 

นายเสกสกลกล่าวต่อไปว่า การที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และแกนนำพรรค ประกาศไม่มีพรรคพี่พรรคน้อง จะกวาด ส.ส. 310 ที่นั่ง นั้นมองเป็นอื่นไปไม่ได้ว่าสื่อถึง พรรคก้าวไกล ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และพรรคไทยสร้างไทย ของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ และพรรคเสรีรวมไทย  พรรคประชาชาติ เหล่านี้ซึ่งเป็นพรรคการเมืองปีกเดียวกัน

 

"สะท้อนถึงความเห็นแก่ตัวอย่างไร เอาแต่ได้ ละโมบ โลภมากของพรรคเพื่อไทยอย่างชัดเจน เพราะหากย้อนดูผลการเลือกตั้งที่ผ่านๆมา สมการคะแนนการเลือกตั้ง 2 ขั้วการเมืองนั้น ทิ้งห่างกันไม่มาก และมีน้อยมากที่ประชาชนจะสวิงไปเลือกอีกขั้ว ดังนั้นพรรคก้าวไกล พรรคไทยสร้างไทย ซึ่งมีฐานเสียงเดียวกับพรรคเพื่อไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติเหล่านี้ อาจจะไม่ได้ ส.ส.สักที่นั่งในสภาเลยแม้แต่คนเดียว เพราะนพ.ชลน่านโม้โอ้อวดเอาไปหมดแล้วไม่แบ่งพรรคพวกฝ่ายเดียวกันสักที่นั่งเดียว จนเป็นที่น่าขำยิ่งของ

บรรดาเซียนการเมือง เขาอยากหัวเราะขำกันให้ฟันร่วง"

 

ช่วยกล้าท้าเดิมพันหน่อยว่าถ้าไม่ถึงจะรับผิดชอบเช่นไร ลาออกจากหัวหน้าพรรคและทุกตำแหน่งทางการเมืองหรือไม่ ต้องมีหลักการเหมือนนายอภิสิทธิ์ ที่กล้าแสดงสปิริตรับผิดชอบ แต่อย่าพูดแบบ หัวหน้าคอก นายทักษิณ ชินวัตร "100 บาทเอาขี้หมากองเดียว"พูดแบบนี้ไม่เอาๆ พูดแล้วไม่รักษาคำพูด ขาดความน่าเชื่อถือ พูดอย่างนี้ก็ไร้น้ำยาไปเปล่าๆไม่มีใครให้ราคาอีกต่อไป" นายเสกสกล กล่าว