พังเครดิตหนู! ชูวิทย์แฉภาพลับ "เนวินเตะอนุทิน" ถามดังๆ เหมาะเป็นนายกรัฐมนตรี หรือ รัฐมนตรีประเทศไทยหรือไม่ วอน "อนุทิน"อย่าท้าพร้อมเดินไปบ้านเนวิน-ศักดิ์สยาม ตะโกนด่าใครเอาที่รถไฟไปเป็นบ้านตัวเอง

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง และนักธุรกิจจอมแฉดังให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นประชุมติดตามคดีตู้ห่าว ที่กระทรวงยุติธรรม วันนี้นายชูวิทย์เอ่ยกลางวงสัมภาษณ์อยากใช้พื้นที่ ไม่เกี่ยวกับกระทรวงยุติธรรม ขอพูดอะไรเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งก็ยาวพอสมควร เจ้าตัวจั่วหัวมาว่า นับตั้งแต่เปิดประเด็นแฉ “กัญชาเสรี” ปุ๊ป ก็มีบางคนร้อนตัว มีวลีเด็ดแรงๆ ว่าเป็น “สุนัขรับใช้” มาคอยกัด ซึ่งเป็นคนของพรรคภูมิใจไทย นายชูวิทย์เอ่ยดังๆ ว่า ที่พูดในฐานะประชาชนคนธรรมดา ไม่ทราบว่าไปหนักหัวใคร หรือใครเสียผลประโยชน์ เพราะเป็นสิทธิ์ของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่จะตัดสินใจเอาเอง

ก่อนที่นายชูวิทย์จะเปิดภาพลับที่เป็นภาพนิ่งปรากฏภาพของนายเนวิน ชิดชอบ ยกเท้าขึ้นเตะก้นของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งนายชูวิทย์ตั้งข้อสังเกตว่า การที่เล่นแบบนี้ถึงสนิทกันยังไงก็ไม่น่าจะถึงขั้นเตะกันกันแบบนี้ ส่วนที่มาของภาพดังกล่าวเจ้าตัวอ้างว่า ผู้ใหญ่ที่รักและเคารพส่งมาให้นายชูวิทย์เอง โดยคนที่ส่งมาไม่ใช่บิ๊กนายพล แต่ไม่ขอเปิดเผยชื่อ ซึ่งเจตนาที่ผู้ใหญ่ส่งรูปให้เพราะมองว่านายอนุทิน ไม่เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรี และพรรคที่โกงกินมากที่สุดคือพรรคภูมิใจไทย รวมทั้งยังมีการตั้งข้อสังเกตว่าใครอยู่เบื้องหลังนายอนุทิน นอกจากนี้ยังมีประเด็นของบ้านและสิ่งปลูกสร้างบิ๊กนักการเมืองระดับรัฐมนตรี และคนดังในวงการการเมืองเนื้อที่กว่า 5 พัน 83 ไร่ที่เป็นพื้นที่ของการรถไฟ แต่ไม่ดำเนินการใดๆ ซึ่งทั้งหมดชัดเจนในคำพิพากษาของศาล

ส่วนประเด็นที่ว่าการออกมาเปิดหน้าท้าชนแบบนี้ นักข่าวถามว่าเป็นการดิสเครดิตนายอนุทินหรือไม่ เจ้าตัวพูดดังๆ ว่า ยิ่งกว่าดิสเครดิต พังเครดิตไปเลยดีกว่า ไม่มีเครดิตแล้ว ศักดิ์ศรีก็ไม่มี ให้ประชาชนตัดสินเอาเอง

ทิ้งท้ายนายชูวิทย์ ระบุว่า ที่นำภาพลับนี้มาแฉแค่น้ำจิ้ม เพราะในวันศุกร์ที่ 3 มีนาคมนี้ เจ้าตัวพร้อมจะทำรายการแฉเพื่อชาติ ตายยกรัง โดยเปิดหน้ากาก 2 คน ชื่อว่าศุภวัฒน์ และจิตอรุณ ซึ่งสองชื่อนี้มีความเกี่ยวข้องกับขบวนการบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับรูปที่แฉไป เรียกว่าศุกร์นี้เป็นสุขที่ไม่สุขสมชื่อ เพราะมี 12 รายชื่อและบริษัทที่ต้องระวังตัว ซึ่งเจ้าตัวเตรียมผังใหญ่ๆ ให้เห็นชัดๆ พร้อมทั้งคำพิพากษา ซึ่งเรื่องนี้มีการพูดในสภาแล้ว แต่มีการซื้อเวลาโดยการรถไฟแห่งประเทศไทย อยู่ภายใต้การกำกับของกระทรวงคมนาคม ส่วนเจ้ากระทรวงก็ดันไปเอี่ยวเป็นเจ้าของที่ นายชูวิทย์เลยถามปลายเปิดดังๆ ว่า ลูกน้องจะกล้าไปไล่นายหรือไม่ ส่อเค้าซื้อเวลา แถมมองอนาคตไปถึงหลังการเลือกตั้งรอบหน้าที่อาจจะมีการวนกลับเข้ากระทรวงเดิมด้วย