"บิ๊กตู่"ยอมรับยุบสภาก่อนหมดวาระ เปิดทางส.ส.ย้ายพรรคทันตามกฎหมาย เตรียมเดินสายหาเสียงทุกภาคตามระบอบประชาธิปไตย

เมื่อเวลา 15.40 น.วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเรียก นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เข้าพบ ซึ่งมีข่าวว่าเป็นการเข้าพบเพื่อดูว่าทำสิ่งไหนได้ไม่ได้อย่างไรหลังยุบสภา ว่า จริงๆ แล้วไม่ต้องคุย มันมีอยู่แล้ว ซึ่งได้ให้ฝ่ายกฎหมายสรุปมาแล้วว่าอะไรทำได้ไม่ได้อย่างไร และทำงานได้แค่ไหน ก็ต้องระมัดระวัง เขาเตรียมไว้แล้ว โดยจะมีการชี้แจงในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีรายละเอียดอยู่แล้ว จริงๆแล้วเปิดในโทรศัพท์ในกูเกิลก็ได้ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้คุยถึงเรื่องการยุบสภาหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ต้องคุย เคยคุยกันแล้ว ซึ่งก็บอกว่าแล้วแต่นายกฯ จะยุบเมื่อไหร่ก็ได้ แล้วแต่นายกฯ จะพิจารณา การพิจารณาให้เป็นสิทธิของเราดีกว่า

ผู้สื่อข่าวถามว่าแนวโน้มจะยุบสภาหรืออยู่ครบวาระ นายกฯ กล่าวว่า ก็ต้องดูว่าเวลาพอหรือไม่ เพราะต้องให้เขาย้ายพรรคอะไรก็แล้วแต่ เพราะหลายคนต้องการย้ายพรรค ก็ต้องมีเวลาให้เหมาะสม คำว่าครบไม่ครบหมายถึง 23 มี.ค.เลยหรือเปล่า คงไม่ถึงหรอก เพราะต้องให้เวลาเขาด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการให้สัมภาษณ์ นายกฯ ได้ถามว่ามีอะไรอีกไหม อยากตอบ ไม่มีคนถามหรอ แต่วันที่ 18 ก.พ.ก็เจอกันในภารกิจพิธีรับชุดค้นหาและกู้ภัยกลับจากตุรกีสู่ประเทศไทย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ต้องไปรับซาฮาร่า และเซียร่า อยากเจอเขาน่ารัก

เมื่อถามว่า วันหยุดจะลงพื้นที่หาเสียงที่ไหนหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทำงาน คิด พักผ่อนบ้างอะไรบ้าง ส่วนการลงพื้นที่เราได้กำหนดไว้ว่าจะลงอย่างไร จะลงภาคไหนก็ตามนั้น คือการหาเสียงมันก็ใช่ เป็นกระบวนการประชาธิปไตยที่มันต้องทำในการหาเสียง แต่คิดว่าการหาเสียงบางทีต้องดูสิ่งที่ทำมาแล้วประกอบบ้าง มันก็โอเค แต่จะมีความหวังให้ความหวังอะไรก็แล้วแต่ต้องดูว่าทำได้หรือเปล่า และดูว่าที่ผ่านมาเป็นอย่างไร

เมื่อถามว่า นายกฯ จะไปหาเสียงเปิดประตูสู่ทุกภาคหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ประตูสู่ทุกภาค ทุกบ้านหรอ ซึ่งคงต้องไปทุกภาค เมื่อถามว่าวันที่ 25 ก.พ.นี้ จะไปปราศรัยหาเสียงที่ จ.นครราชสีมา ตามที่เป็นข่าวใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวหยอกนักข่าวว่า เธอจัดไว้ให้เราแล้วใช่ไหม 25 ก.พ.โอเค ขณะที่ผู้สื่อข่าวตอบว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จัด พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "อ๋อหรอ ก็ไปสิ เขาจัดก็ต้องไป เป็นหัวหน้า เอ้ยไม่ได้เป็นหัวหน้า เขาไม่ให้เป็น แค่เป็นสมาชิกก็บุญแล้ว" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวพร้อมกับหัวเราะ

เมื่อถามว่า แล้วแนวคิดการลง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ตัดสินใจหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อย่าเพิ่งคิดเลยดูก่อน เมื่อถามว่า ในส่วนของนโยบายพรรคตอนนี้ถึงขั้นไหนแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ถึงขั้นพอใช้ได้ นโยบายเราต้องทำอย่างระมัดระวัง อย่างที่เราบอกต้องระวัง การจะทำอะไรก็ตามต้องทำได้จริงใช่หรือไม่ บางทีถ้าลมๆ แล้งๆ ไปแล้วทำไม่ได้ก็เสียหายอีก เราไม่อยากให้มันเป็นอย่างที่เคยผ่านมาทั้งหมด ฉะนั้น ต้องดูว่าเราทำอะไรไปแล้วบ้างจะทำต่ออีกไหม หรือจะทำใหม่ไหม ในสิ่งที่เราทำดีอยู่แล้วเราก็ทำต่อ อะไรที่มันน้อยอยู่ก็ทำให้มากขึ้น หลักการก็มีอย่างนี้แล้วให้เกิดความเป็นธรรมทั่วถึงใช่ไหม และส่งถึงมือประชาชนโดยรวมโดยตรงทำนองนี้ ถ้ามองว่าเป็นการให้โน้นให้นี้ เราก็ให้อยู่แล้ว อยู่ว่าเราจะให้มากขึ้นไหม กลุ่มไหนได้มาก ตรงนี้เป็นประเด็นสำคัญการที่จะไปแยกเรื่องใหม่ออกมาเลยใช้เงินมหาศาล แล้วของเก่าที่ได้อยู่แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาทำ เขาก็งดหมด เลิกหมดของเก่า ที่เคยได้ก็จะไม่ได้เพราะเอาไปใส่อันใหม่หมด เราไม่ได้ว่าใคร เดี๋ยวจะหาว่าตนมาพูดการเมืองตรงนี้ แต่พอสื่อถามก็ตอบ

เมื่อถามว่า วันนี้นายกฯ อารมณ์ดี นายกฯ กล่าวว่า ดีทุกวัน ตัวจริงดีทุกวัน เมื่อถามว่า มีเรื่องอะไรดีๆ หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เปล่า ก็ไม่มีอะไรดี ก็เหมือนเดิม เพียงแต่ว่าเครียดไปก็เท่านั้น เหนื่อยเปล่าเท่านั้น ขณะที่ผู้สื่อข่าวกล่าวว่า ขอให้เป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เหรอจ๊ะ

เมื่อถามว่า นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม ยังทำงานอยู่กับเราใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็ยังไม่ได้พูดกันตรงนี้ นายอิทธิพลก็ไม่ได้พูดอะไร ตอนนี้ก็ยังทำงานอยู่กับเรา ก็มีข่าวในโซเชียลในสื่ออยู่แล้ว เราก็ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกันหรอก มันก็แล้วแต่ความสมัครใจของเขา

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรครวมไทยสร้างชาติจะเปิดตัวทีมเศรษฐกิจตัวเป้งๆเมื่อไหร่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เคยเห็นไหมที่มีใครเก่งคนเดียว และทำได้จริง มันไม่มี เพราะต้องทำเป็นทีม ไอ้คำว่าทีมก็ไม่จำเป็นต้องเก่งทุกคน ตนก็ไม่ได้เก่งเศรษฐกิจ แต่ก็ประคับประคองประเทศมา 8 ปี แล้วตนมีใคร มันเป็นทีมงานที่ทำงานด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวงการคลัง ข้าราชการ ถ้าพูดถึงทีมเศรษฐกิจ แล้วเอานักธุรกิจมาเขาก็เป็นอีกแบบหนึ่ง เขาต้องบริหารบริษัทของเขา ซึ่งเพอร์เฟกอยู่แล้ว ทำอย่างไรถึงจะกำไรมากขึ้น ทุกคนทำงานแข่งกันอยู่แล้ว เพราะเขามีฝ่ายมีแผนกหลายร้อยคน แต่รัฐบาลทำเศรษฐกิจให้คน 70 ล้านคน เหมือนบริษัทใหญ่ไม่ล้มสลายก็เก่งแล้ว ได้รับคำชมเชยพอสมควร ทำไมไม่มองตรงนี้

นายกฯกล่าวว่า วันนี้ก็ถามกันอยู่แบบนี้ใครจะเป็นทีมเศรษฐกิจ จนเขากลัวกันหมดแล้ว เขาอยากมาก็ไม่กล้าเปิดตัว แต่เขาจะช่วยนายกฯ ตนก็เอาเขามาช่วยกันคิดช่วยกันทำ ก็ไม่ต้องเอาเปิดเผยตัว ทุกอย่างทำมาแบบนี้ ไม่มีใครเก่งทั้งหมดทั้งโลกหรอก แต่อยู่ที่ว่าจะเอาคนเหล่านี้มาทำงานร่วมกันได้อย่างไร เศรษฐกิจมหภาพ เศรษฐกิจจุลภาค นายกฯอยู่ตรงนี้เป็นคนบริหารตรงนี้ ซึ่งต้องฟังคนรู้ แล้วเอาปัญหาที่รู้มาปรึกษากัน เราทำงานอย่างนี้ ไม่มีใครเป็นพระเอก เศรษฐกิจมีใครเป็นพระเอกบ้างหล่ะ ไม่ได้ คนเดียวทำไม่ได้ จะทำโน้นทำนี้ไม่สนใจกฎหมาย ไม่สนใจระเบียบการเงินการคลัง ไม่สนใจธนาคารแห่งประเทศไทย ไม่มีทาง ทำไม่ได้

เมื่อถามว่า คิดว่าการหาเสียงของนายกฯหลังจากนี้จะต้องรุกหนักว่าเดิมหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็พูดเหมือนที่ตนไปพูดนั้นแหละ ที่มีแต่ความจริงใจ ความตั้งใจมั่น อะไรที่ดีเราก็จะทำต่อ รับฟังความคิดเห็นของเขา ใครต้องการส่ิงใหม่ๆก็จะพิจารณา แต่เป็นการทำต่อ ไม่ใช่รื้อใหม่ ทำใหม่ มันไม่ใช่เวลารื้อ ซึ่งรื้อไม่ได้หรอก ทำมาเยอะแล้ว มันกำลังเดินหน้าอยู่ อย่างวันนี้คณะผู้ประกอบการรุ่นใหม่ YEC มาพบ ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ นายกฯได้โบกมือทักทายผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่กำลังเดินจากตึกสันติไมตรีเพื่อไปชมตึกไทยคู่ฟ้าอย่างอารมณ์ดี พร้อมกล่าวว่า เขาก็รักฉันทุกคน

ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้ทำไมดูอารมณ์ดี คึกจัง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า แล้วทำไมอารมณ์ดีก็ว่า อารมณ์เสียก็บ่น เมื่อเช้าฉันเหนื่อย "จะรอดวันนี้หรือเปล่า"มันเหนื่อยมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 ก.พ.เหนื่อยมาหลายวัน มันเครียด

ผู้สื่อข่าวเลยกระเซ้าขอให้นายกฯร้องเพลงให้ฟังคลายเครียดหน่อย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ร้องตรงนี้ก็บ้าแล้ว ยืนร้องคนเดียว

เมื่อถามว่า นายกฯจะแต่งเพลงเพิ่มเติมหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เดี๋ยวเขาก็ว่าเอาอีกหาว่าเราไม่มีงานทำ