ผ่าดวงวิกฤติฤกษ์ยามรัฐบาลเตรียมยุบสภาจากกระแสข่าวว่า "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" ถือฤกษ์งามยามดี สุดท้ายจะกลับมาสืบทอดอำนาจใหม่ได้หรือไม่ ??

17 ม.ค.66 นายชนม์ทรรศน์. ฤทัยผ่อง หรือ "ซินแสเข่ง" ผู้อำนวยการสถาบันโหราศาสตร์พยากรณ์แห่งประเทศไทย ผ่าดวงวิเคราะห์ดวงนายกฯ จับยาม ดวงฤกษ์ยุบสภาของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ซึ่งถือว่าเดือนกุมภาพันธ์ 2566 นั้น ตามราศีดวงถือว่าเป็นเดือนเสริมดวงแห่งมหาอำนาจมหาชัยในการที่จะ สร้างความสำเร็จของจุดเปลี่ยนเพราะะเป็นเดือนมหามงคลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อาจถือว่าเป็นมงคลเพื่อแก้เคล็ดเมื่อคราวที่ลงสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2566 ที่ผ่านมาซึ่งถือว่าเป็นช่วงของเดือนปฏิปักษ์เดือนแห่งศัตรู ดาวคู่อริ จากบุคคลไม่หวังดี ดาวแห่งอิจฉา ริษยา นินทา ว่าร้าย ไม่ประสงค์ดี

 

แต่ช่วงของเดือนกุมภาพันธ์นั้น หากมีการแก้ไขถือว่าดี เพราะเป็นเดือนที่จะสร้างความมั่นคง ให้เกิดขึ้น ส่วนการกำหนดฤกษ์วันนั้น. อาจดูฤกษ์ไว้แล้วว่า. ท่านนายกฯ น่าจะเลือกฤกษ์ยาม. เพื่อประกาศยุบสภาของวันที่ดีหรือไม่. เพื่อการเลือกตั้งใหม่คือวันที่ 14 และ 24 เดือนกุมภาพันธ์ และวันที่ 7 เดือนมีนาคม 2566

 

ซินแสเข่งจึง ผ่าดวงวิเคราะห์ฤกษ์ยาม. และผูกดวง. หากท่านนายกฯ ตามฤกษ์ที่กล่าวไว้แล้วนั้นว่า วันที่ 14 ถือว่าเป็นฤกษ์แห่งมงคล วันแห่งการพบความรุ่งโรจน์อย่างมั่นคงสร้างความคิดให้สมองเฉียบแหลม ได้รับความสำเร็จอย่างดีเยี่ยมในการแก้ไขปัญหาประสบความสำเร็จ

 

วันที่ 24 เดือนแห่งบริวารจะได้รับการช่วยเหลือจากเพื่อนฝูงและบริวารได้รับการไว้วางใจอุปถัมภ์ค้ำชู แต่ต้องระวังจากบุคคลที่ไม่หวังดี.ที่อาจเป็นอุปสรรค ยุแหย่ สร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้น ก่อให้เกิดความขัดแย้งเป็นศัตรู

 

ส่วนวันที่ 7 เดือนมีนาคม เป็นวันที่จะก่อให้เกิดการแตกแยกวุ่นวายสับสน พลัดพรากตลอดจนถึงตกดวงดาวเสาร์คู่ดาวอริศัตรู ดาวแห่งประธานอิทธิฤทธิ์อำนาจทุกข์โทษ กับความล่าช้า ก่อให้เกิดความแตกแยกเป็นอุปสรรคไม่ได้ดั่งใจดั่งที่คาดหวัง

 

ซินแสเข่ง กล่าวเพิ่มเติมว่า การเลือกฤกษ์ยามที่ดี เหมือนได้ดื่มน้ำหวาน แต่การเลือกฤกษ์ยามที่ไม่ดี เหมือนดื่มยาพิษ การใช้ฤกษ์ยามที่สำคัญ ฤกษ์งาม ยามดี ถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่ง