"รัฐบาล" เผย ตัวเลขส่งออกเดือนสิงหาคม 2565 ขยายตัวต่อเนื่อง 7.5% สะท้อนสัญญาณบวกเศรษฐกิจไทย การันตีความสามารถในการแข่งขันไทยในตลาดโลก

 

วันที่ 28 ก.ย. 2565 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยตัวเลขส่งออกของไทยเดือนสิงหาคม 2565 มีมูลค่า 23,632.72 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 7.54 หรือคิดเป็นเงินไทย 861,169.17 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 20.38 จากช่วงเดือนสิงหาคม ของปี 2564 ขณะที่ภาพรวมการส่งออกของไทย 8 เดือนแรก (มกราคม – สิงหาคม 2565) มีมูลค่า 196,446.83 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 11.0 หรือคิดเป็นเงินไทย 6,635,446.32 ล้านบาท นับว่าขยายตัวร้อยละ 21.93 จากช่วงเดียวกันของปี 2564 สะท้อนสัญญาณบวกต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของไทย แม้หลายปัจจัยในโลกได้รับผลกระทบจากความท้าทาย แต่สินค้าหลายตัวของไทยยังมีศักยภาพแข่งขันในตลาดโลกได้

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า สินค้าส่งออกหลักเดือนสิงหาคม 2565 ที่มีการขยายตัวต่อเนื่อง ได้แก่
1. สินค้าอุตสาหกรรมเกษตร มีมูลค่าการส่งออก 1,948.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 27.6 จากเดือนสิงหาคม 2564 กลุ่มอาหารแปรรูปที่มีความต้องการสูงในเดือนสิงหาคม 2565 เช่น ข้าว น้ำตาล อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ไก่สด อาหารสัตว์เลี้ยง ผลไม้กระป๋องและแปรรูป เครื่องดื่ม และไอศกรีม เป็นต้น
2. สินค้าอุตสาหกรรม มีมูลค่าการส่งออก 18,673.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 9.2 จากเดือนสิงหาคม 2564 โดยสินค้าที่มีความต้องการสูงในเดือนสิงหาคม 2565 เช่น รถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำ) และแผงวงจร เป็นต้น

ทั้งนี้ ตลาดส่งออกสำคัญของไทยที่ขยายตัว 10 อันดับแรกในเดือนสิงหาคม 2565 ได้แก่ กลุ่มประเทศ CLMV แคนาดา ตะวันออกกลาง สหราชอาณาจักร ลาตินอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย สหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และอาเซียน ตามลำดับ

"รัฐบาลดำเนินการในเชิงรุก ผ่านการวิเคราะห์ หาช่องทางที่ดีที่สุด และบูรณาการการทำงานร่วมกับภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันและอำนวยความสะดวกในการส่งออก การหาตลาดใหม่ หาช่องทางใหม่ ๆ รวมถึงแก้ไขปัญหา และอุปสรรคทางการค้า ส่งผลให้ภาพรวมการส่งออกสินค้าของไทยขยายตัวต่อเนื่องอย่างเป็นรูปธรรม และมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นการทำงานตามแนวทางที่ถูกทาง และถือเป็นเสียงตอบรับศักยภาพสินค้าของไทยยังมีโอกาสอีกมากในตลาดโลก" นายอนุชาฯ กล่าว