"อนุดิษฐ์" ชี้ "ทร." มีพิรุธ ส่อมีเงินทอน หลังซื้อ "เมล์ ยูเอวี" งบพันล้าน จัดซื้อแบบไม่ติดอาวุธ ผิดจากที่เสนองบสภาฯ เมื่อปี 65

 

วันที่ 1 มิ.ย.65 น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทยอภิปราย ต่อที่ประชุมสภาฯ ในการพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติ (พรบ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 วงเงิน 3.185 ล้านล้านบาท โดยวาระแรก วันที่สอง ในส่วนของงบกระทรวงกลาโหมว่า ปี พ.ศ. 2565 กองทัพเรือ เสนอการจัดซื้ออากาศยานไร้คนขับประจำฐานบินชายฝั่ง (เมล์ ยูเอวี) ปี พ.ศ. 2565 กำหนดวงเงินจัดวื้อ จำนวน 4,070 ล้านบาท โดยกำหนดทีโออาร์ชัดเจนว่า มียูเอวี 3 เครื่อง พร้อมอุปกรณ์ติดตั้ง เช่น ระบบอาวุธ สถานีควบคุม (กราว คอนโทรล) แต่มีเพื่อนของตนเองจากกองทัพเรือแจ้งตนเองว่า การจัดซื้อดังกล่าว มีเพียงตัวยูเอวี และระบบควบคุมไม่ติดอาวุธด้วย ทั้งนี้จากการตรวจสอบ ทีโออาร์ระบุ ยูเอวี ติดอาวุธ แต่ก่อนที่ทีโออาร์จะประกาศใช้ มีเสี่ยชื่อสองพยางค์ ที่ใกล้ชิดกับบิ๊กในกองทัพ วิ่งเต้นให้แก้ไขทีโอาร์ ให้ซื้อยูเอวี แบบไม่ซื้ออาวุธ เพราะบริษัทที่มีชื่อสามพยางค์ ไม่สามารถเสนอราคาอาวุธมาได้ เพราะบริษีทผู้ผลิตอาวุธที่เสี่ยเป็นตัวแทนไม่สามารถขายอาวุธให้กับประเทศไทยได้

โดยน.อ.อนุดิษฐ์อภิปรายกล่าวว่า ปลายทางเรื่องนี้กองทัพเรือจะได้ยูเอวีที่ติดอาวุธ แต่ไม่ซื้ออาวุธติดตั้ง อย่างไรก็ดีตนเองทราบมาว่า บริษัทที่ขายยูเอวีที่ไม่ได้ติดอาวุธ จะเพิ่มจำนวนให้อีก 4 เครื่อง รวมเป็น 7 เครื่อง และลดราคาให้ 1 พันล้านบาท เหลือ 3 พันล้านบาท

“การลดราคา หรือเพิ่มจำนวนให้ไม่ใช่ประเด็น แต่สำคัญคือ หากยูเอวีไม่ติดอาวุธ จะเป็นปัญหา ไม่สามารถสู้รบได้ ทั้งนี้การจัดหาครั้งนี้อย่าชี้แจงว่าประหยัดงบประมาณประเทศ แต่คนในกองทัพเรือบอกว่าเงินภาษีประชาชน หล่น 1 ตัน ผมขอแจ้งให้นายกฯ ฐานะรมว.กลาโหม ทราบว่า การซื้อยูเอวี 7 ลำไม่ติดออาวุธ มีราคาจริง 2 พันล้านบาทเท่านั้น แต่จัดซื้อ 3 พันล้านบาท ถือว่าโครงการนี้มีเงินทอน ทั้งนี้มีเอกสารจากสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ระบุว่าสามารถจัดหายูเอวี แบบไม่ติดอาวุธได้ 2 พันล้านบาท” น.อ.อนุดิษฐ์ อภิปราย