นายกฯ ขอประชาชน และทุกภาคส่วนเข้มงวดมาตรการป้องกันโควิด-19 หวังลดจำนวนผู้ติดเชื้อ พร้อมแนะสธ. เร่งลดจำนวนผู้เสียชีวิต รณรงค์ฉีดวัคซีนโควิด–19 ทั้งเข็มปกติ และเข็มกระตุ้นให้ได้มากที่สุด ขณะที่ผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่รวม 17,784 ราย

 

วันที่ 24 เมษายน 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 วันนี้มีผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ รวม 17,784 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยจากในประเทศ 17,706 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 78 ราย มีผู้ป่วยสะสม 1,942,439 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) หายป่วยกลับบ้าน 22,846 ราย หายป่วยสะสม 1,786,451 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) ผู้ป่วยกำลังรักษา 183,154 ราย เสียชีวิต 126 ราย จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 1,929 ราย เฉลี่ยจังหวัดละ 25 ราย อัตราครองเตียง ร้อยละ 24.5

ทั้งนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เน้นย้ำประชาชน และทุกภาคส่วน ยังคงต้องเข้มข้นในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด–19 อย่างเคร่งครัด เพื่อลดอัตราการติดเชื้อที่อาจจะเพิ่มขึ้น แม้ผู้ติดเชื้อในประเทศส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอาการสีเขียวที่สามารถรักษาได้ในรูปแบบ Home Isolation (HI) Community Isolation (CI) และแบบผู้ป่วยนอก “เจอ แจก จบ” อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดแนวทางการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้

1. กลุ่มที่ไม่มีอาการ ไม่ต้องกินยาต้านไวรัส อาจให้ยาฟ้าทลายโจร ขึ้นกับดุลยพินิจของแพทย์

2. กลุ่มที่มีอาการไม่รุนแรง ไม่มีปอดอักเสบ ไม่มีปัจจัยเสี่ยง พิจารณาให้ยาฟาวิพิราเวียร์เร็วที่สุด

3. กลุ่มที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อโรครุนแรงหรือกลุ่มที่มีปอดอักเสบ แต่ยังไม่ต้องให้ออกซิเจน พิจารณาให้ยาต้านไวรัสเร็วที่สุด โดยประเมินจากประวัติวัคซีน และปัจจัยเสี่ยงต่อโรครุนแรง

4. กลุ่มที่มีอาการปอดอักเสบต้องได้รับการรักษาด้วยออกซิเจน พิจารณาให้เรมเดซิเวียร์อย่างเร็วที่สุด

ทั้งนี้โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังกล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงสาธารณสุขยังได้ดำเนินการตามนโยบาย และข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีที่ให้ความสำคัญในการลดจำนวนผู้เสียชีวิตให้น้อยที่สุด โดยเน้นการดูแลผู้ป่วยกลุ่มสีเหลือง และสีแดงที่มีความเสี่ยงอาการรุนแรง และเสียชีวิตเป็นหลัก รวมทั้งเร่งรณรงค์ให้ประชาชนรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั้งเข็มปกติ และเข็มกระตุ้นด้วย