“สิงโต ปราชญา” ดีใจเตรียมบินไปจัดแฟนมีตติ้งที่ญี่ปุ่น รับซื้อบ้านเซอร์ไพรส์วันเกิดคุณพ่อ ลั่นยังไม่พับแพลนเรื่องเรียนต่อ

 

'สิงโต ปราชญา' ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวช่อง 8 ว่า

นักข่าว : ล่าสุดเตรียมมีโปรเจ็กพิเศษจะบินไปจัดแฟนมีตติ้งที่ต่างประเทศ?
สิงโต : ใช่ครับ กำลังจะมีโปรเจ็กใหญ่ที่กำลังจะถึงนี้ คือบินไปญี่ปุ่น เป็นแฟนมีตติ้ง แบบ 4 รอบจัดเต็ม

นักข่าว : อันนี้เป็นโปรเจ็กที่เราตั้งใจรอเลยใช่ไหม?
สิงโต : จริง ๆ เป็นความอยากส่วนบุคคลด้วย เพราะอยากไปญี่ปุ่นอยู่แล้ว และก็เป็นโปรเจ็กที่เราอยากไปเที่ยวด้วย เลยได้ไปเจอแฟน ๆ ที่ญี่ปุ่นด้วย เพราะเราไม่ได้เจอกันเลย เราไม่ได้เจอบรรยากาศแบบนี้นานมากแล้ว

นักข่าว : เตรียมเซอร์ไพรส์จัดเต็มเลยใช่ไหมรอบนี้?
สิงโต : ก็เรียกว่าโปรเจ็กนี้เตรียมเพลงต่าง ๆ แล้วก็การพูดคุย เกมส์ ไปเล่นกับพวกเขาด้วย เป็นการจัดกิจกรรมกับแฟนคลับให้หายคิดถึง

นักข่าว : เราวางแผนยังไงบ้าง กับโปรเจ็กครั้งนี้?
สิงโต : เรียกว่าแผนที่จะทำอยู่ตอนนี้ คือเลือกว่าจะทำให้ตัวเองไม่ติดโควิดยังไง ต้องรักษาเนื้อรักษาตัว ต้องดูแลตัวเองให้ดีที่สุด ทุกวันนี้ที่ยังรอดมาได้ จนจะทำพระออกมาแขวนคอแล้ว เรียกว่ายังมีแต้มบุญที่ดีอยู่ทำให้รอดมาทุกซีซั่น

นักข่าว : ล่าสุดเซอร์ไพรส์คุณพ่อด้วยการซื้อบ้านหลังใหม่ให้เป็นของขวัญวันเกิด?
สิงโต : จริง ๆ อ่ะคืออยากจะซื้อบ้านให้ตัวเองอยู่แล้ว และก็ประจวบเหมาะกับเราตั้งใจไปทำห้อง กับทำพื้นที่ให้คุณพ่ออยู่ด้วย แบบว่าอยากให้เค้ามีที่ไว้พักผ่อนได้ ก็เลยเป็นบ้านหลังนี้ แต่ก็อยากให้พักอยู่บ้านหลังเดิมไปก่อน เพราะเวลาเราทำงานเค้าก็อยู่คนเดียว กลัวเค้าจะเป็นซึมเศร้าหรือว่าเหงา เพราะมันจะไม่มีใครให้คุยด้วย และที่เราเลือกบ้านหลังนี้เพราะว่ามันสงบ ความตั้งใจเลยอยากให้เค้าอยู่บ้านหลังเก่าไปก่อน เอาไว้ให้บ้านหลังนี้เป็นที่พักผ่อนเวลาเราไม่ได้ทำงาน

นักข่าว : ความคืบหน้าของบ้านตอนนี้ สำเร็จไปกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว?
สิงโต : ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงของการตกแต่งอยู่เลย คาดว่าน่าจะเสร็จทุกอย่างทั้งหมดต้นปีหน้า ที่จะสามารถเข้าไปอยู่ได้เลย ตอนนี้ยังเลือกรูปแบบกันอยู่เลยว่าจะต้องทำยังไง หรือเพิ่มเติมอะไรต่อ

นักข่าว : วางงบไว้กับบ้านหลังนี้เท่าไหร่?
สิงโต : ส่วนตัวคิดว่าต้องบานปลายแน่ ๆ เพราะตอนแรกคิดว่าแค่หนึ่งพอ แต่อย่างว่า เลขหนึ่งก็ถือว่าเยอะแล้ว ซึ่งปกติแล้วเราจะเอาบ้านไว้ใช้พักผ่อนอย่างเดียว เพราะว่ากลับบ้านไปหลังทำงานเสร็จก็นอนอย่างเดียว เช้ามาก็ไปทำงานอีก และก็แทบจะไม่ได้ใช้ฟังก์ชันอื่นอีกเลย

นักข่าว : เรากังวลไหมว่ายอดจะบานปลาย?
สิงโต : ก็กังวล แต่เราก็รู้สึกว่าถ้าทำครั้งหนึ่งแล้วก็จะขอทำให้ดีไปเลยให้ถูกใจไปเลย อย่างเรื่องโทนสีหรือการตกแต่ง เพราะว่าถ้าเราไม่ได้คิดมากก็คงจะไม่ให้พี่มาช่วยออกแบบหรอก ว่าอยากได้แบบไหน คงไม่ต้องมานั่งคิดว่าจะจัดสรรปั่นส่วนห้องต่าง ๆ ยังไง

นักข่าว : ทางด้านคุณพ่อ มีห้ามหรือเตือนไหมว่าพอแล้ว?
สิงโต : ไม่นะครับ เค้าปล่อยให้เราเต็มที่เลยครับ เปิดโอกาสให้เราเต็มที่กับทุกอย่าง ขนาดซื้อบ้านยังไม่ได้บอกเขาเลย มาบอกอีกทีนึงก็คืออย่างที่เห็นเลย คือวันเกิดพ่อ คือพาไปดูบ้านแล้วเอาโฉนดให้เค้าดู ก็คือเป็นเซอร์ไพรส์ไปเลย

นักข่าว : คุณพ่อว่ายังไงกับบ้านหลังนี้?
สิงโต : คือมีประโยคหนึ่งที่เค้าพูด คือ สบายใจแล้วไม่ห่วงเราละ ขำ ๆ ก็ห่วงหน่อยก็ได้นะ แต่เข้าใจว่าเค้าเห็นว่าเราทำตามสิ่งที่เราอยากทำไปหมดแล้ว ที่เป็นแพลนในชีวิตเราหลายอย่าง ทั้งเรื่องเรียนจบแล้ว จริง ๆ เราเรียนจบแล้ว ก็มีแพลนจะรับปริญญาเดือนหน้า คือจบมานานละแต่ติดช่วงโควิด

นักข่าว : แพลนที่อยากจะไปเรียนต่อต่างประเทศสรุปยังไง?
สิงโต : จะบอกว่าเรื่องนี้เราวางแผนไว้นานมาก สุดท้ายมันก็มีเรื่องโน้นเรื่องนี้เข้ามาตลอด และเรื่องโควิดด้วย ที่เราห่วงพ่อด้วย เพราะว่าช่วงนั้นยังไม่มีวัคซีนที่ดี เราก็เลยอยากจะจัดการทุกอย่าง แล้วก็บวกกับว่าถ้าไปเรียนช่วงนั้นมันก็ไม่ได้ต่างกับเรียนที่ไทย เพราะมันจะเป็นการเรียนออนไลน์อยู่ดี อยากไปแบบได้ปฏิบัติจริงมากกว่าเลยปล่อยเรื่อยมา รอบนี้ก็คิดว่าเราจะต้องขอเวลาที่เหมาะ จะทำสิ่งใดก่อน ก็เลยจะขอจัดการเรื่องการทำบ้านก่อน และเคยบอกว่าถ้าตราบใดที่ตนยังอายุไม่เกิน 30 ก็ยังมีเป้าหมายที่จะไปอยู่ดี แต่เราไม่ได้บังคับตัวเองว่าจะต้องรีบไป หรือจะต้องไปเมื่อไหร่

นักข่าว : เรียกว่าตอนนี้ต้องรอโอกาสก่อนใช่ไหม?
สิงโต : ก็ยังไม่ได้พับแพลนไปเลย และปีนี้ก็จะมีงานแน่นมาก เพราะทางผู้จัดการเองก็บอกว่าถ้าจะไปเรียนต่อ อยากจะทำเงินให้มีเหลือไว้ใช้ เพราะการจะไปเรียนต่อมันก็ต้องใช้เงินเยอะ จริง ๆ ตอนนี้ก็มีเรื่องบ้านเข้ามาด้วย มันก็ถือว่าหนัก เรียกว่าคงต้องอยู่ทำงานไปก่อนช่วงนี้