'บรูคลิน เบ็คแฮม' ควงดาราสาว ลูกสาวมหาเศรษฐี 'นิโคลา เพลท์ซ' เข้าพิธีวิวาห์สุดอลังการ ทุ่มงบจัดกว่า 120 ล้านบาท โดยก่อนเข้าพิธีวิวาห์ ทั้งคู่ตกลงเซ็นสัญญาปกป้องทรัพย์สิน หากอนาคตต้องแยกทางกัน


ลูกชายเดวิด เบ็คแฮม 'บรูคลิน เบ็คแฮม' ในวัย 23 ปี เข้าพิธีวิวาห์กับแฟนสาวสุดสวย 'นิโคลา เพลท์ซ' ดาราสาววัย 27 ปี ที่เคยฝากผลงานในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ "Transformers: Age of Extinction"

'นิโคลา' เป็นลูกสาวของมหาเศรษฐี เพลสัน เพลท์ซ ทั้งคู่คบกันมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2019 และหมั้นกันเมื่อเดือนกรกฎาคม 2020 กระทั่งล่าสุดควงแขนกันเข้าพิธีวิวาห์เมื่อวันที่ 9 เมษายน ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ที่คฤหาสน์ริมทะเลของฝ่ายหญิง ในเมืองปาล์มบีช รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา

ความฮือฮาในงานแต่งครั้งนี้ เริ่มตั้งแต่ความทุ่มทุนสร้าง งานแต่งอลังการ ทุ่มงบจัดไปกว่า 3.6 ล้านเหรียญสหรัฐ หากคิดเป็นเงินไทยก็ราว 120 ล้านบาท แน่นอนว่า แขกที่มาในงานล้วนแต่เป็นบุคคลมีชื่อเสียง อาทิ เซเรน่า วิลเลียมส์ นักเทนนิสสาวอดีตมือ 1 ของโลก, กอร์ดอน แรมเซย์ เชฟชื่อดัง, สมาชิกวง Spice Girls วงป๊อปในตำนานที่มีสมาชิกคือ วิคตอเรีย แม่ของบรูคลิน

อีกเรื่องที่น่าสนใจสำหรับการแต่งงานของทั้งคู่ สื่อต่างประเทศรายงานว่า ก่อนจะเข้าพิธีวิวาห์ ทั้งสองคนได้เซ็นสัญญาก่อนแต่งงาน เพื่อปกป้องทรัพย์สินของทั้ง 2 ฝ่าย หากในอนาคตทั้งคู่แยกทางกัน

สำนักข่าวเดลี เมล รายงานว่า ทางบรูคลิน เบ็คแฮม เข้าใจดีกับการที่เขาต้องเซ็นสัญญาก่อนแต่งงาน เพราะว่าเจ้าสาวเป็นทายาทมหาเศรษฐี ที่มีสินทรัพย์กว่า 1.3 พันล้านปอนด์ หรือประมาณ 7.5 หมื่นล้านบาท ส่วนทางด้านครอบครัว เบ็คแฮม มีทรัพย์สินรวมกันประมาณ 380 ล้านปอนด์ หรือ ประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท

 

 

สำหรับการเซ็นสัญญาก่อนแต่งงาน เคยเกิดขึ้นในคู่รักดาราระดับโลก ซึ่งรายละเอียดในสัญญาก็แตกต่างกันไป เช่น นิโคล คิดแมน และ คีธ เออร์เบิน ที่ทำสัญญาก่อนแต่งงานว่า หาก คีธ ไม่กลับไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ก็จะได้รับเงิน ปีละ 640,000 เหรียญจากนิโคล หรือ อย่าง บริทนีย์ สเปียร์ ที่แต่งงานกับ เควิน เฟเดอร์ไลน์ หนุ่มส่งพิซซ่า ตอนนั้นญาติ ๆ ของ บริทนีย์ ได้ให้เธอทำสัญญาไว้ก่อน เมื่อถึงคราวรักของเธอไม่ได้ไปต่อ สามีได้เรียกร้องเงิน 30 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ แต่เนื่องจากมีการทำสัญญาไว้ ทำให้เธอจ่ายเงินไปแค่ 1 ล้านเหรีญดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น ตามที่ระบุในสัญญา และต่อมาเธอได้ประกาศหมั้นกับ แซม แอสการี เทรนเนอร์หนุ่มอิหร่าน ก็มีหลายคนแนะนำให้เธอทำสัญญาอีกครั้ง เพื่อเธอจะได้ไม่เสียเปรียบ เสียทรัพย์สินที่เหน็ดเหนื่อยหามา

การเซ็นสัญญาก่อนแต่งงานในประเทศไทย ยังไม่แพร่หลาย แต่การทำสัญญาก็เพื่อจัดการทรัพย์สิน มีการแยกสินเดิม สินสมรส และสินส่วนตัว เพื่อผลประโยชน์ของทั้ง 2 ฝ่าย เพราะการใช้ชีวิตคู่ อาจมีเรื่องไม่คาดฝัน การเตรียมตัวไว้ก่อนจึงเป็นเรื่องดี หลายคนอาจกังวลใจว่าการทำสัญญา เหมือนการไม่ไว้ใจคู่รัก แต่หากความรักราบรื่น สัญญาฉบับนี้ก็แทบไม่มีความหมาย มันอาจจะเป็นแค่กระดาษใบหนึ่งที่เราเก็บไว้จนลืมในลิ้นชักชั้นสุดท้าย

ขอบคุณข้อมูลจาก : แพรว wedding