'สุชัชวีร์' ถือฤกษ์ 09.05 น. เข้าพรรค ปชป.สักการะพระแม่ธรณีบีบมวยผม พร้อมเปิดตัว สก. 50 เขต ลุยเลือกตั้ง กทม. ลั่นกรุงเทพฯ เปลี่ยน  ประเทศเปลี่ยน ยันให้ความสำคัญกับทุกกลุ่ม เตรียมลงพื้นที่บางขุนเทียน ดูน้ำท่วมก่อนที่แรก

 

วันที่ 14 ธ.ค. 2564 ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในนามพรรคประชาติปัตย์ ถือฤกษ์ 09.05 น. เข้าสักการะพระแม่ธรณีบีบมวยผม ประจำพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อความเป็นสิริมงคล หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการวานนี้ พร้อมมีการเปิดตัวทีม ว่าที่ผู้สมัคร สก.ทั้ง 50 เขต ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ภายใต้สโลแกน "เปลี่ยนกรุงเทพฯ เราทำได้" โดยมีนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (รมว.กษ.) ในฐานะเลขาธิการพรรค มาเป็นประธาน และมีบรรดา ส.ส.ของพรรคมาต้อนรับด้วย

ทั้งนี้ ศ.ดร.สุชัชวีร์ กล่าวว่า ตอนนี้ได้เป็นสมาชิกตลอดชีพของพรรคประชาธิปัตย์แล้ว ในฐานะน้องใหม่ของพรรครู้สึกอบอุ่น รู้สึกถึงพลังของพรรคประชาธิปัตย์ รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่เฉพาะกรุงเทพฯ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยด้วย  โดยเฉพาะว่าที่ผู้สมัคร สก. แต่ละเขต ถือเป็นพลังมหาศาลของ กทม. โจทย์สำคัญหลังจากนี้ ผู้สมัครแต่ละเขตต้องแสดงให้เห็นว่าเราจะเปลี่ยนกรุงเทพฯ เพราะว่าเราทำได้ หากกรุงเทพฯเปลี่ยน ประเทศก็เปลี่ยน เพราะหากไม่เปลี่ยน ก็จะไม่มีทางรอด ต้องเปลี่ยนกรุงเทพฯ ที่ถูกย่ำยี ฝนตก น้ำท่วม รถติด เศรษฐกิจล้าหลัง การศึกษาที่พัง ให้ได้

พร้อมขอประกาศให้รู้ว่า เราคือพรรคที่คิดถึงประชาชน เป็นพรรคที่นำการเปลี่ยนแปลงมาสู่กรุงเทพฯ และประเทศไทย หลังจากนี้ เราทุกคนจะเดินไปพร้อมกัน ทุกพื้นที่ของกรุงเทพฯ ส่งสัญญาณให้ประชาชนได้รู้ว่า ประชาชนคืออนาคตของกรุงเทพฯ มีส่วนสำคัญในการเปลี่ยนเมืองครั้งนี้

ศ.ดร.สุชัชวีร์ ระบุอีกว่า ที่แรกที่จะลงพื้นที่ คือ ฝั่งธนบุรี โดยเฉพาะเขตบางขุนเทียน เพื่อไปดูปัญหาน้ำท่วม เพราะการแก้ปัญหาน้ำท่วม จะเป็นการพลิกชะตากรุงเทพฯ ส่วนนโยบายต่าง ๆ นั้น จะทยอยนำออกมาเรื่อย ๆ ย้ำว่าเป้าหมายสำคัญคือการเปลี่ยนกรุงเทพฯ

นอกจากนี้ยืนยัน ตนเองจะให้ความสำคัญกับประชาชนทุกกลุ่ม รวมถึงกลุ่มเยาวชน เพราะเป็นยุคเปลี่ยนผ่านระหว่าง generation  และได้ประกาศแล้วว่าจะขอเป็นตัวแทนของคนทุกเพศทุกวัย ในการเข้ามาทำหน้าที่

พร้อมกับย้ำว่า ได้เตรียมตัวมา 30 ปี ถือว่าวันนี้เป็น 30 ปีที่รอคอย ได้สั่งสมความรู้ประสบการณ์ทุกด้าน เพราะงานของผู้ว่าฯ กทม. เป็นงานเฉพาะตัวที่มีลักษณะพิเศษจริง ๆ เป็นทั้งพ่อบ้านและเป็นทั้งนายช่างใหญ่ในคนเดียวกัน เพราะงานกรุงเทพฯ มีงานหลายมิติ ทั้งปัญหาน้ำท่วม ก็ต้องรู้ด้านนี้จริง และปัญหาการศึกษาที่ตนเองรู้สึกอินมากๆ จึงขออาสาเป็นผู้ว่าฯ กทม. ด้านการศึกษาคนแรก