ราชกิจจาฯ เเพร่ข้อกำหนดฯ ฉบับที่ 37 บังคับใช้ตั้งเเต่ 1 พ.ย. เปิดทางต้อนรับ นทท.ต่างชาติ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ รอเตรียมความพร้อมในอนาคต

 

วันที่ 30 ต.ค. 2564 ราชกิจจานุเบกษา เผยเเพร่ข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 37) มีผลตั้งเเต่ 1 พ.ย. 2564 มีสาระสำคัญ โดยในพื้นที่ควบคุมสูงสุดเเละเข้มงวด 7 จังหวัด ได้เเก่ จันทบุรี ตาก นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา

มีการห้ามออกนอกเคหสถานสำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ห้ามบุคคลใดในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 23.00 นาฬิกา ถึง 03.00 นาฬิกา ของวันรุ่งขึ้น โดยใช้บังคับต่อเนื่องไปสำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดทุกจังหวัด  เป็นระยะเวลาอย่างน้อยสิบห้าวัน (จนถึงวันที่ 15 พ.ย. 2564) และให้การกำหนดเงื่อนไขการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่และกรณีของบุคคลที่ได้รับยกเว้นที่ได้ประกาศหรือได้อนุญาตไว้ก่อนหน้านี้ยังคงใช้บังคับต่อไป

สำหรับร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม สามารถเปิดให้บริการบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่ม ในร้านไม่เกินเวลา 22.00 นาฬิกา โดยห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน และจำกัดจำนวนผู้นั่งบริโภคในร้าน หากเป็นการบริโภคในห้องปรับอากาศให้มีจำนวนผู้นั่งบริโภคไม่เกิน ร้อยละ 50 ของจำนวนที่นั่งปกติ แต่หากเป็นการบริโภคในพื้นที่เปิดที่อากาศสามารถระบายถ่ายเทได้ดี เช่น ร้านอาหารขนาดเล็ก หาบเร่ แผงลอย รถเข็น ให้มีจำนวนผู้นั่งบริโภคไม่เกินร้อยละ 75 ของจำนวนที่นั่งปกติ

การแสดงดนตรีในร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม สามารถทำได้โดยมีผู้แสดงไม่เกิน 5 คน เป็นต้น 

ส่วนร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต ตลาดสด หรือตลาดนัด สามารถเปิดเพื่อการจำหน่ายสินค้าได้ทุกประเภทตามเวลาปกติจนถึงเวลา 22.00 นาฬิกา

นอกจากนี้ยังระบุถึงมาตรการควบคุมแบบบูรณาการในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว สำหรับพื้นที่ที่ประกาศเป็นพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ให้ดำเนินการตามมาตรการควบคุมแบบบูรณาการเพื่อการเปิดสถานที่ กิจการ และกิจกรรมสำหรับพื้นที่สถานการณ์ที่จำแนกเป็นเขตพื้นที่เฝ้าระวัง และตามมาตรการและข้อปฏิบัติต่าง ๆ ตามที่ได้กำหนดไว้ในข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 36) ลงวันที่ 21 ต.ค.พ.ศ. 2564

ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของข้อ 4 แห่งข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 36) ลงวันที่ 21 ต.ค. 2564 ที่กำหนดจำนวนบุคคลที่เข้ารวมกลุ่ม โดยกำหนดให้การจัดกิจกรรมรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนมากในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวสามารถทำได้ตามความเหมาะสม โดยปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ ยังให้เตรียมความพร้อมของสถานบริการหรือสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรคทั่วราชอาณาจักร สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ทั่วราชอาณาจักรยังคงมีความจำเป็นให้ปิดดำเนินการไว้ก่อน โดยให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบดำเนินการ เพื่อให้มีการเตรียมความพร้อมสำหรับการผ่อนคลายการเปิดสถานประกอบกิจการได้ตามแผนและกรอบเวลาที่รัฐบาลจะประกาศกำหนดต่อไปได้อย่างปลอดภัยภายใต้เงื่อนไขและการกำกับดูแล การปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขที่ทางราชการกำหนด

ทั้งนี้ ตามที่ได้ประกาศไว้ในข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2558 (ฉบับที่ 35) ลงวันที่ 15 ต.ค. 2564 และข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2558 (ฉบับที่ 36) ลงวันที่ 21 ต.ค. 2564 

อ่านฉบับเต็ม ข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 37)

คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ที่ 19/2564

คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 (โควิด - 19 ) ที่ 20/2564