"มงคลกิตติ์" เย้ย "บิ๊กตู่" หาก "ธรรมนัส" ไม่ปรานี หลุดเก้านายกฯ ไปแล้ว ลั่น พวกตุ๊ดชายชาติทหารไม่หักแบบนี้ เชื่อ 3 ป.แตกจริง เพราะนายกฯ เสมือนเอาเท้าเหยียบหน้า "ลุงป้อม"
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.พรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวถึงกรณีที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปลดร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน ว่า เกมการต่อรองมันจบแล้วตั้งแต่วันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา ร้อยเอกธรรมนัส ก็ทำเต็มที่แล้ว เขายอมเสียเพื่อนเสียน้องเพื่อให้ ส.ส.ในพรรคพลังประชารัฐโหวตให้พลเอกประยุทธ์ ทุกคน ส่วนพรรคเล็ก 3 คน ที่ไม่ลงมติไว้วางใจให้กับนายกรัฐมนตรี ก็ไม่ใช่เพราะคำสั่งร้อยเอกธรรมนัส แต่เป็นเพราะครอบครัวเขากดดันมา ต้องอย่าลืมว่า ส.ส.ไม่ใช่พลทหารที่อยู่ในกองร้อย เขาเป็นตัวแทนของประชาชน ไม่ใช่ตุ๊กตาไม่ใช่พนักงานบริษัท ต้องฟังเขาด้วย เพราะเขาเป็นร่างทรงของประชาชน
"พรรคพลังประชารัฐ ตัวสำคัญมีหัวหน้าพรรค เลขาพรรค เหรัญญิกพรรค ปลดไป 2 คน อีกหน่อยคงปลดลุงป้อมแล้ว เพราะว่าลูกผู้ชายเขาไม่ทำกันแบบนี้ ถ้าวันนั้น ร้อยเอกธรรมนัส สู้จริง ๆ นายกไม่เหลือ นี่เขาปราณีแล้ว แต่นายก ลูกผู้ชายเวลาเขาคุยกันจบคือจบ ขอโทษกันคือจบ พอขอโทษเสร็จเขาจัดการทุกอย่างให้แล้ว คุณยังมาฆ่าเขาตามหลัง อย่างนี้เขาไม่เรียกลูกผู้ชาย เขาเรียกว่าตุ๊ด เขาไม่ทำกัน ในวงการเมืองหรือนักเลงเขาก็ไม่ทำกันแบบที่นายกกำลังทำอยู่ ร้อยเอกธรรมนัสไม่ใช่ผู้ใต้บังคับบัญชา เหมือนทหารเกณฑ์ เขาเป็นรัฐมนตรี เขาเป็น ส.ส.คนหนึ่ง ตัวแทนของประชาชนคนหนึ่งไปทำแบบนั้นกับเขาได้อย่างไร"
เมื่อถามว่าครั้งนี้ นายกฯ หักหน้า พล.อ.ประวิตรหรือไม่ นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ไม่ใช่หัก เหยียบเลย พลเอกประยุทธ์เหยียบหน้าลุงป้อมเลย ปลดได้ยังไง ปกติเขาต้องคุยกันก่อน ลูกผู้ชายฆ่าได้แต่หยามไม่ได้
นายมงคลกิตติ์ ยังกล่าวต่อด้วยว่า เท่าที่ทราบกระบวนการล้มพลเอกประยุทธ์ ไม่ใช่แผนการของร้อยเอกธรรมนัส แต่เป็นเกมต่อรองของ ส.ส ภายในพรรค เพราะตลอด 2 ปีที่ผ่านมา รัฐมนตรีของพรรคไม่มีใครดูแล ส.ส.เลย และพลเอกประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐ หากไม่ดูแล ส.ส.ภายในพรรคแล้วเขาจะทำอย่างไร ที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์ ก็ตัดสินใจพลาดหลายเรื่อง ส.ส.เขาก็ลงพื้นที่ไม่ได้ เขาเกลียดนายกฯ เขาไม่ได้เกลียด ส.ส.พรรค และการปล่อยให้ ส.ส.อยู่ตามมีตามเกิด ในสถานการณ์วิกฤตเขาก็เดือดร้อน
นอกจากนี้ นายมงคลกิตติ์ ยังทำนายด้วยว่า หลังจากนี้ความสัมพันธ์ของพี่น้อง 3 คน คงไม่สนิทใจเหมือนเดิม อาจจะเหลือ 2 ป. รวมกับ 1 ป. 1 ธ. วันนี้ถือว่านายกรัฐมนตรี ใช้อารมณ์ตัดสินทางการเมือง ส่วนตัวมองว่าพลเอกประยุทธ์ อนุบาลมากในทางการเมือง ดูแล้วน่าจะเหมาะกับการเป็นหัวหน้าคณะปฏิวัติ ควรจะกลับไปอยู่ในแก๊งยึดอำนาจ ไม่สมควรเป็นนายกรัฐมนตรีในระบอบประชาธิปไตย เพราะไม่เข้าใจบริบทของนักการเมืองที่เป็นตัวแทนของประชาชน จะมาบอกให้ ส.ส.ปรับตัวเข้าหานั้นบ้าไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า พี่น้อง 3 ป. เขารักกัน นายมงคลกิตติ์กล่าวในเชิงเปรียบเทียบว่า จะขอเอาถ่านที่เผาร้อน ๆ ไปใส่ไว้ในมือพลเอกประยุทธ์ และพลเอกประวิตร มาดูกันว่าเขาจะปัดถ่านที่มือตัวเองก่อนหรือฝั่งตรงข้ามก่อน เพื่อจะได้พิสูจน์ว่าเขารักกันจริงหรือไม่ วันนี้จึงเชื่อว่าพลเอกประวิตรและพลเอกประยุทธ์ น่าจะแตกกันแล้ว และไม่ใช่แค่สองคนนี้ แต่ในพรรคพลังประชารัฐก็แตกกันด้วย อาจจะเหลือเพียงพรรคเล็ก ๆ ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
นายมงคลกิตติ์ ระบุอีกว่า ไม่แน่ พลเอกประวิตรอาจจะตามร้อยเอกธรรมนัสไป คงไม่อยากอยู่เป็นหัวหลักหัวตอ คงไม่อยากอยู่เป็นทาสรับใช้พลเอกประยุทธ์ และมองว่า ส.ส. ในพรรคพลังประชารัฐอย่างน้อยร้อยละ 60 คงไปกับร้อยเอกธรรมนัส ตอนนี้ใจไปแล้ว เหลือแต่กาย เพราะในทางการเมืองยังไปไม่ได้ แต่ยุบสภาเมื่อไหร่เขาไปแน่ พร้อมฟันธงว่า ในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะอวสานแก๊ง 3 ป. กลไก 8 ปีที่วางไว้ก็เป็นเพียงขี้ฟัน โควิดมาครั้งนี้ทำลายยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีทั้งหมด สมัยหน้ารัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตยเกิน 376 เสียงแน่ ไม่จำเป็นต้องมี สว. อนาคต 3 ป. ต้องกลับบ้าน และบั้นปลายชีวิตคงจบที่บ้านพักคนชรา เมื่อไหร่ที่ร่างกฎหมายลูกแก้ไขระบบเลือกตั้งเสร็จสิ้น นายกรัฐมนตรีคงยุบสภา แต่พลเอกประยุทธ์ คงเป็นนายกรัฐมนตรีรอบสุดท้ายแล้ว เพราะเขาไม่เหมาะกับงานการเมือง ทำงานสั่งอย่างเดียว
"นิสัยทหารเขาก็ไม่ทำแบบนี้ ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน ไม่แทงหน้าแทงหลัง แต่พลเอกประยุทธ์ ก็ไม่ได้ทำ นิสัยแบบนี้ในวงการทหารก็ไม่ใช้กันในวงการนักเลงก็ไม่ใช้ อันนี้วงการอะไรวงการกุ๊ยไหม" นายมงคลกิตติ์ทิ้งท้าย