"ถาวร" งัดหลักฐาน อ้าง "ธนาธร-ปิยบุตร" อยู่เบื้องหลังม็อบ ใช้เวลา 10 เดือน ปลุกปั่นเยาวชนผ่านโซเชียลมีเดีย

(24 พ.ย. 2563) นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม แถลงข่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มเยาวชน และกลุ่มที่เรียกตัวเองว่าราษฎร พร้อมนำหลักฐานเป็นคลิปภาพและเสียงมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน โดยระบุว่า มีการสมคบคิดร่วมกับนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ที่เคยกล่าวที่มหาวิทยาลัยลอนดอน เมื่อปี 2559 พาดพิงสถาบันว่า มีอิทธิพลเหนือผู้พิพากษา ซึ่งเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง

รวมถึงนายธนาธร จึงรุ่งเรือง ประธานคณะก้าวหน้า ที่เคยมีการพิมพ์ข้อความในหนังสือ Portrait เมื่อปี 2561 ที่ตอกย้ำเรื่องการปฏิรูปสถาบัน และกล่าวถึงการจัดตั้งพรรคการเมืองเพื่อเป็นเครื่องมือในการบรรลุวัตถุประสงค์ ก่อนถูกยุบพรรคอนาคใหม่ และมีการจัดแฟล็ชม็อบ ซึ่งเนื้อหาการชุมนุมก็เกี่ยวข้องกับการล้มล้างสถาบันและเปลี่ยนชื่อสถานที่สำคัญ ๆ หลายแห่ง ทั้งสนามหลวง, ถนนราชดำเนิน และแยกราชประสงค์ เป็นต้น

พร้อมกล่าวหาว่าทั้ง 2 คน ใช้เวลาประมาณ 10 เดือน เพื่อปลุกปั่นเยาวชน ให้เกลียดชังสถาบันผ่านถ้อยคำสร้างความเกลียดชัง หรือ Hate Speech ผ่านโซเชียลมีเดีย

นอกจากนี้ นายถาวร ยังชี้แจงและยืนยันว่า สถาบันไม่เคยสั่งการใด ๆ ที่ไม่มีกฎเกณฑ์ หรือดำเนินการนอกเหนือรัฐธรรมนูญ ซึ่งสิ่งที่นายปิยบุตร กล่าวหานั้นเป็นการบิดเบือน ไม่ใช่ข้อเท็จจริง จึงขอเรียกร้องไปยังนักการเมือง และพรรคการเมืองที่ต้องการปฏิรูปสถาบันให้ประกาศตัวยอมรับต่อสาธารณะชนให้ชัดเจน

นายถาวร ยังเชื่อด้วยว่า การชุมนุมของกลุ่มที่เรียกตัวเองว่าคณะราษฎร ในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ เป็นการตอบโต้การบังคับใช้กฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่จะมีการล้อมสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ โดยแบ่งกำลังออกเป็น 4 กลุ่ม 4 ด้าน พร้อมคาดว่า ผู้ชุมนุม เตรียมการยกระดับไปสู่ความรุนแรง ด้วยการเตรียมการ์ดรบพิเศษ ที่เปลี่ยนจากการ์ดอาชีวะ เพื่อนำเหตุการณ์ไปสู่ความรุนแรง ตามยุทธศาสตร์สงครามประชาชน จึงเรียกร้องตำรวจ ดีเอสไอ ฝ่ายความมั่นคง และฝ่ายปกครอง ดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด รวมถึงแสดงความกังวล ต่อการชุมนุมดังกล่าว จึงฝากถึงกลุ่มผู้ชุมนุม ขอให้ปฏิบัติตามกฎหมาย เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าว เป็นเขตพระราชทาน ห้ามเข้าใกล้ในระยะ 150 เมตร พร้อมฝากไปยังการ์ดผู้ชุมนุมให้ดูแลการชุมนุมโดยยึดหลักสงบ สันติอาหิงสา ปราศจากอาวุธ ไม่ยั่วยุ เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง

นายถาวร ยังเห็นว่า การสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ที่มีการใช้แก๊สน้ำตาในครั้งนี้มีความละมุนละม่อม เมื่อเทียบกับการชุมนุมที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเสื้อเหลือง เสื้อแดง หรือ กปปส. จึงขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่และใช้ความอดทน

นายถาวร ยังประกาศด้วยว่า ในฐานะที่เป็นพสกนิกร และเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ จะขอทำหน้าที่พิทักษ์รักษาไว้ ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเชื่อว่าคนไทยกว่าร้อยละ 90 ก็คิดเหมือนกับตนเอง และมีเพียงคนส่วนน้อย และผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังม็อบเท่านั้นที่คิดแตกต่าง