คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานสถาบันสร้างไทย สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีการประชุมสภาสมัยสามัญเพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญทั้ง 7 ฉบับในวันที่ 17 และ 18 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าสมาชิกวุฒิสภา หรือส.ว.จะโหวตไม่รับร่าง เนื่องจากเกรงว่าจะขัดรัฐธรรมนูญ ว่าในสภาวะเงื่อนไขทางการเมืองจึงเป็นความความเห็นในส่วนตัว มองว่ารัฐบาลโดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี ที่เป็นศูนย์กลางของความขัดแย้งและสามารถคลี่คลายความขัดแย้งได้ ซึ่งสิ่งที่ง่ายที่สุดที่จะทำให้ความเห็นต่างทางการเมืองคลี่คลายคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งรัฐบาลเเสดงความไม่จริงใจมาหลายครั้งทั้งการตั้งคณะกรรมาธิการเพื่อศึกษาร่างเมื่อเดือนกันยายน ขยายเวลาออกไปอีก 1 เดือน และการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความยังเป็นการสร้างความระแวงเพิ่มขึ้น และวันที่ 17 นี้ถือเป็นโอกาสครั้งสุดท้ายที่จะวัดความจริงใจของนายกรัฐมนตรี ซึ่งตนมองว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีเพียงผู้เดียว แม้นายกรัฐมนตรีจะอ้างว่าขึ้นอยู่กับสภา และหากนายกรัฐมนตรีแถลงข่าวถึงความจริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็เชื่อว่าส.ส.พรรคพลังประชารัฐที่เข้าชื่อร่วมส.ว.ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความจะถอนรายชื่อออกทั้งหมด และส.ว.จะให้ผ่านร่างรัฐธรรมนูญ

ส่วนกรณี ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยคุณสมบัติ นายกรัฐมนตรีกรณีพักอาศัยในบ้านพักทหาร ร1.รอ. วันที่ 2 ธันวาคมนี้ ในฐานะที่ เป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับศาลฯ เพราะคดีนี้เป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ จะต้องมีการพิจารณาถึงความเสี่ยง เพราะจะสามารถเพิ่มความขัดแย้งหรือลดการขัดแย้งได้ ส่วนหากต้องเลือกนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ก็ควรเลือกในรัฐสภาอย่าเพิ่มปัญหาความขัดแย้ง และไม่ควรนำคนนอกมารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ส่วนกรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่าการลงพื้นที่รับฟังปัญหาในครั้งนี้เป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อลงสมัครผู้ง่ากทม.นั้น คุณหญิงสุดารัตน์ไม่ได้ปฏิเสธแต่ตอบสั้นๆว่า”ลงพื้นที่ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัดอยู่แล้ว”