โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยัน นักการทูตจากเอสโตเนีย ตรวจเชื้อโควิด-19 สองรอบ ยืนยันไร้เชื้อ พร้อมส่งตัวไปอยู่ในโรงแรมที่รัฐจัดให้ คาดบ่ายวันนี้กระทรวงการต่างประเทศ จัดประชุมหารือเพื่อสร้างความเข้าใจกับทูตประจำไทยทุกประเทศ

นายเชิดเกียรติ อัตถากร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจง กรณีที่นักการทูตเอสโตเนีย ประจำประเทศไทย เข้าพักคอนโดส่วนตัว ย่านสุขุมวิท แต่ทางนิติฯ ไม่อนุญาตให้เข้าพัก จนทางสถานทูตต้องประสานงาน นำส่งสถานที่รัฐจัดให้ โดยยืนยันว่า นักการทูตเอสโตเนีย ที่เดินทางกลับมายังไทย วันที่ 16 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนขึ้นเครื่อง ทูตท่านนี้ได้มีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซึ่งเป็นผลลบ และเมื่อเดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เจ้าหน้าที่ต้นสังกัดได้เดินทางมารับ และได้ทำตามมาตรการของสาธารณสุขของไทย โดยการตรวจหาเชื้อโควิด-19 อีกครั้ง ซึ่งผลออกมาเป็นลบ ส่วนตัวยืนยันว่า ทูตคนนี้ไม่มีเชื้อโควิด-19

ทั้งนี้ ตลอดการเดินทาง ทูตคนนี้ทำตามข้อบังคับของ ศบค.
และต้องไปยังที่พักซึ่งเป็นที่กำหนดกักตัว 14 วัน ทุกมาตรการเรามีความรัดกุม และเมื่อไปถึงที่พักนิติบุคคลไม่อนุญาตให้นักการทูตเข้าพัก จึงได้ประสานงานไปยังกระทรวงการต่างประเทศ ได้ข้อยุติว่านักการทูตต้องเดินทางไปพักที่โรงแรมสถานที่ที่รัฐกำหนด หรือ ASQ คือ โรงแรมแกรนด์ เซ็นเตอร์พอยต์ เทอร์มินอล 21 สุขุมวิท ทั้งนี้ จะอยู่ภายใต้หลักการการดูแลของกระทรวงสาธารณสุข

นายเชิดเกียรติ ยังอยากให้ประชาชนมั่นใจ เมื่อนักการทูตต้องเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในประเทศไทย ว่า นักการทูตจะต้องเข้ามาภายใต้กรอบกฎระเบียบที่ไทยวางไว้ ส่วนตัวอยากชี้แจงว่า ทูตทุกคนจะได้รับการคุ้มครอง ตามอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางทูต เมื่อเขาประจำหน้าที่ในประเทศได้ อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ทูตจะต้องเคารพและปฏิบัติตามระเบียบและกฎหมายในแต่ละประเทศที่ตนไปประจำด้วย จึงชี้ชัดว่า นักการทูตจะต้องทำตามระเบียบของ ศบค. และทาง ศบค. จะทบทวนมาตรการดังกล่าวให้เข้มข้นกว่าเดิม อีกครั้งในช่วงนี้ในช่วงการเปลี่ยนผ่านซึ่งทำให้ข้อระเบียบยังเป็นแบบเดิมอยู่

ทั้งนี้ ในช่วงบ่าย กระทรวงการต่างประเทศ จะมีการประชุมหารือ และทำความเข้าใจกับนักการทูตทุกประเทศ ถึงมาตรการการกักตัว 14 วัน เมื่อเดินทางเข้ามาพำนักในประเทศไทย