คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ มีมติออกมาตรการพักชำระหนี้ลูกหนี้กองทุนผู้สูงอายุ 1 ปี ตั้งแต่ 1 เม.ย. 2563 - 31 มี.ค. 2564

(10 เม.ย. 2563) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ที่มีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุม ที่ประชุมมีความห่วงใยผู้สูงอายุซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งรายได้จากการประกอบอาชีพลดลง และลูกหลานอาจไม่สามารถช่วยเหลือทางการเงินได้เท่าเดิม จึงมีมติออกมาตรการพักชำระหนี้ลูกหนี้กองทุนผู้สูงอายุที่กู้ยืมเงินทุนประกอบอาชีพจากกองทุนผู้สูงอายุทุกคน ซึงมีประมาณ 4.1 หมื่นราย โดยระยะเวลาพักชำระหนี้ 1 ปี เริ่มตั้งแต่ 1 เม.ย. 2563 - 31 มี.ค.2564

สำหรับการขอพักชำระหนี้กองทุนผู้สูงอายุ มีวิธีการดังนี้
1.ให้ผู้กู้แสดงเจตจำนงในการขอพักหนี้ โดยติดต่อกองทุนผู้สูงอายุ หรือสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ทุกจังหวัด
หรือ 2.ส่งจดหมายขอผ่อนผันการชำระหนี้ตามแบบฟอร์มที่กำหนด โดยให้ผู้ค้ำประกัน และพยาน 2 คนลงนาม
แนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนพร้อมรับรองสำเนา และส่งกลับมายังสำนักงานพัฒนาสังคมฯ จังหวัด หรือกองทุนผู้สูงอายุ

ในส่วนของเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 4.84 ล้านคน (ไม่ใช่เบี้ยผู้สูงอายุแต่เป็นเงินสงเคราะห์ที่จ่ายเพิ่มเติมจากเบี้ยผู้สูงอายุ) ซึ่งปัจจุบันมีงบประมาณไม่เพียงพอ ที่ประชุมได้ติดตามการแก้ไขปัญหาดังกล่าว และทราบว่ากรมกิจการผู้สูงอายุได้ประสานสำนักงบประมาณเพื่อขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีจัดสรรงบกลาง ประจำปี 2563 จำนวน 689 ล้านบาทแล้ว เพื่อจัดสรรให้ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนโครงการเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ระหว่างเดือน เม.ย-ก.ย. 2563