"ลูกตาล ชโลมจิต" ยันไม่ได้หนีหนี้ ไม่ได้ทำร้ายร่างกายใคร หลังเจอเจ้าหนี้โหดทวงเงิน 1,400,000 บาท เผยผ่อนส่งตลอดนับปี ตอนนี้แจ้งความผิด พ.ร.บ.ทวงหนี้

กล้องวงจรปิดของยิมฟิตเนสแห่งหนึ่ง ย่านอาร์ซี บันทึกภาพ เจ้าของร้านเพชรใส่ชุดสีขสว บุกไปทวงหนี้ “ลูกตาล” ชโลมจิต จันทร์เกตุ นางแบบคนดัง 1 ล้าน 4 แสนบาท

จากนั้น มีคลิปภาพปรากฏว่าทั้งคู่ถกเถียงกันอย่างรุนแรง ก่อนที่ฝ่ายลูกตาลจะเดินหนี ทำให้คนที่อ้างเป็นเจ้าหนี้เข้าแจ้งความตำรวจนครบาลมักกะสัน ระบุว่า เงินจำนวนดังกล่าว อ้างว่า มีการหยิบยืมกันเมื่อปี 2561 บอกว่า จะลงทุนทำธุรกิจฟิตเนส แต่ผ่านมา 2 ปี ฝ่ายลูกตาลก็ยังไม่คืนเงิน และบล็อกทุกช่องทางการติดต่อ

ล่าสุด ทางฝ่ายลูกตาล พร้อมทนายเปิดใจถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า นำเครื่องเพชรที่เคยซื้อจากร้านของคู่กรณี ไปขายกับคู่กรณี เพื่อหาเงินมาขยายกิจการยิมราคาประมาณ 1 ล้าน 6 แสนบาท แต่คู่กรณีบอกว่า ไม่รับซื้อคืนแล้ว เพราะเป็นเพชรเก่า และเสนอให้ตนขายฝาก

โดยมีสัญญาเงินกู้ จึงนำเครื่องเพชรดังกล่าวเป็นหลักประกัน แต่คู่กรณีบอกว่า ตอนนี้ราคาตก ต้องมีหลักประกันเพิ่ม จึงใช้รถจักรยานยนต์ราคากว่า 600,000 บาท ไปค้ำประกันเพิ่ม ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา มีการผ่อนส่งตลอดทุกเดือนๆ ละ 70,000 บาท รวม 845,000 บาท

ซึ่งพอสัญญาหมดลง ก็ไปถามยอดหนี้ที่เหลือ แต่คู่กรณีบอกว่า ยอดเท่าเดิม ส่วนที่จ่ายให้ก่อนหน้านี้ เป็นดอกเบี้ยทั้งหมด และยังถูกยึดเครื่องเพชร พร้อมรถรวมมูลค่าราว 3 ล้านบาท แต่ก็ยังมีการทวงหนี้อยู่เรื่อยๆ ซึ่งเคยขอเคลียร์ที่เงินต้นแล้วว่า ในเมื่อได้ของไปแล้ว หักเหลือเท่าไหร่จะจ่ายคืน แต่ก็ไม่ยอม

ด้านทนาย เปิดเผยหลักฐานหนังสือเงินกู้ 3 ฉบับว่า มีการระบุโอนเงินคืนใช้หนี้แล้ว แต่ต้นยังเท่าเดิม ซึ่งเดินทางไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.หัวหมาก เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 62 หลังจากนั้นคุยกันไม่รู้เรื่อง จึงให้ระงับการจ่ายหนี้ เพราะสรุปยอดเงินยังไม่จบ และให้ไปฟ้องศาล แล้วจะจ่ายตามที่ศาลสั่ง

แต่ตั้งข้อสังเกตว่า เจ้าหนี้กลับไม่ไปฟ้องศาล ขณะนี้ ลูกตาลแจ้งความคู่กรณี ข้อหาหมิ่นประมาททางโฆษณา // ทวงหนี้ประจานผิด พรบ.ทวงหนี้ไว้แล้ว พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้หนีหนี้ ไม่ได้ทำร้ายร่างกายใคร และเป็นผู้ถูกกระทำ

"ลูกตาล ชโลมจิต" แจงหลังเจอเจ้าหนี้โหดทวงเงินล้าน