อดีตภรรยารับศพ พล.ต.ต. อดีตรองเจรตำรวจ เชื่อก่อเหตุกราดยิงในศาลเพราะเครียด อ้างไม่ได้รับความเป็นธรรม
นางสาวเขมจิรา บัณฑูรนิพิท เข้ารับศพ พล.ต.ต.ธารินทร์ จันทราทิพย์ อดีตสามี ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ
อดีตภรรยา เชื่อว่า สาเหตุที่อดีตสามีลงมือ น่าจะเกิดจากความกดดัน เคยอ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เกี่ยวกับที่ดินมรดก 3,800 ไร่ ในจังหวัดจันทบุรี มูลค่ากว่า 300 ล้าน และต่อสู้มานานกว่า 8 ปี
โดยที่ดินดังกล่าวเดิมเป็นของคุณตาของตน ที่ตั้งใจให้วัด มีการซื้อขายกัน แต่ขาดการผ่อนชำระ ทำให้ที่ดินกลับมาเป็นของตระกูลอีกครั้ง จนมีการฟ้องร้องกัน
แต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พยานฝ่ายมูลนิธิวัดเปลี่ยนไปให้การเป็นประโยชน์กับอีกฝ่าย ซึ่งตนมองว่าไม่ชอบมาพากล ที่ผ่านมาเวลาขึ้นศาลมีการโต้เถียงกันบ่อยครั้ง เคยส่งนิ้วกลางให้กัน มีการท้าตบกับทนายหญิงฝ่ายจำเลยหน้าศาล นอกจากนี้ ทราบว่าฝ่ายโจทก์ขู่ไปร้องเรียนจะถอดยศ ที่เอาเวลาราชการมาทำคดี จึงเครียดสะสม
ยืนยัน ปกติสามีไม่เป็นคนไม่พกอาวุธติดตัว เป็นคนใจดี และตนเป็นคนไปขอร้องให้อดีตสามียื่นมือเข้ามาช่วย อยากขอโทษที่ดึงเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีนี้ และหวังว่าอดีตสามีจะไม่ตายฟรี
ขณะที่นายสาคร สุขรมย์ พ่อของนายวิจัย สุขรมย์ ทนายฝ่ายโจทย์ พร้อมญาติเดินทางมารับศพเช่นกัน พร้อมเปิดใจว่า เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ลูกชายเป็นเสาหลักของครอบครัวต้องมาจบชีวิตด้วยอาชีพที่ตัวเองรัก และตั้งใจทำงานมาตลอด 25 ปี ช่วงเช้าก่อนเกิดเรื่องลูกชายโทรมาหา แต่ตนเองไม่ได้รับสาย
ที่ผ่านมาก็รู้ว่าลูกกำลังทำคดีนี้ และเครียดมาก อยากให้คดีนี้เป็นเรื่องสุดท้ายที่เกิดขึ้นในศาล ที่มีการพกอาวุธเข้ามาห้ำหั่นกัน ส่วนตัวยังไม่ได้คุยกับครอบครัวคนยิง หากจะมาขอโทษก็ยินดีรับ แต่ขอโทษก็คงไม่ทำให้ลูกชายฟื้นกลับมาได้ จากนี้ไม่ขอจองเวรจองกรรมต่อกันอีก หลังจากนี้จะนำศพไปทำพิธี ที่วัดป่ามัชฉิมวงศ์รัตนาราม จ.อุดรธานี
สำหรับศพ นายบัญชา ปรมีคณาภรณ์ ยังไม่มีญาติมาติดต่อ เพื่อขอรับศพไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนา
ส่วนบรรยากาศที่โรงพยาบาลพระปกเกล้า จ.จันทบุรี นายแพทย์เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล เปิดเผยอาการของผู้บาดเจ็บ อีก 2 ราย คือ นายวิชัย อุดมธนภัทรทนายความถูกยิงที่นิ้วก้อยมือขวา อาการปลอดภัยแล้ว
ส่วนนางสุภาพร ปรมีศณาภรณ์ ภรรยาของนายบัญชา ถูกยิงเข้าที่บริเวณท้องและขาหนีบข้างซ้าย อาการเริ่มดีขึ้นตามลำดับ แต่แพทย์ยังขอดูอาการที่โรงพยาบาลอย่างใกล้ชิดอีก 2 สัปดาห์