ตำรวจนครบาลร่วมกันแถลงผลจับกุมผู้ต้องก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ปาดหน้าทำทีขอตรวจบัตรประชาชนชาวบ้านก่อนชิงทรัพย์ ตรวจประวัติพบเพิ่งพ้นโทษออกมาแค่ 6 เดือน ก่อนก่อเหตุซ้ำซาก

พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พล.ต.ต.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 แถลงผลการจับกุมตัวนายปรินทร์ สาลี อายุ 26 ปี และนายกิตติภณ เอมอ่อง อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาคดีร่วมกันชิงทรัพย์หรือร่วมกันรับของโจร พร้อมของกลางเป็นรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 ไอ สีดำแดง ทะเบียนรถสาธารณะ (ป้ายเหลือง) 1กญ 1351 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน และพระเครื่อง จำนวน 1 องค์ โดยจับกุมได้ที่บริเวณริมถนนมิตรไมตรี แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร

โดย พล.ต.ต.คัชชา ระบุว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้ มีผู้เสียหายถูกชิงทรัพย์ขณะที่ขับรถบนถนนประชาสงเคราะห์ 33 แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง ซึ่งมีคนร้ายเป็นชายจำนวน 2 คน ขี่รถจักยานยนต์ตีคู่ก่อนขี่รถปาดหน้า และสั่งให้ผู้เสียหายจอดรถ ทำทีเสมือนเป็นเจ้าหน้าที่รัฐขอตรวจบัตรประชาชนและขอตรวจสอบโทรศัพท์มือถือแต่ ผู้เสียหายไม่มี คนร้ายจึงข่มขู่ว่าให้นำทรัพย์สินออกมา ไม่งั้นจะทำร้ายร่างกาย ก่อนจะกระชากพระเครื่องของผู้เสียหายไป พร้อมใช้มือตบปากผู้เสียหายไป 1 ครั้ง จากนั้นคนร้ายทั้ง 2 จะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป

ซึ่งหลังจากเกิดเหตุประมาณ 2 ชั่วโมงเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ดินแดง ได้ออกติดตามสืบสวนจนกระทั่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 ไว้ได้

จากสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้ให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุได้ร่วมกันเสพยาทรามาดอล (เม็ดเขียว-เหลือง) เข้าไป จึงทำรู้สึกคึกคะนอง ชักชวนกันขับขี่รถจักรยานยนต์ไปตามท้องถนน กระทั่งพบผู้เสียหายจึงลงมือก่อเหตุ โดยตั้งใจจะชิงทรัพย์ด้วยการออกอุบายขอตรวจบัตรประชาชน หากเหยื่อหลงเชื่อจะนำบัตรประชาชนไปซื้อโทรศัพท์มือถือแบบเงินผ่อนจ่าย ก่อนจะนำโทรศัพท์ไปขายอีกต่อหนึ่ง ซึ่งเคยก่อเหตุในลักษณะนี้หลายครั้งแล้ว

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบประวัติ พบว่า นายปรินทร์ เคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดในพื้นที่ สน.ดินแดง 4 ครั้ง ส่วนนายกิตติภณ เคยต้องคดีวิ่งราวทรัพย์ และเสพยาเสพติด โดยทั้ง 2 คน เพิ่งพ้นโทษจำคุกออกมาได้เพียง 6 เดือนเท่านั้น ก่อนมาก่อเหตุซ้ำ