ชาวบ้านเข้าใจผิดว่า มีเสียงระเบิดดังขึ้นในบ้านของร่างทรง จึงแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ กลับพบศพหญิงอายุ 54 ปี ถูกร่างทรงชาย อายุ 50 ปี ใช้ปืนยิงกรอกปากเสียชีวิต ขณะมาทำพิธีอาบน้ำมนต์ ตำรวจจึงคุมตัวไปสอบสวน หวิดถูกญาติรุมประชาทัณฑ์

ญาติผู้ตายจะเข้าทำร้ายนายวิโรจน์ สำราญเกศ อายุ 50 ปี ร่างทรง ขณะตำรวจ สน.คันนายาว คุมตัวไปสอบปากคำ หลังก่อเหตุ ใช้อาวุธปืนยิงกรอกปากนางสา มานิต คงวิเศษ อายุ 54 ปี เสียชีวิตในบ้านพัก ขณะมาทำพิธีอาบน้ำมนต์ เพื่อสะเดาะเคราะห์กับเพื่อน โดยญาติบางส่วน ได้ยืนร่ำไห้ อยู่ท้ายรถมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และพยายามเรียกผู้ตายให้กลับบ้าน เป็นที่สะเทือนใจให้กับชาวบ้านอย่างมาก

สำหรับเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อช่วง 2 ทุ่มครึ่ง ของวันที่ 29 สิงหาคม โดยตำรวจได้รับแจ้งเหตุ มีเสียงดังคล้ายระเบิดดังขึ้น ในบ้านหลังหนึ่งในเขตบางเขน กรุงเทพมหานคร จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ พบศพ นางสาวมานิต คงวิเศษ อายุ 54 ปี นอนหงายเสียชีวิตใต้ถุนบ้าน ใกล้โต๊ะหินอ่อน มีบาดแผลฉกรรจ์ บริเวณปากตั้งแต่จมูกลงมาถึงคาง เลือดนองเต็มพื้น แต่จากการตรวจสอบไม่พบสะเก็ดระเบิด หรือส่วนประกอบของวัตถุระเบิดแต่อย่างใด

สอบถามเพื่อนผู้ตาย เล่าว่า ช่วงหัวค่ำ ตนเองและผู้ตาย ได้ชักชวนกันมาอาบน้ำมนต์ เพื่อสะเดาะเคราะห์ ที่บ้านหลังดังกล่าว มีผู้ก่อเหตุ) เป็นร่างทรงทำพิธี ซึ่งตนเอง เพิ่งเคยมาเป็นครั้งแรก แต่ผู้ตาย รู้จักกับผู้ก่อเหตุมาก่อน เพราะมาทำพิธีแล้วหลายครั้ง

ขณะที่ตนเอง เดินไปเปลี่ยนผ้า เพื่อมาอาบน้ำมนต์ ผู้ตายได้นั่งรออยู่ที่แคร่ใต้ถุนบ้าน ก็ได้ยินเสียงทะเลาะกัน แล้วมีเสียงดังคล้ายระเบิด 1 ครั้ง ตนเองจึงวิ่งออกมาดู เห็นเพื่อนหายใจรวยริน มีเลือดออกบริเวณใบหน้าจำนวนมาก และเสียชีวิตในที่สุด จากนั้น ตำรวจจึงคุมตัวนายวิโรจน์ ที่อยู่ในสภาพเสื้อเปื้อนเลือด และเพื่อนผู้ตาย ไปสอบสวนที่สน.คันนายาว

ล่าสุด พลตำรวจตรี เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 เปิดเผยว่า จากการเค้นสอบสอบปากคำผู้ต้องหากว่า 2 ชั่วโมง สารภาพว่า ใช้ปืนลูกซองสั้น แบบไทยประดิษฐ์ ยิงกรอกปากผู้ตายเสียชีวิต แล้วนำปืนไป โยนทิ้งลงในคลองหนองจรเข้บัว เหตุเพราะมีปากเสียงทะเลาะกับผู้ตาย จนเกิดบันดาลโทสะ ส่วนสาเหตุทะเลาะกัน อยู่ระหว่างสอบสวนอย่างละเอียด และเหตุที่เกดขึ้นไม่ใช่เหตุระเบิดอย่างที่ชาวบ้านเข้าใจผิด