สนช.นัดประชุมวันที่ 14 ธันวาคมนี้ เพื่อพิจารณาตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และจริยธรรมของว่าที่กกต.ทั้ง 7 คนที่ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการสรรหาฯ และที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา

สนช.นัดประชุมพิจารณาบุคคลเป็น กกต.14 ธ.ค.นี้

นายแพทย์เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ วิปสนช. เปิดเผยว่า สนช.จะนำรายชื่อว่าที่กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทั้ง 7 คน ตามที่คณะกรรมการสรรหากกต.คัดเลือก 5 คน และจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาคัดเลือกอีก 2 คนนั้น เข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ในวันพฤหัสบดีที่ 14 ธันวาคมนี้เพื่อขอมติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับ
การเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกกต. เพื่อสอบประวัติความประพฤติของว่าที่กกต.ทั้ง 7 คน

โดยจะต้องจัดทำรายงานผลการตรวจสอบเสนอเข้าสู่ที่ประชุมภายในไม่เกิน 45 วันนับตั้งแต่ที่ประชุมมีมติแต่งตั้งเพื่อให้สมาชิกสนช.พิจารณาและลงมติรับรองหรือไม่รับรองว่าที่กกต.ทั้ง 7 คนต่อไป และหากว่าที่กกต.คนใด ไม่ผ่านรับรองจากสนช.เรื่องก็จะกลับไปที่คณะ
กรรมการสรรหากกต.หรือที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา เพื่อเริ่มต้นกระบวนการรับสมัครใหม่ให้ครบตามจำนวน 7 คน โดยบุคคลที่ไม่ผ่านการรับรองจากที่ประชุมสนช.จะหมดสิทธิเข้าสมัครรับการสรรหาอีก

เตรียมดึง 12 คนดังทำโฟกัสกรุ๊ปแผนปฏิรูปประเทศด้านการเมือง 13 ธ.ค.

ส่วนความคืบหน้าด้านการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง / นายวันชัย สอนศิริ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านการเมืองในฐานะประธานอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็น เปิดเผยว่า ในวันที่ 13 ธันวาคมนี้ เวลา 9.00 – 12.30 น. ที่ห้องประชุมสภาพัฒนาการเมือง ฝั่งสถาบันพระปกเกล้า ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ จะมีการรับฟังความคิดเห็นเพื่อเก็บรับข้อเสนอนำไปประกอบการจัดทำแผนปฏิรูปประเทศด้านการเมืองโดยเชิญผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นกลุ่มเชี่ยวชาญเฉพาะหรือโฟกัส กรุ๊ป ( focus group ) 12 คน จากภาคส่วนต่างๆ

เช่น นักการเมือง /กกต. / นักวิชาการ / นักสันติวิธี /องค์กรปกครองท้องถิ่น และสื่อมวลชน อาทิ พลเอก เอกชัย ศรีวิลาศ / นายสมชัย ศรีสุทธิยากร / พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส / นายไพบูลย์ นิติตะวัน / นายสุริยะใส กตะศิลา / นายสุภาพ คลี่ขจาย และนายบรรจง นะแส

สำหรับ 5 ประเด็นหลักที่จะอยากจะรับฟังความเห็น คือ 1. การเลือกตั้งสุจริตและเที่ยงธรรม 2. การสร้างรัฐธรรมาธิปไตย 3. การสร้างความปรองดอง 4.การสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองและ 5.การปกครองส่วนท้องถิ่น