"นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ทำโพลสอบถามความเห็นประชาชนผ่านไลน์ กรณี "น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ไม่มาฟังคำตัดสินคดีรับจำนำข้าว ปิดรับคำตอบช่วงเย็นวันนี้ (27 ส.ค.) ด้านรัฐบาล ยืนยันกรณี "น.ส.ยิ่งลักษณ์" หลบหนีคดีไม่กระทบต่อการยึดทรัพย์ และการทำงานของรัฐบาล

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลบหนีคดี ไม่เดินทางมาฟังคำพิพากษาของศาลในคดีโครงการรับจำนำข้าวว่า ตนไม่ทราบว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ หนีไปต่างประเทศหรือไม่ และไม่ทราบว่าในวันที่ 27 ก.ย.นี้ ที่ศาลนัดมาฟังคำพิพากษาอีกครั้ง นน.ส.ยิ่งลักษณ์ จะมาหรือไม่ แต่การที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ หลบหนีคดีจะไม่ส่งผลอะไรต่อรัฐบาล เพราะไม่มีอะไรเกี่ยวกับรัฐบาล และรัฐบาลไม่ได้เป็นโจทก์ ส่วนตัวก็ไม่ได้รู้สึกว่า จะมีอะไรเกิดขึ้นด้วย

ขณะนี้ตนไม่อยากตอบอะไรเพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นการชี้นำ แต่ต้องไปดูว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ป่วยจริงหรือไม่ มีใบรับรองแพทย์หรือไม่ ไปต่างประเทศหรือไม่ ไปเมื่อไร ไปอย่างไร จากนั้นค่อยมาดูว่าผิดจริงหรือไม่ ดังนั้นจึงต้องรอข้อเท็จจริงให้นิ่งก่อน จึงจะบอกชี้ชัดได้ หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ หนีคดีจริง ถือเป็นหน้าที่ของตำรวจที่ต้องดำเนินการตามหมายจับ

ด้านนายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการสืบทรัพย์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพื่อมาชดใช้ค่าเสียหายในคดีจำนำข้าวกว่า 3 หมื่น 5 พันล้านบาทว่า ขณะนี้ได้ทำหนังสือไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ส่งข้อมูลมาเพื่อดำเนินการติดตามทรัพย์แล้วโดยล่าสุด ยังไม่มีการสืบทรัพย์เพิ่ม

ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ที่อยู่อาศัย และคอนโดมีเนียมต่างๆ ที่ได้สืบทรัพย์มาก่อนหน้านี้ โดยกระทรวงการคลังได้ประสานกับกรมบังคับคดี เพื่อหาแหล่งที่ตั้งของที่อยู่อาศัยที่จะดำเนินการยึดอายัดทรัพย์ที่ชัดเจนว่าอยู่ที่ใด จากนั้นจะส่งต่อให้กรมบังคับคดีดำเนินการยึดทรัพย์ต่อไป ซึ่งการหลบหนีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่กระทบต่อการดำเนินการตามขั้นตอนของการยึดอายัดทรัพย์สินตามกฎหมายอต่อย่างใด

ขณะที่นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) คนที่ 2 กล่าวว่า กรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่เดินทางมาฟังคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะไม่ส่งผลกระทบต่อการสร้างความปรองดอง เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของคดีและเป็นเรื่องเฉพาะตัวบุคคล

หลังจากนี้ต้องรอดูผลกระทบว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งขณะนี้ยังไม่ชัดเจนเพราะยังไม่รู้ว่าศาลจะมีคำพิพากษาออกมาอย่างไร ส่วนที่หลายฝ่ายออกมาเคลื่อนไหว ก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีที่มีคนรัก คนชอบจำนวนมาก แต่สุดท้ายทุกอย่างก็ต้องเดินไปตามกฎหมาย และเชื่อว่าสถานการณ์จะปกติไม่มีเหตุรุนแรง

ส่วนนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงถึงสิทธิในการอุทธรณ์คดีจำนำข้าวของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ว่า ถ้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะอุทธรณ์ตามสิทธิของรัฐธรรมนูญ ก็ต้องดำเนินการภายใน 30 วัน แม้ว่า ขณะนี้กฎหมายลูกว่าด้วยการพิจารณาคดีอาญานักการเมือง จะยังไม่มีผลบังคับใช้ก็ตาม แต่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาระบุไว้ว่า จำเลยต้องมาแสดงตน หากต้องการอุทธรณ์ เพราะถ้าไม่เดินทางมาก็ไม่สามารถอุทธรณ์ได้

แต่ถือว่า ขณะนี้ศาลยังไม่มีคำตัดสินใดๆ กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ดังนั้น ขณะนี้อย่าเพิ่งพูดเรื่องอุทธรณ์หรือไม่อุทธรณ์ เพราะวันตัดสิน ศาลอาจจะยกฟ้องก็ได้ และขณะนี้ก็ยังไม่มีการนับอายุความ เพราะการเริ่มนับอายุความอาจจะเริ่มหลังจากวันที่ 27 ก.ย.60 ที่จะมาการตัดสินคดี ซึ่งแม้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะหลบหนีคดี แต่จะไม่ส่งผลต่อการยึดทรัพย์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในคดีแพ่งแต่อย่างใด

ขณะเดียวกัน วานนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้จัดทำแบบสอบถามเพื่อสำรวจความคิดเห็นประชาชน ผ่านแอพลิเคชั่นไลน์ เรื่อง “ความรู้สึกของคุณเมื่อทราบว่าคุณยิ่งลักษณ์ไม่ปรากฏตัวเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม” โดยเตรียมคำตอบให้เลือก 4 ข้อ ได้แก่ 1.ไม่แปลกใจ คิดว่าต้องเป็นอย่างนี้อยู่แล้ว 2.คาใจ ปล่อยให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร 3.โล่งใจ เป็นทางออกสำหรับทุกฝ่าย ไม่ต้องขัดแย้ง และ 4.ไม่พอใจ ตอกย้ำปัญหาการบังคับใช้กฎหมายของไทย ทั้งนี้ จะปิดรับคำตอบในวันที่ 27 สิงหาคมนี้ เวลา 18.00 น.

ด้านนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวในหัวข้อ "ใครพาคุณยิ่งลักษณ์หนี?" มีเนื้อหาว่า ตนไม่รู้ว่าใครพา น.ส.ยิ่งลักษณ์ หนี แต่ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ของกรมการศาสนาไม่ได้พาหนีแน่นอน ส่วนจะเป็นเจ้าหน้าที่กรมไหน กองไหน ผมไม่รู้ พร้อมกับทิ้งคำถามให้คิดต่อว่า ทำไมประเทศเพื่อนบ้านจึงยอมให้เข้าประเทศและยอมให้ใช้สนามบินทั้งที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นจำเลยคนสำคัญของไทย

นายนิพิฏฐ์ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่สามารถเดินเท้าไปขึ้นเครื่องบิน หรือใช้พื้นที่สนามบินของประเทศเพื่อนบ้านได้ โดยที่ผู้นำของประเทศนั้นๆ ไม่ทราบเรื่อง หรือไม่ยินยอม หากเพื่อนบ้านรู้ แต่รัฐบาลไทยไม่รู้แสดงว่า เพื่อนบ้านไม่ได้ให้เกียรติประเทศไทย เพราะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีสถานะตกเป็นจำเลยในคดีสำคัญของไทย และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้ติดต่อ หรือใช้สิทธิ์ขอเป็นผู้ลี้ภัยของประเทศนั้นๆ ตามหลักการทูต

วานนี้ (26 ส.ค.) ที่ตำหนักสัมฤทธิ์วิทยากร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ได้เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบรอบ อายุ 97 ปี ซึ่งตรงกับวันที่ 26 สิงหาคม พร้อมถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ จำนวน 9 รูป โดยการทำบุญในวันนี้เป็นการทำบุญส่วนตัวที่มีเฉพาะญาติ ของ พลเอก เปรม และบุคคลใกล้ชิดมาร่วมทำบุญเท่านั้น

โดยพลเอก เปรม ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ หลบหนีคดีไม่มาฟังคำตัดสินของศาล โดยบอกกับสื่อมวลชนสั้นๆ ว่า “วันนี้มาทำบุญ ไม่ได้มาให้สัมภาษณ์” เมื่อนักข่าว ถามว่าอยากเห็นบ้านเมืองเป็นอย่างไร พลเอก เปรมกล่าวว่า “อยากเห็นบ้านเมืองเป็นอย่างไรก็ต้องการเหมือนที่ทุกคนอยากเห็น”

 

รัฐบาลชี้ "ยิ่งลักษณ์" หนีคดีไม่กระทบยึดทรัพย์