นายกรัฐมนตรี ระบุรัฐบาลได้น้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช มาเป็นแนวทางแก้ปัญหาชาวนาไทย โดยยืนยันรัฐบาลไม่มีแนวคิดจ้างชาวนาให้เลิกปลูกข้าว เพียงแต่ต้องการทำให้ชาวนามีความเข้มแข้งอย่างยั่งยืน

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการ 'ศาสตร์พระราชาสู่การปฏิบัติอย่างยั่งยืน' ตอนหนึ่งว่า นับแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน เกษตรกรชาวนายังคงประสบปัญหาราคาข้าวตกต่ำบ่อยครั้ง

ส่วนใหญ่เป็นปัญหา อาทิ ปริมาณผลผลิตที่มากเกินความต้องการของตลาด ถูกกดราคาจากพ่อค้าคนกลาง ต้นทุนการผลิตที่สูงมีคุณภาพที่ต่ำ มีภัยพิบัติทางธรรมชาติ และ การปลูกข้าวในพื้นที่ไม่เหมาะสมทำให้ได้ข้าวคุณภาพต่ำ มีความชื้นสูงซึ่งการทำนาเพียงอย่างเดียว และ การรวมกลุ่มเกษตรกรที่ยังไม่เข้มแข็ง ทำให้ขาดอำนาจในการต่อรองกับโรงสีและพ่อค้าคนกลาง ขาดการคิดค้นผลิตนวัตกรรมข้าวในการเพิ่มมูลค่า ส่งผลให้รายได้ชาวนาไม่มั่นคงต้องกู้หนี้ยืมสิน

นายกฯ กล่าวว่า ทุกแนวทางการแก้ปัญหาแก่ชาวนาไทย ทั้งมาตรการเฉพาะหน้าและมาตรการยั่งยืน รัฐบาลได้น้อมนำ 'ศาสตร์พระราชา' อันเป็นหนึ่งในหลักการทรงงานมาเป็นแนวทางแก้ปัญหา คือ การศึกษาอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ 'ต้นทาง' เช่น ที่ดิน แหล่งน้ำ ลมฟ้าอากาศ ปัจจัยการผลิต 'กลางทาง' เช่น แหล่งทุน เครื่องจักรกลการเกษตร โรงสี การแปรรูป และนวัตกรรม 'ปลายทาง' เช่น ตลาดในประเทศ และการส่งออกต่างประเทศ

นายกฯ กล่าวต่อว่า แนวทางหนึ่งในการแก้ปัญหาราคาข้าวตกนั้น ตามที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระราชทานไว้ คือ การรวมกลุ่มกันเป็นกลุ่มผู้บริโภค เพื่อติดต่อกลุ่มผู้ผลิต ทำให้ช่วยตัดปัญหาพ่อค้าคนกลางไปได้บ้าง พร้อมขอขอบคุณโรงสี กับ พ่อค้าคนกลาง ที่ร่วมมือกับรัฐบาลในการช่วยเหลือประชาชนอย่างแท้จริง โดยรัฐบาลยืนยันว่า ไม่ได้มุ่งหวังจะทำลายการผลิตข้าว และ การปลูกข้าว ของเกษตรกร เพียงแต่มุ่งหวังจะทำให้ชาวนามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน 

นายกฯ กล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญ คือ จะต้องทำให้การทำการเกษตรทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นข้าว ยาง มันสำปะหลัง ปาล์ม อ้อย และ ข้าวโพด ปรับระบบการผลิต และการแปรรูปใหม่ ให้ใช้ต้นทุนการผลิตให้น้อยลง ใช้น้ำให้น้อยลง เหมาะสมกับพื้นที่ ผลิตไม่เกินความต้องการของตลาด

นายกฯ กล่าวยืนยันว่า รัฐบาลไม่เคยคิดว่า จะจ้างให้ชาวนาเลิกปลูกข้าว เพราะเป็นไปไม่ได้ เพียงแต่ต้องการทำให้ชาวนาเหนื่อยน้อยลง และมีรายได้มากขึ้น รวมทั้งให้ทุนกับชาวนาในการปลูกพืชชนิดอื่นเสริม แต่ต้องขึ้นอยู่กับความสมัครใจของชาวนาด้วย ขณะที่บรรดานายทุนให้กู้เงิน และโรงสี ควรร่วมมือช่วยกัน เสียสละ เพื่อประเทศชาติ และประชาชน มิเช่นนั้นทุกอย่าง จะกลายเป็นปัญหาการเมืองไปทั้งหมด เพราะตนไม่อยากให้ปัญหาดังกล่าวเป็นช่องทางให้การเมืองเข้ามาแทรกแซง บิดเบือนจนทำให้เกิดปัญหาได้