กรณี เมื่อเวลา 06.00 น. ของ วันที่ 9 พฤษภาคมตำรวจ สภ.แหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี รับแจ้งมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย ภายในซอยลุงเนื่องสุขุมวิทซอย 10 ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ที่เกิดเหตุพบร่าง นายกฤษดา หรือโจ้ อายุ 35 ปี ประกอบอาชีพขายข้าวแกง ได้บาดเจ็บสาหัส ที่บริเวณใบหน้าจนเป็นแผลฉกรรจ์ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนก่อเหตุ ทราบจากพยานในเวลาต่อ คือ นายคำรณ หรือเบียร์ อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนของคนตาย ที่คนตายอนุญาตให้มาอาศัยอยู่ด้วยกันที่บ้าน ฝั่งถูกฆ่านั้น

 

วันนี้ (9 พ.ค.) ทีมข่าวช่องแปดลงพื้นที่ไปยังกลางซอยสุขุมวิท ซอย 10 แหลมฉบัง ที่เกิดเหตุ โดยพบว่าบริเวณกลางซอยกองเลือดของคนตายได้ถูกฝนชะล้างออกไปบางส่วนแล้ว แต่ยังมีติดกระเซ็นอยู่บริเวณข้างรั้ว และยังพบกระถางต้นไม้แตกเสียหาย ซึ่งเป็นวัตถุพยานที่ตัวของนายคำรณใช้ก่อเหตุ ตีศีรษะนายกฤษดา และยังพบเศษขวดแก้วแตกอยู่ในพื้นที่ เนื่องจากมีการตีขวดแตกเป็นลักษณะปากฉลามก่อนที่จะแทงและกรีดคอคนตาย

 

ในช่วงเวลาเกิดเหตุมีกล้องวงจรปิดจับภาพลำดับเหตุการณ์เหตุการณ์ โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดกลางซอย ในเช้าวันนี้ 9 พ.ค. เวลาประมาณ 04.39 น. ภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพ เห็นตัวของนายคำรณหรือเบียร์คนก่อเหตุ มีลักษณะยืนขวางอยู่กลางถนน ก่อนที่จะเดินเข้าไปหาเรื่องนายกฤษฎาหรือโจ้คนตาย ซึ่งกำลังจะขับรถมอเตอร์ไซค์ออกไปซื้อของก่อนมาปรุงอาหารเปิดร้านขายข้าวแกง โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าบ้านจับภาพว่านายคำรณเข้าไปหาเรื่อง

 

จากนั้นภาพกล้องวงจรปิดช่วงเวลาประมาณ 05.05 น. บริเวณกลางซอยจับภาพต่อ จะเห็นว่า นายคำรณหรือเบียร์คนก่อเหตุ ใส่กางเกงสีครีมขายาว ไม่ใส่เสื้อ กำลังมีการฉุดกระชากตัวของคนตายคือนายกฤษดา และมีการกอดรัดฟัดเหวี่ยงชกต่อยกัน ประมาณ 2-3 นาที

 

ก่อนที่ตัวของนายคำรณคนก่อ จะกระชากคอนายกฤษดาคนตายจนล้มลงบนพื้นและหน้านิ่ง ก่อนที่จะมีการไปหยิบกระถางต้นไม้และขวด ก่อนกระทืบซ้ำ ซึ่งมีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้

 

และยังมีภาพจากกล้องวงจรปิดอีกชุด จากภาพมุมไกล จะเห็นวินาทีที่ นายคำรณ มีการทำร้ายร่างกายนายกฤษดาซึ่งนอนอยู่บนพื้น จะเห็นว่ามีการพยามกระทืบซ้ำและหยิบสิ่งของบางอย่างทุมลงไป ก่อนหลบหนี , โดยกล้องวงจรปิดจับเสียงวินาทีที่มีการก่อเหตุเอาไว้ได้ แล้วยังจะได้ยินเสียงชาวบ้านลักษณะโวยวายสั่งให้พอและหยุดก่อเหตุได้แล้ว

 

ก่อนที่เวลาประมาณ 05:26 น. โดยประมาณ จะเห็นตำรวจสายตรวจและรวมถึงกู้ภัยเริ่มเข้ามาในที่เกิดเหตุ แต่เป็นช่วงเวลาหลังเกิดเหตุไปแล้ว และตัวของนายคำรณหรือเบียร์คนก่อเหตุ ได้มีการหลบหนีไปแถวซอยสุขุมวิทซอย5 ก่อนที่ตำรวจจะควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา

 

โดยนายคำรณ ให้การรับสารภาพว่า ตนเองได้มีปากเสียงกับผู้เสียชีวิต ตั้งแต่ที่บริเวณหน้าบ้านแล้วขณะที่ผู้เสียชีวิต กำลังจะออกไปขายข้าวแกง ซึ่งได้บ่นกับตนเองเมื่อไหร่จะไปหางานทำ ส่งผลให้ตนเองไม่พอใจ ได้มีการชกต่อยกัน ไล่กันไปถึงกลางซอย โดยที่ผู้เสียชีวิตได้นำสนับมือเหล็กออกมา จะต่อยตนเอง แต่สนับมือตกพื้น และตนเองเก็บได้จึงได้สวมใส่ต่อยผู้เสียชีวิต ต่อมาตนเองได้ไปนำกระถางต้นไม้ริมถนน ขึ้นมาฟาดใส่ผู้เสียชีวิต และในระหว่างที่กระถางต้นไม้แตก ตนเองก็ได้หยิบเศษกระถางจากพื้น ขึ้นมาแทงเข้าที่บริเวณปลายคางผู้เสียชีวิต รวมถึงขวดเบียร์ด้วย หลังจากนั้นก็แตะซ้ำไปอีก 1 ที ก่อนที่จะวิ่งหลบหนี และถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด

 

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุ พร้อมตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่าสามารถบันทึกภาพเอาไว้ได้ เจ้าหน้าที่จึงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่จะแจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

และนอกจากนี้ ทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม ซึ่งจะเป็นพฤติกรรมของนายคำรณหรือเบียร์คนก่อเหตุ ก่อนที่จะไปเผชิญหน้ากับคนตาย แล้วมีการก่อเหตุชกต่อย กระทืบ ใช้กระถางต้นไม้ทุบ ก่อนใช้ขวดปากฉลามแทงและปาดคอคนตาย

 

ซึ่งมีพฤติกรรมที่ภาพจากกล้องวงจรปิดหลายมุมจากภาพเอาไว้ได้ จะเห็นตัวของนายคำรณหรือเบียร์ มีอาการคุ้มคลั่งตั้งแต่ช่วง ตี 3 ก่อนถึงตี 5 ซึ่งจะมีบางช่วงที่เห็นว่าภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพนายคำรณ วิ่งล่อนจ้อนไม่สวมกางเกงและเสื้อผ้าเสื้อผ้า วิ่งไปมาอยู่กลางซอยชุมชน

 

ก่อนที่จะไปขโมยกางเกงของชาวบ้าน ซึ่งเป็นกางเกงสีครีม ขายาว สวมใส่และเดินคลุ้มคลั่งไปมาอยู่กลางซอย ลักษณะคุยคนเดียว ซึ่งบางครั้งลุกนั่ง ยืนนิ่ง อยู่กลางซอย แล้วถึงแม้หมาในซอยจะออกมารุมเห่า ตัวของนายคำรณก็ยังยืนนิ่งไม่ได้สนใจใยดี ซึ่งก็มีภาพจากกล้องวงจรปิดจากภาพพฤติกรรมเอาไว้ได้

 

ส่วนวงจรปิด (ก่อนเกิดเหตุ) เห็นพฤติกรรมนายคำรณหรือเบียร์คนก่อเหตุ วิ่งล่อนจ้อนไม่ใส่เสื้อผ้าอยู่กลางซอย ก่อนขโมยกางเกงชาวบ้าน และมายืนคลุ้มคลั่งอยู่กลางซอยให้หมาเห่า

 

และยังมีภาพจากกล้องวงจรปิดอีกชุด จับเสียงช่วงวินาทีคลุ้มคลั่งของนายคำนวณเอาไว้ได้ ซึ่งมีภาพจากกล้องวงจรปิด จับเสียงทำนองว่า “ เขาให้ดูแลทำไมไม่ดูแล กูให้อภัย ไม่ต้องมากราบตีนกู ครับผมพูดจากใจ ถ้าไม่จริงใจเดี๋ยวถ่ายให้ดู เอาหัวเป็นประกัน ให้ผมตายสิไม่เหลืออะไรเลย ครับผม โอเคครับพี่ แน่จริงมึงมาสิ กูไม่กลัวมึงหรอก” ท่ามกลางหมาเห่า แต่นายคำพลก็ยืนโวยวายอยู่กลางซอยจนมีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพได้

 

ด้านนางสาวใบหม่อน (นามสมมติ) เจ้าของบ้าน เผยว่า หลังจากที่ตัวเองได้ยินเสียงคนโวยวายและทะเลาะกันจึงได้ออกมายืนดู แต่ปรากฏว่าเห็นตัวของนายคำรณหรือเบียร์ เนื้อตัวเปื้อนเลือดมายืนอาบน้ำอยู่ที่หน้าบ้าน ซึ่งมีลักษณะใช้ขันตักน้ำและราดล้างเลือดของคนตาย ที่ติดอยู่ตามตัวออก ก่อนที่จะเดินหลบหนีไปที่อีก ซอยหนึ่ง

 

จากนั้นเห็นว่ากลุ่มเพื่อนของคนตายเริ่มขับรถมอเตอร์ไซค์และเดินตามหาตัวของนายคำรณหรือเบียร์หลังก่อเหตุ เพราะหลังก่อเหตุแล้วมีการตีเนียนเดินหนีหายไป จนกระทั่งเพื่อนไปเจอว่าอยู่ที่หน้าร้านวะดวกซื้อกลางซอยสุขุมวิท5 จึงได้มีการประสานตำรวจเข้าไปจับกุม แต่ส่วนรายละเอียดว่าไปก่อเหตุอะไรกับคนตายหรือมีเรื่องอะไรกันนั้นตนเองไม่ทราบ

 

และภายหลังก่อเหตุแล้วมีการหลบหนี ไปอยู่แถวซอยสุขุมวิท 5 ก่อนที่จะถูกตำรวจและเพื่อนของกลุ่มคนตายตามมาจับกุม ปรากฏว่ามีภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณซอยสุขุมวิท5 จับเสียงอาการคุ้มคลั่งและโวยวายหลังก่อเหตุ ฆ่านายกฤษดาตาย

 

โดยตัวของนายคำรณมีการโวยวายอยู่ที่หน้าร้านแห่งหนึ่ง ซึ่งกล้องวงจรปิดจับเสียงได้ โดยมีการระบุทำนองว่า “ ไอ้คนตายมันกล่าวหาผมว่าเป็นคนบ้า ผมไม่ได้บ้า และมันก็ถ่ายคลิปผม ชีวิตผมเป็นมะเร็งแค่นี้ก็มีความสุขแล้ว”

 

ผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถาม นางปรารถนา อายุ 57 ปี คุณแม่ของ นายกฤษดา ผู้เสียชีวิต ในงานศพที่วัดเขาน้ำซับ ตำบลทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี นั้น โดยคุณแม่พูดได้ไปพูดต่อหน้ารูปหน้าโลงศพของ นายกฤษดา ผู้เสียชีวิต ว่า ขอให้โจ้เชื่อแม่ อย่าไปผูกพยาบาทกับเขาเลยนะ เวรกรรมที่มีต่อกันก็ชดใช้ไป อย่าไปผูกพยาบาทกับเขา อโหสิกรรมให้เขา เริ่มต้นใหม่กับภพภูมิหน้า แม่ใส่ชุดขาวให้หนู ปฏิบัติธรรมให้หนู ตั้งใจให้ได้นะ ไปเป็นเทวดาดีกว่าไปเป็นอสูรกายเลยนะ เราคนพุทธ เราเชื่อในสิ่งนี้นะลูก แล้วก็ใช้มือลูบบริเวณรูปภาพของลูกชายแล้วร้องไห้เสียใจอยู่ตลอดเวลา

 

จะให้พูดถึงคนร้าย แม่ก็ไม่มีอะไรจะพูดกับผู้ก่อเหตุแล้ว แม่เชื่อว่าข้าวที่แม่เลี้ยงไม่มียาง สุดจะพรรณนาไม่มีคำจะสรรหามาพูด มันโหดร้ายมาก ไม่มีจิตวิญญาณของมนุษย์เลย ข้าวที่ให้แต่ละเม็ดไม่มีประโยชน์ ไม่มียาง ไม่มีบุญคุณ ไม่มีสำนึกกันเลย แต่แม่ก็บอกลูกตอนที่เขาจะไปว่า อย่าผูกพยาบาทกับเขานะ อโหสิกรรมไป หนูเชื่อแม่เป็นลูกแม่มาทั้งชีวิตไม่เคยเชื่ออะไรแม่ แต่ขอครั้งนี้ให้เชื่อแม่ อย่าพยาบาทปล่อยเขาไป ตนเองก็สวดมนต์ให้ลูก ตนเองทำได้แค่นี้ แม่อโหสิกรรมให้สำหรับคนที่ทำไม่ดีกับแม่ ก็ถือเป็นเจ้ากรรมนายเวรกันมา แม่ขออโหสิกรรมให้ ลูกแม่ก็คงคิดอย่างแม่เพราะเขาก็เป็นคนที่มีความรู้สึกเคียดแค้น แต่ถึงเวลานี้ก็ขอให้เขาอย่าผูกพยาบาท ให้อโหสิกรรม แม่พูดกับโจ้ตั้งแต่อยู่ในที่เกิดเหตุ จนเข้าไปถึงโรงพยาบาล แม่พูดตอนแม่ไปจุดธูปเรียกเขามาแม่ก็บอกว่าอย่ามาติดอยู่ตรงนี้เลยนะลูกเดี๋ยวมาปลุกพยาบาลอยู่ตรงนี้เลยเกิดเป็นลูกแม่ไม่เคยเชื่อฟังแม่ใครเชื่อฟังแม่นะครั้งนี้ไปกับแม่ไปโรงพยาบาลแล้วแม่จะพาไปวัดไปทำพิธีให้ดีหนูอย่ามาติดค้างอะไรตรงนี้เลยลูก

เปิดนาทีฆ่า! กระถางทุบหัวเพื่อนรัก ขวดปาดคอซ้ำดับสยอง |