ตำรวจแจ้งข้อหาพรากผู้เยาว์ "สาวสอง" ลักพาตัว "น้องมาร์ติน" เตรียมส่งฝากขังพรุ่งนี้

ความคืบหน้าคดีที่ คนร้ายพยายามลักพาตัวน้องมาร์ติน ซึ่งตำรวจสามารถติดตามจับกุม และช่วยเหลือน้องมาร์ตินมาได้เมื่อคืนนั้น ขณะคนร้ายพาน้องมาตินร์ขึ้นรถทัวร์มินิบัสไปที่จังหวัดระยอง

พันตำรวจเอกสุรพงษ์ สุขแย้ม ผู้กำกับการสน.บางนา เปิดเผยความคืบหน้าทางคดีว่า หลังจากปู่ย่าเด็กได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ว่าหลานถูกลักพาตัวไปตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นวานนี้ ทางตำรวจ สน.บางนา จึงได้ร่วมกับชุดสืบนครบาล และ บก.น.5 เร่งติดตามหาตัวเด็ก และดูกล้องวงจรปิดจนทราบว่า ผู้ต้องหาได้พาเด็กขึ้นรถจักรยานยนต์มุ่งหน้าไปที่หมอชิต ตลอดจนเช็กสัญญาณทางโทรศัพท์ รวมถึงข้อมูลของประชาชนที่ให้ไว้ในเพจสายไหมฯ จนกระทั่งทราบข้อมูลจากพลเมืองดีว่าผู้ต้องหามุ่งหน้าไป จ.ระยอง จึงได้ประสานไปยังตำรวจพื้นที่ สภ.เมืองระยอง ก่อนจะสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาเอาไว้ได้ ที่ขนส่งผู้โดยสาร จ.ระยอง ส่วนเด็กอยู่ในอาการปลอดภัย

ที่ผ่านมาน้องมาร์ตินอยู่กับปู่ย่า เนื่องจากพ่อแม่เป็นชาวลาว ไม่สามารถเลี้ยงดูลูกได้ ปู่ย่าจึงเป็นคนเลี้ยงมาตลอด โดยปู่ย่าทำงานเป็นกรรมกร ได้รายได้วันละ 400 บาท และในช่วงเวลาที่ปู่ย่าทำงาน ก็จะให้คนดูแล ส่วนผู้ต้องหามาสมัครเป็นกรรมกรเช่นกัน อยู่ในแคมป์เดียวกันกับปู่ย่า ทำงานได้เพียง 2 สัปดาห์ และเคยเข้าออกบ้าน มีความคุ้นชินกับปู่ย่าและเด็กเป็นอย่างดี

ส่วนการดูแลเด็ก หลังเกิดเรื่องพลตำรวจตรีนพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และพลตำรวจตรีธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ประสาน พม. ให้เข้ามาดูแลเด็กเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ส่วนสาเหตุการจับกุม ยังอยู่ระหว่างสอบปากคำอย่างละเอียด พร้อมขยายผลในหลายประเด็น ทั้งเรื่องของเป็นแก๊งลักเด็กข้ามชายแดนหรือไม่ ตลอดจนกำลังตรวจสอบเอกสารว่าเป็นคนสัญชาติไหน เนื่องจากยังไม่แน่ชัดว่าเป็นชาวกัมพูชาหรือไม่

ส่วนข้อหาได้แจ้งไปแล้ว คือ พรากผู้เยาวน์ อายุไม่เกิน 15 ปี ไปจากเสียบิดามารดา เจ้ารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

ส่วนนายน้อยสาวประเภทสอง ผู้ต้องหาที่ลักพาตัวน้องมาร์ติน วัย 9 เดือน ยังถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องควบคุมผู้ต้องหา เพื่อรอสอบปากคำ โดยสิบเวรหน้าห้อง บอกว่า ผู้ต้องหาท่าทางปกติดี กินข้าวได้ปกติ

ทีมข่าวจึงได้สอบถามนายน้อยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งนายน้อย ก็บอกว่า ที่พาตัวเด็กไป เพราะรักเด็ก และเอ็นดู เนื่องจากตัวเองเป็นสาวประเภทสอง ไม่สามารถมีลูกได้ เลยอยากมีลูก เพราะก็มีอายุแล้ว โดยตั้งใจจะพาไปเลี้ยงที่ จ.จันทบุรี เพราะจะไปทำงานที่ไร่สับปะรด ยืนยันว่า ไม่ได้มีเจตนาจะพาเด็กไปขาย และอ้างว่าไม่รู้จักกับกลุ่มขบวนการค้าเด็ก ตอนนี้รู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำไป และฝากขอโทษผู้ปกครองของน้องมาร์ตินด้วย

ทั้งนี้ นายน้อย อ้างว่า ตัวเองเป็นคนอีสาน แต่จากการตรวจสอบข้อมูลของตำรวจ ยังไม่พบฐานข้อมูลในระบบ ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมอยู่ ก่อนจะนำตัวไปขออำนาจศาลฝากขังในวันพรุ่งนี้