จากกรณีเมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 3 พ.ค. ที่ผ่านมา ร.ต.อ.พิทยา จริยานุกูล รอง สว.(สอบสวน) สภ.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ รับแจ้งมีเหตุคนถูกยิงบาดเจ็บสาหัส ที่ร้านขายฟักทอง ริมถนนเพชรเกษมอ่าวลึก-กระบี่ หมู่ 4 ต.เขาคราม อ.เมืองกระบี่ หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับ โดยที่เกิดเหตุเป็นร้านขายฟักทองแบบกางเต็นท์ริมถนน อยู่หน้าบ้านหลังหนึ่ง ด้านหลังร้านเป็นศาลาเปิดโล่งไว้ทำครัว พบแต่เพียงเสื้อชั้นในเปื้อนเลือดของคนเจ็บตกอยู่ที่เกิดเหตุ




ส่วนคนเจ็บทราบชื่อคือ น.ส.ชวินญาน์ หรือ ออย อายุ 37 ปี แม่ค้าขายฟักทอง ถูกนำตัวส่ง รพ.กระบี่ ไปก่อนหน้าแล้ว ต่อมาทราบว่าเสียชีวิตที่ รพ. พบบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนไม่ทราบชนิดเข้าที่ราวนมขวา ทะลุราวนมซ้าย 1 นัด กระสุนตัดขั้วหัวใจ ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบเตาทำอาหารยังมีร่องรอยเพิ่งใช้งาน บนโต๊ะในครัวมีผักที่คาดว่าผู้ตายกำลังเตรียมทำอาหารกิน แต่ไม่พบปลอกกระสุนในที่เกิดเหตุ




เบื้องต้นตำรวจสอบสวน ด.ช.เอ (นามสมมติ) หลานของผู้ตาย ซึ่งอยู่ในบ้านตอนเกิดเหตุ ทราบว่า ช่วงเกิดเหตุ หลานผู้ตายอยู่ในบ้านกับลูกสาววัย 9 ขวบ ของผู้ตาย ส่วนตัวผู้ตายออกไปทำอาหารอยู่ที่ศาลาหลังร้าน ต่อมาได้ยินเสียงปืนดัง 3 นัด และได้ยินเสียงผู้ตายร้องโอ๊ย ๆ หลานผู้ตายจึงวิ่งออกมาดู พบผู้ตายวิ่งมาล้มลงข้าง ๆ ศาลา จึงตามให้คนมาช่วย หลังเกิดเหตุไม่ได้ยินเสียงรถของคนร้าย


ตำรวจสอบถามจากญาติ ๆ ซึ่งเป็นญาติฝ่ายสามีผู้ตาย ทราบว่า บ้านเกิดเหตุเป็นบ้านของนายสมพร อายุ 45 ปี สามีของผู้ตาย ซึ่งผู้ตายมาอยู่กินด้วยกันกับสามีนาน 5 ปีแล้ว ต่อมาเมื่อปีที่ผ่านมา สามีผู้ตายถูกจับในคดียาเสพติด และติดคุกอยู่กำลังจะพ้นโทษในเดือน พ.ค. นี้ หลังสามีโดนจับ ผู้ตายก็ขายฟักทองอยู่ที่บ้านสามี ส่วนลูกสาวอยู่กับสามีเก่าผู้ตายที่ จ.ราชบุรี นาน ๆ จะมาหาผู้ตาย จนล่าสุดลูกสาวเพิ่งมาหาผู้ตายได้ 4 วัน




ส่วนปมเหตุญาติเชื่อว่าอาจมาจากเรื่องผิดกฎหมาย เนื่องจากช่วงหลังจะมีวัยรุ่นลักษณะคล้ายคนติดยาเสพติดมาพบหาผู้ตายบ่อย ๆ แทบทุกคืน และหลังเก็บร้านแต่ละวัน ผู้ตายจะไม่ชอบนอนที่บ้าน จะหายออกจากบ้านทุกคืน แล้วมาเปิดร้านตอนเช้า นอกจากนี้เมื่อ 4 วัน (30 เม.ย.) ก่อนเกิดเหตุ ก็มีผู้ชายชื่อเล่นว่า ทอย แฟนเก่าอีกคนของผู้ตาย มาขว้างก้อนหินใส่บ้านผู้ตายกลางดึก ซึ่งไม่มั่นใจว่ามีปัญหาอะไรกับผู้ตายหรือไม่


เบื้องต้น ตำรวจคาดว่า คนร้ายน่าจะเป็นคนที่รู้จักกันกับผู้ตาย อาจจะมีปัญหาขัดแย้งกันเรื่องของผิดกฎหมาย หรืออาจจะมีปัญหากันเรื่องปมชู้สาว โดยคนร้ายน่าจะเดินมาซุ่มรอ จนผู้ตายออกมาทำกับข้าว จึงสบโอกาสเข้ามายิงใส่ผู้ตาย 1 นัด จนผู้ตายวิ่งหนีไปล้มลง คนร้ายจึงยิงปืนอีก 2 นัด เพื่อเปิดทางหลบหนีไป ซึ่งตำรวจจะเร่งติดตามตัวนายทอยมาสอบสวน ว่ามีส่วนรู้เห็นหรือไม่ รวมทั้งเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้ที่เกิดเหตุทั้งหมด เพื่อติดตามตัวคนก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป




ล่าสุดช่วงเช้าวันนี้ (4 พ.ค. 2567) ตำรวจชุดสืบสวนภูธร จ.กระบี่ ลงพื้นที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อเก็บกล้องวงจรปิดภายในร้านขายฟักทองของผู้ตาย โดยกล้องแทบทุกตัวไม่ทำงาน มีเพียง 1 ตัวที่บันทึกเสียงขณะเกิดเหตุไว้ได้ โดยเสียงที่ได้ยินจากกล้องเป็นเสียงปืนดังขึ้นนัดแรกช่วงเวลา 20.01 น. จากนั้นก็ได้ยินเสียงของผู้ตายร้อง “โอ๊ย โอ๊ย” ดังอย่างชัดเจน ซึ่งคาดว่าผู้ตายถูกยิงโดยกระสุนนัดแรกแล้ว หลังจากนั้นเกือบ 10 วินาที ก็มีเสียงปืนดังขึ้นอีก 1 นัด แต่ไม่มีเสียงรถของคนร้ายที่ก่อเหตุ มีเพียงเสียงรถที่วิ่งผ่านไปมาบนถนน


ตำรวจจึงเชื่อว่าคนร้าย น่าจะจอดรถทิ้งไว้ห่างจากจุดเกิดเหตุ ก่อนจะเดินลัดเข้ามาทางสวนปาล์มข้างบ้านเพื่อมาก่อเหตุ ก่อนจะหนีหายไปกับความมืดในสวนปาล์ม โดยหลังจากนี้จะตรวจสอบกล้องตลอดเส้นทางดังกล่าว เพื่อหาตัวบุคคลต้องสงสัยอีกครั้ง




หลังจากนั้นทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับนายเฟรม (นามสมมติ) เป็นลูกจ้างร้านฟักทองของผู้ตาย โดยนายเฟรม เล่าให้กับทีมข่าวฟังว่า ผู้ตายนั้นเพิ่งตามนายทอย แฟนเก่ามาทำงานได้ประมาณ 1-2 อาทิตย์เท่านั้น ซึ่งในทอย แฟนเก่าก็มักจะมาช่วยในการจัดร้านหรือมาช่วยขายอยู่ตลอด ซึ่งเท่าที่ตนสังเกตุนั้นก็ไม่เคยเห็นนายทอยกับผู้ตายมีปัญหาอะไรกันเลย ก็ยังคุยกันเฮฮา หยอกล้อกันตามประสาทั่วไป และในช่วงที่นายทอย มาที่ร้านฟักทอง ตนไม่เคยเห็นเลยว่านายทอยนั้นจากพกปืนมาแม้แต่ครั้งเดียว


แต่ในระหว่างที่มีโอกาสร่วมงานกัน ตนก็ดูจากหน้าตาและนิสัยของนายทอยก็ดูเป็นคนที่ดุและเอาเรื่องใช้ได้ ก่อนที่ 4 วันก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุ ตนไม่รู้ว่านายทอย มีปัญหาอะไรกับผู้ตายก่อนที่จะปิดร้านฟักทอง เพราะหลังจากที่ปิดร้านไปแล้ว นายทอยนั้นได้วนกลับมาที่บ้านของผู้ตาย และมีการขว้างหินใส่บ้านผู้ตาย 2 ครั้ง ก่อนจะออกไปและไม่กลับมาทำงานอีกเลย จนกระทั่งผู้ตายถูกยิงเสียชีวิต




และเรื่องของนายทอยกับผู้ตาย ตนก็พอจะทราบประวัติมาบ้างว่าตอนที่เลิกกันครั้งแรก ก่อนจะกลับมาคบกันอีกครั้งในช่วงนี้ นายทอยเคยทำร้ายผู้ตาย ด้วยการเอามีดคัตเตอร์กรีดหน้า จึงทำให้เป็นเหตุให้เลิกรากัน และในตอนนี้ตนไม่รู้เลยว่าปมเหตุที่ผู้ตายถูกยิงจนเสียชีวิต เกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่


ส่วนช่วงที่เกิดเหตุนั้นตนก็อยู่บ้านอีกหลังหนึ่ง โดยกำลังนั่งเล่นคอมพิวเตอร์อยู่ จากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นมาประมาณ 2-3 นัด ซึ่งนัดแรกนั้นตนก็ได้ยินเสียงของผู้ตายนั้นร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด จึงรีบวิ่งออกมาดูทันที ก่อนนัดที่ 2-3 จะตามมา และเมื่อมาถึงก็ได้เห็นผู้ตายล้มลงไปแล้ว ซึ่งในระหว่างที่ตนเองนั้นวิ่งไปดูผู้ตาย ตนไม่เห็นเลยว่าจะมีเสียงของคนวิ่งหนี หรือเสียงรถที่พยายามจะขับออกจากที่เกิดเหตุไป หรือจะเห็นเงาของคนที่ก่อเหตุ ก็ไม่เห็นเลยแม้แต่นิดเดียว สุดท้ายตอนนี้ก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่นายจ้างของตนต้องมาถูกยิงจนเสียชีวิตเช่นนี้




จากนั้นทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับนางธนาพรณ์ อายุ 36 ปี หลานของสามีคนตาย ที่มีบ้านอยู่ใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุ โดยนางธนาพรณ์ เล่าให้กับทีมข่าวช่อง 8 ฟังว่า เมื่อคืนเวลาประมาณ 2 ทุ่มกว่า ๆ ตนนอนอยู่ในบ้านที่อยู่ใกล้กับร้านฟักทองของผู้ตาย จากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นประมาณ 2-3 นัด จากนั้นคนงานร้านฟังทองของคนตายและลูกสาวของคนตาย ก็รีบมาบอกตนว่าผู้ตายถูกยิง ทำให้ตนรีบวิ่งออกไปดูเหตุการณ์ทันที เมื่อมาถึงก็เห็นว่าผู้ตายนั้นนอนฟุบลงไปกับพื้นแล้ว จึงรีบโทร. ติดต่อกู้ภัยและทางตำรวจ ให้เข้ามายังจุดเกิดเหตุทันที และระหว่างที่ทางตำรวจและกู้ภัยกำลังเดินทางมา ตนเองก็พยายามปฐมพยาบาล และพยายามจะถามผู้ตายว่าใครเป็นคนทำและเหตุการณ์เป็นอย่างไร แต่ทางผู้ตายนอนนิ่งไม่มีสติ ถามอะไรก็ตอบไม่ได้แล้ว แต่ยังคงลืมตามีชีพจรอยู่ ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาล


โดยเบื้องต้นคนตายนั้นไม่ใช่คน จ.กระบี่ แต่เป็นคนจาก จ.ราชบุรี และมาหากินที่นี่ เนื่องจากมาได้สามี ซึ่งเป็นน้าชายของตน ส่วนน้าชายของตนตอนนี้ คุมขังอยู่ในเรือนจำ ในข้อหาเสพและมียาเสพติดไว้ในครอบครอง อีกทั้งทางผู้ตายเองก็เคยมีประวัติพัวพันกับยาเสพติดเช่นกัน โดยเมื่อปลายปีที่แล้วทางน้าชายถูกตำรวจควบคุมตัวไปดำเนินคดี ทางผู้ตายก็ถูกควบคุมตัวไปเช่นกัน ก่อนจะถูกปล่อยตัวกลับมาในเวลาต่อมา แต่ประวัติของผู้ตายในการเข้า-ออกเรือนจำ หรือการพัวพันยาเสพติดมานานแล้วอย่างไรนั้นตนไม่ทราบ




ในส่วนของคดี ล่าสุดตำรวจ สภ.อ่าวนาง มารับตัวหลานชาย และลูกสาวคนเล็กของผู้ตายไปสอบปากคำอีกครั้งที่ สภ.อ่าวนาง โดยต้องประสานสหวิชาชีพเข้าร่วมสอบสวน เพราะทั้ง 2 คน ยังเด็ก หลานชายอายุ 14 ปี และลูกสาวอายุ 9 ขวบ โดยตำรวจยังมุ่งปมสังหารอยู่ที่เรื่องของยาเสพติด และปัญหาส่วนตัว ขณะที่ศพผู้ตาย ยังถูกเก็บไว้ที่ รพ.กระบี่ รอญาติจาก จ.ราชบุรี เดินทางมารับ




ขณะที่นายเอก (นามสมมติ) คนงานที่สนิทกับผู้ตาย เผยว่า ตนสนิทกับผู้ตายเพราะเวลามีงานลงฟักทอง ผู้ตายจะมาขอให้ไปช่วยงานตลอด แต่ไม่ค่อยได้คุยกันมาก แค่สังเกตดูพฤติกรรมช่วง 2-3 วันหลัง ผู้ตายค่อนข้างจะเครียด ๆ เมื่อ 2 วันก่อน ยังชวนตนให้ไปดูปืนเป็นเพื่อน บอกจะซื้อปืนมาไว้ป้องกันตัว แต่ตนไม่ได้ไปด้วย ซึ่งผู้ตายก็ยังไม่ได้ซื้อปืนมาไว้ ส่วนจะซื้อเพราะอะไรตนเองก็ทราบแค่ว่าจะซื้อไว้ป้องกันตัว


ช่วงที่สามีติดคุกก็จะเห็นคบหาอยู่กับอดีตแฟนเก่า (นายทอย) จะไปมาหาสู่กันบ่อยครั้ง โดยเฉพาะช่วงกลางคืน เรื่องปัญหาอื่นก็ไม่น่าจะมี หากจะมีปัญหาก็น่าจะเรื่องแฟนเก่าคนนี้ เพราะสามีคนปัจจุบันกำลังจะพ้นโทษออกมาอีกไม่นาน ผู้ตายจึงอาจพยายามเลิกยุ่งกับอดีตแฟนเก่า จนอาจมีปากเสียงหรือเกิดไปท้าทายกันได้ ช่วงหลัง ๆ จึงเห็นผู้ตายค่อนข้างเครียด นอกจากนี้ก่อนหน้านี้ประมาณ 2 สัปดาห์ อดีตแฟนคนนี้เข้ามายุ่งในร้าน จะเข้ามาจัดการปรับกล้องในร้าน จนกล้องหลายตัวไม่ทำงาน อย่างกล้องจุดที่โดนยิงก็ไม่ทำงานในวันเกิดเหตุด้วย โดยส่วนตัวตนสงสัยว่าอาจจะมาจากปัญหานี้มากกว่าเรื่องอื่น

 

มือปืนซุ่มยิงแม่ค้าฟักทอง คนตายรู้ตัวซื้อปืนก่อนดับ