ทีมข่าวช่องแปด ย้อนกลับไปตรวจสอบโกดังที่เกิดเหตุฆ่าหั่นศพ นายเรียวสุเกะ คาบาชิม่า จากคำให้การของหนึ่งในคนก่อเหตุชาวไทยคือนายเกมส์ ยืนยันว่าโกดังดังกล่าวเป็นจุดยิง และหั่นศพ ก่อนกระจายนำชิ้นส่วนไปทิ้ง
โดยหลังจากมีการตรวจสอบพื้นที่แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงปิดล็อกประตูโกดังเอาไว้ ซึ่งไม่สามารถมองเห็นหรือเก็บภาพบรรยากาศภายในได้ เนื่องจากค่อนข้างทึบ เพราะเนื่องจากทำด้วยสังกะสี ทาเป็นสีส้มส่วนของโกดัง แต่จากข้อมูลรายงานเมื่อวานนี้ มีการพาเกมส์ ทำแผนประกอบรับคำสารภาพ ซึ่งภายในโกดังหลังจากเปิดประตูเข้าไปแล้ว จะพบว่าฝั่งขวาของโกดังจะเป็นลักษณะ ห้องที่ก่อขึ้นมาด้วยปูน ทาสีเทา มีหน้าต่างเป็นบานกระจก และประตูพีวีซีติดตั้งอยู่ ภายในห้องดังกล่าวมีห้องน้ำอยู่ด้านในสุดฝั่งซ้าย ซึ่งจะสังเกตว่ามีไม้ขัดพื้นสีขาว และที่ดูดส้วมตันด้ามสีชมพูวางอยู่ แต่ภายในห้องดังกล่าว ไม่พบพบรอยเลือดหรือคราบเลือด
และภายในโกดังดังกล่าวยังพบกองดินสีดำกองใหญ่วางอยู่ท้ายสุดภายในโกดัง และมีถุงดำวางกระจายอยู่รอบกองดิน และด้านในสุดฝั่งขวาจะเป็นจุดจอดรถนิสสันสีขาว ซึ่งทราบรายงานว่าเป็นรถคันที่มีการก่อเหตุยิงกันและทิ้งศพของคนตายไว้ในในรถ 1 คืน
แล้วจากการสำรวจด้านนอกของโกดังที่เกิดเหตุ พบว่ามีรั้วรอบขอบชิด แต่ไม่มีประตูเปิดปิด ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการนำเส้นโพลิสไลน์ มาติดตั้งเอาไว้แทน และฝั่งซ้ายของโกดัง พบว่ามีลักษณะเนินดินถูกขุด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตรวจสอบภายในกองดินดังกล่าว เพื่อคลายประเด็นข้อสงสัยว่ามีการขุดหลุมฝังชิ้นส่วนที่เหลือหรือไม่ แต่ไม่พบ จึงมีลักษณะกองดินวางอยู่
ส่วนฝั่งขวาก็มีลักษณะถูกขุด และกะเทาะแผ่นปูนออก เนื่องจากทราบ มีการขุดหลุมฝังวัตถุพยานบางอย่าง ซึ่งตามคำให้การของนายเกมส์ ชี้ชัดว่ามีการขุดหลุมฝังก่อนที่จะโบกปูนทับ โดยจะเห็นลักษณะเป็นหลุมลึกลงไปซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการขุดไปตรวจสอบแล้ว แต่ยังไม่ได้รับคำยืนยันว่าใต้หลุมดังกล่าวพบเจออะไร
ขณะเดียวกันบริเวณด้านหน้าติดกับรั้ว ยังมีโรงจอดรถ 1 โรง ซึ่งในโรงรถได้มีรถเก๋งสีบรอนซ์เทาจอดอยู่ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งทราบจากคนงาน ทราบว่ารถคันดังกล่าวมีการจอดทิ้งเอาไว้ตั้งแต่ก่อนปล่อยให้ชาวญี่ปุ่นเช่า จึงเข้าใจว่าอาจเป็นรถของเจ้าของคนเดิมหรือไม่ เพราะสภาพเหมือนมีการเปิดฝากระโปรงด้านหน้าทิ้งเอาไว้
และบริเวณโดยรอบโกดัง แม้ว่าจะอยู่ท้ายซอยสวิง 2 โดยท้ายซอย ใกล้กับโกดังที่เกิดเหตุ จะมีโกดังเก่า 2 ชั้น ซึ่งยังไม่มีผู้เช่าอยู่ติดกัน และด้านหลังโกดังมีห้องพักของคนงาน 2 ห้อง อยู่บริเวณชั้น 2 แต่เป็นคนละส่วนกัน ไม่ได้อยู่ในพื้นที่โกดังที่เกิดเหตุ เพียงแค่มีโกดังติดกันเท่านั้น
ส่วนบริเวณด้านหน้าของโกดังที่เกิด จะมีส่วนกล้วยบวกกับบ้านพัก ซึ่งจุดดังกล่าวไม่ได้มีคนอาศัยอยู่ นานๆทีจะมีคนงานแวะมาดูสวนกล้วย
และด้านในสุดของซอยที่เกิดเหตุใกล้กับโกดัง ก็มีห้องพักของคนงานอีกประมาณ 4 ห้อง ซึ่งเป็นคนงานชาวกัมพูชา จะเข้ามาพักอาศัยอยู่ช่วงหัวค่ำจนถึงเช้าของทุกวัน แต่ตอนกลางวันจะมีนายจ้างรับออกไปทำงานข้างนอก , และท้ายซอยยังพบว่ามีอู่รถ ซึ่งเป็นอู่ซ่อมรถยนต์ตั้งอยู่อีก 1 แห่ง
ขณะที่ ด้านหลังโกดัง จะมีบ้านชาวบ้าน 2 หลัง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือหลังที่มีการ เก็บพลั่วเปื้อนเลือดไปก่อนหน้านี้ เพราะเนื่องจากมีอาชีพ เก็บของเก่าขาย จึงได้มีการเก็บพลั่วไปไว้ที่บ้านก่อนที่ตำรวจจะมาตรวจสอบ
ขณะที่ทีมข่าวได้สอบถาม นายมานัส อายุ 64 ปี หัวหน้าคนงานก่อสร้างที่พักอาศัยอยู่ใกล้กับโกดังดังกล่าว เปิดเผยว่า ช่วงที่ปรากฏข่าวว่า มีการฆ่าหั่นศพกันที่โกดังแห่งนี้ ตนเองไม่อยู่กับป้าต่างจังหวัดในช่วงสงกรานต์และเพิ่งกลับมาเมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา และยอมรับว่าเมื่อรู้ว่ามีการฆาตกรรมมันเกิดขึ้นที่ไหนโกดังตนเองก็มีความวิตกกังวลและหวาดกลัวเพราะก่อนหน้านี้ตนเองได้ยินเสียงหมาหอนมาหลายวันแล้วในช่วงประมาณตีสองตีสามเมื่อจะลุกไปเข้าห้องน้ำก็ไม่กล้าที่จะลุกเข้ามาห้องน้ำเพราะว่ากลัว ซึ่งยอมรับว่าก่อนหน้านี้ก็มีหมาเห่าอยู่บ้างแต่ก็ไม่เคยเห่าหอนถึงขนาดนี้
โดยตนเองนอนอยู่ด้านบนซึ่งติดกับโกดังและเมื่อได้ยินหมาหอนก็ทำให้ตนเองนอนไม่หลับเพราะตนเองเป็นคนกลัวผีอยู่แล้วทำให้มีความกลัวทวีคูณขึ้นมาอีก เพราะจุดที่ชำแหละศพ และที่ทิ้งศพก็อยู่ใกล้บริเวณที่ตนเองต้องพักอาศัยอยู่ ทำให้ตนเองรู้สึกคนหัวลุกอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นธรรมชาติของคนที่กลัวสมองก็จะคิดจินตนาการไปอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว
ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมายังร้านแบตเตอรี่แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ริมถนนกาญจนาภิเษก ซึ่งเป็นร้านที่นายเกมส์ หรือกฤษกร มาซื้อแบตเตอรี่ในวันที่ 29 มีนาคม 2567
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายต้อย (นามสมมติ) เจ้าของร้านแบตเตอรี่ดังกล่าว เล่าว่า ตัวเองยอมรับว่าเมื่อเวลาประมาณ 12:10 น. วันที่ 29 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา มีผู้ชายขับรถเก๋งสีแดงมาจอดที่ข้างร้านตัวเอง ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะลงจากรถแล้วมาซื้อแบตเตอรี่กับตัวเอง 1 อัน โดยใช้เวลาซื้อแบตเตอรี่ประมาณ 2 นาที ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะขับรถออกไป โดยชายที่เข้ามาซื้อแบตเตอรี่นั้นตัวเองก็จำไม่ได้ว่าเค้าเป็นคนไทยหรือชาวต่างชาติ เพราะตอนนั้นไม่ได้ตั้งใจมอง
หลังจากมาทราบข่าวว่าชายคนดังกล่าว ไปร่วมก่อเหตุอำพรางศพผู้เสียชีวิต ก็ไม่ได้รู้สึกตกใจมากนัก แต่คาดคิดว่าเค้าจะไปก่อเหตุแบบนั้น ซึ่งหลังจากเกิดเหตุก่อนหน้านี้ก็มีตำรวจมาสอบถามตัวเองไปแล้วหลายชุดเหมือนกัน
ทีมข่าวช่องแปดยังได้รับภาพจากกล้องวงจรปิด จำนวน 2 มุม เวลา 12.04.53 น. วันที่ 29 มีนาคม 2567 จับภาพนายกฤษกร ขับรถเก๋งคันสีแดงตามถนนถนนกาญจนาภิเษก มุ่งหน้าไป ร้านขายแบตเตอรี่
ขณะที่ช่วงเย็นวันนี้ทีมพบว่า รถเก๋งนิสสัน โน้ส สีแดง คันที่ นายเกม ไปเช่ามารับ-ส่ง ผู้ต้องหาชาวญี่ปุ่นที่ร่วมกันฆ่าหั่นศพนายเรียวสุเกะ คาบาชิม่า นั้น เจ้าของรถได้มารับรถกลับคืนไปแล้ว ภายหลังตรวจสอบและเก็บหลักฐานทั้งหมด โดยเลี่ยงที่จะเจอกับสื่อมวลชนที่รออยู่ที่ สภ.บางบัวทอง ทำให้บริเวณห้องสืบสวน ซึ่งเป็นจุดที่เคยจอดรถ เหลือเพียงรถเก๋งอัลเมร่า สีขาว คันที่ใช้ฆ่าและนำศพไปทิ้ง จอดเป็นของกลางทางคดีอยู่เท่านั้น
โดยทีมข่าวได้ตรวจสอบรถเก๋งอัลเมร่า สีขาว คันที่ใช้ฆ่าและนำศพไปทิ้ง พบว่าภายในรถเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการถอดเบาะทั้งคนนั่งด้านหน้าด้านหลังออกไปหมดแล้วเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ยังพบร่องรอยของเลือดที่กระเซ็นติดอยู่บนหลังคาบริเวณฝั่งเบาะนั่งซ้ายของคนขับและบริเวณใกล้กับเบรกมือ ซึ่งภายในรถก็ยังมีกลิ่นเหม็นเน่าอยู่เป็นจำนวนมาก
โดยทีมข่าวได้สอบถามตำรวจที่อยู่ภายในสถานีตำรวจทุกคนก็ต่างบอกว่าไม่รู้สึกหวาดกลัววิญญาณหรืออาถรรพ์ อะไร เพราะตั้งแต่นำรถของกลางมาจอดก็ไม่มีเหตุการณ์ที่ลี้ลับเกิดขึ้นแต่อย่างใด
จากนั้นทีมข่าว จึงได้โทรศัพท์ไปสอบถามเจ้าของรถ รถเก๋งนิสสัน โน้ส สีแดง ที่กลุ่มผู้ก่อเหตุเช่ามาใช้ โดยเปิดเผยผ่านทางโทรศัพท์ ยืนยันว่าวันนี้ได้ไปขอรับรถกลับมาแล้ว ส่วนคนที่มาเช่ารถ ยืนยันว่า คือนายเกมส์ ตามที่ปรากฏในข่าว โดยนายเกมส์ ให้เหตุผลในการขอเช่ารถ เพื่อไปรับนายญี่ปุ่นและนายเกมส์ มาทำสัญญาเช่ารถตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.-29 มี.ค. เป็นเวลา 3 วัน คิดค่าเช่าวันละ 1100 บาท มีการทำสัญญา โดยเก็บประวัติลูกค้า ให้เอกสารทำสัญญาเช่ารถตามขั้นตอนและตามเงื่อนไขที่ร้องขอ ซึ่งนายเกมส์ ไม่เคยเช่ารถกับตนเองมาก่อน เป็นลูกค้าใหม่ ติดต่อเข้ามาเช่ารถผ่านทางโซเชียลทั่วไป และตอนมาเช่า ก็มักจะสอบถามข้อมูลที่ต้องการว่า ใช้รถพื้นที่ไหน ใช้ด้วยกิจการอะไร ใช้กี่วัน ใช้เวลาไหนถึงเวลาไหน
โดยนายเกมส์ มารับรถในช่วงกลางคืนวันที่ 26 มี.ค. และตอนนำมาคืน ในวันที่ 29 มีนาคม ตนเองไม่ได้รับรถคืนเอง ให้คนอื่นรับแทนเนื่องจากตนเองติดวันหยุด และมีการขับรถมาคืนที่จุดจอดรถ พร้อมยืนยันว่า ตนเองไม่เคยติดต่อ และไม่เคยเห็นคนญี่ปุ่น จะติดต่อเฉพาะนายเกมส์ ที่เป็นผู้เช่ารายเดียวเท่านั้น ซึ่งวันนี้ตนเองก็บอกความรู้สึกไม่ถูก เพราะก็เป็นขั้นตอนการทำธุรกิจตามปกติ และได้ให้ข้อมูลกับตำรวจไปทั้งหมดแล้ว