ตำรวจเตรียมนำตัวนายเกมผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุกับชาวญี่ปุ่น นำชิ้นส่วนศพที่ถูกฆ่าหั่นไปตระเวนทิ้งเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมก่อนที่จะนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนนทบุรีในช่วงบ่ายวันนี้ ขณะที่พ่อของนายเกม เข้าเยี่ยมลูกพร้อมกับปฏิเสธที่จะตอบคำถามกับสื่อมวลชน ส่วนผู้ต้องหาชาวญี่ปุ่นที่ยังหลบหนีอยู่อีกสองคนตำรวจอยู่ระหว่างเร่งไล่ล่าติดตามตัว

ช่วงเช้าวันนี้พนักงานสอบสวน นำตัวนายกฤษกร หรือเกมส์ ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันก่อเหตุฆ่าหั่นศพ นายเรียวสุเกะ คาบาชิม่า มาสอบปากคำเพิ่มเติม หลังแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับในข้อหา ร่วมกันซ่อนเร้นอำพรางศพฯ และพาไปชี้จุดประกอบคำรับสารภาพ เมื่อวานนี้ (24 เม.ย. 67)

โดยพบว่า ระหว่างการสอบปากคำนายเกมส์ พ่อของนายเกมส์ร่วมให้ปากคำด้วยผู้สื่อข่าวสอบถาม พ่อของนายเกมส์ ระหว่างที่เดินออกมาจากห้องสอบสวน ถึงการกระทำของนายเกมว่าได้ร่วมก่อเหตุจริงหรือไม่ อยากจะขอความเป็นธรรมให้กับนายเกม หรือไม่ และนายเกมส์ ได้ฝากบอกอะไรหรือไม่ เครียดหรือไม่ แต่พ่อของนายเกมส์ ยกมือปฏิเสธตอบคำถาม ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องสอบสวนด้วยสีหน้าเคร่งเครียดทันที

โดยหลังสอบปากคำในวันนี้ พนักงานสอบสวนจะคุมตัวนายเกมส์ ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนนทบุรี ซึ่งพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว

ส่วนความคืบหน้าการติดตามตัว นายคาโต้ และนายซูซูกิ ผู้ต้องหาชาวญี่ปุ่นที่อยู่ระหว่างหลบหนีนั้น ขณะนี้ชุดสืบสวนยังเร่งติดตามตัว ยังไม่สามารถจับกุมตัวได้ตามที่เป็นกระแสข่าว และเบื้องต้นเชื่อว่า ทั้งสองผู้ต้องหายังอยู่ภายในประเทศไทย

ทั้งนี้แนวทางการสืบสวนระบุว่า โกดังภายในซอยสวิง 1 หมู่ที่ 4 ต.พิมลราช ซึ่งเป็นจุดฆ่าหั่นศพนายเรียวสุเกะ คาบาชิม่า มีชื่อผู้เช่าโกดังคือ นายเกมส์ หนึ่งในผู้ต้องหาที่ขับรถให้กับ 2 ผู้ต้องหาชาวญี่ปุ่นคือ นายซูซูกิ และนายคาโต้ โดยทำสัญญาเช่าเดือนละ 20,000 บาท และเช่ามาแล้ว 2 เดือน ซึ่งจากข้อมูลอ้างว่า เป็นการเช่าเพื่อเก็บชิ้นส่วนนำเข้าอะไหล่รถยนต์ แต่ยังไม่เคยปรากฏการนำชิ้นส่วนดังกล่าวเข้ามาเก็บในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา

และแนวทางการสืบสวนยังพบอีกว่า อุปกรณ์ที่ใช้ในการหั่นศพ ไม่ได้เพิ่งจะมีการซื้อหลังจากฆ่านายเรียวสุเกะแล้ว แต่มีการทยอยซื้อไว้ก่อนหน้านั้นบางส่วนแล้ว

ทั้งนี้ ยังพบว่า นายเกมส์ รู้จักกับกลุ่มผู้ต้องหาและผู้เสียชีวิตชาวญี่ปุ่น จากการที่มีพี่ชายเป็นล่าม และชาวญี่ปุ่นติดต่อผ่านล่าม ต้องการให้หาคนขับรถให้ จึงได้เป็นที่มาของการที่นายเกมส์ไปเป็นคนคอยขับรถ เพราะนายเกมส์ พูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้

ช่วงบ่ายที่ผ่านมาตำรวจนำตัวนายกฤษกร หรือ “เกมส์” อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันก่อเหตุฆ่าหั่นศพนายเรียวสุเกะ คาบาชิม่า อายุ 47 ปี ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนนทบุรี โดยเจ้าตัวอยู่ในสภาพอิดโรย สวมแมสสีขาวปิดปาก และใส่หมวก ก่อนเดินขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหาไป ในจังหวะนี้ ทีมข่าวของเราได้สอบถามนายเกมถึงประเด็นต่างๆ ตอนแรกเจ้าตัวยังไม่ยอมตอบ และทำท่าว่าเมื่อไหร่เจ้าหน้าที่จะออกรถ แต่พอทีมข่าวค่อยๆ ถามไปสักพัก เจ้าตัวเริ่มตอบคำถาม โดยตอบคำถามแรก เมื่อถามว่ารู้สึกผิดในการกระทำหรือไม่ เจ้าตัวตอบว่า “รู้สึกผิดสิครับ แต่ผมพูดไปหมดแล้ว”

เมื่อถามต่อว่าอยากจะบอกอะไรกับผู้เสียชีวิตหรือไม่ นายเกม บอกว่า “ผมไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุฆ่ากัน ผมไม่รู้มาก่อน ผมมารู้ตอนหลังว่าเขาฆ่ากันแล้ว เขาบอกแค่ให้ผมมาขับรถ ผมรู้แค่นี้”

ส่วนเมื่อถามว่า 2 ผู้ต้องหาชาวญี่ปุ่นขู่อย่างไร และสื่อสารกันอย่างไร เนื่องจากตัวเองพูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้นั้น นายเกม บอกอีกว่า “ขู่เป็นภาษามือ เขาทำท่า แต่ผมทำท่าให้ดูไม่ได้ พูดไม่ได้” ส่วนการขู่ ไม่ได้เอาปืนมาขู่ เพราะเห็นอีกทีก็ตอนยิงแล้ว ตอนเขาขับรถมาจากร้านอาหาร ตอนนั้นยังไม่เห็นปืน”

โดยทีมข่าวถามย้ำว่ารู้หรือไม่ว่าแก๊งนี้โหดนั้น นายเกมส์บอกว่า “ผมไม่ได้สุงสิงกับเขา รู้จักกันแค่ช่วงเวลาสั้นๆ” ส่วนเมื่อถามว่าเสียใจหรือไม่นั้น นายเกมส์ ตอบว่า “เสียใจครับ พร้อมยอมรับสภาพหลังจากนี้“

ส่วนเรื่องการเช่าโกดังที่เกิดเหตุ ยอมรับว่าเป็นคนไปเซนชื่อเช่าจริง และได้ค่าจ้างตอบแทน จำนวนเงิน 1,000-2,000 บาท แต่ยืนยันว่าไม่รู้มาก่อนว่าเขาเช่าไปทำอะไร แค่เขามาจ้างเซ็นชื่อ เพราะถ้ารู้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น จะไม่ทำแน่นอน คงไม่เช่ารถให้เอาไปฆ่ากันหรอก แค่จะหารายได้พิเศษ” และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าวันนี้จะประกันตัวหรือไม่นายเกมปฏิเสธไม่ตอบคำถาม

จากนั้นตำรวจได้ปิดประตูรถ และนำตัวนายเกมส์ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนนทบุรีทันที

ภายหลังจากที่พ่อของนายเกมส์ ได้เข้าเยี่ยมลูกชายและ เข้าร่วมฟังระหว่างลูกชายถูกพนักงานสอบสวนสอบปากคำเพิ่มเติม ได้เดินออกมาจากห้องสอบสวน ระหว่างเดินไปที่รถ ด้วยสีหน้าที่ลักษณะมีความกังวลคล้ายกับมีความเป็นห่วงลูก พร้อมบอกเพียงสั้นๆ ว่า “อย่าให้ผมพูดเลยครับ ให้รอฟังจากทางตำรวจเถอะครับ ส่วนลูกชายทำอาชีพเป็นไรเดอร์” ส่วนประเด็นอื่นๆ โดยเฉพาะเรื่องจะไปประกันตัวลูกชายหรือไม่ ผู้เป็นพ่อ “ไม่ตอบ” ก่อนจะขับรถฮอนด้าสีขาวออกจาก สภ.บางบัวทองไปทันที

และจากกรณีคำให้การของ นายกฤษกรหรือเกมส์ หนึ่งในผู้ต้องหาชาวไทยที่ร่วมในขบวนการฆ่าหั่นศพ ได้มีการเปิดเผย เกี่ยวกับไทม์ไลน์ก่อนและหลังก่อเหตุ ว่าวันที่ 27 มีนาคม 2567 เวลาประมาณ 14.56 น. ได้แวะที่ปั๊มน้ำมัน สาขาบางบัวทอง และไปจอดคิดและวางแผน แถวลานจอดของ แมคโดนัลด์ สาขาเดอะวันบางบัวทอง เป็นเวลา 15 นาที ก่อนที่จะ ขับออกจากลานจอดของห้างติดกับปั๊มน้ำมัน เพื่อที่จะมุ่งหน้าไปที่ห้างอีกแห่งเพื่อซื้ออุปกรณ์เพิ่ม ก่อนกลับที่โกดังเพื่อร่วมกันหั่นศพที่ถูกฆ่าไปแล้วนั้น

ทีมข่าวช่องแปด ตรวจสอบ โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิด บนถนนกาญจนาภิเษก (บางบังทอง) จับภาพ วันที่ 27 มีนาคม 2567 เวลา 14.56 น. รถเก๋งนิสสันสีแดง ซึ่งมีในกฤษกรหรือเกมส์ เป็นคนขับ โดยขับมุ่งหน้าไปที่ปั๊มน้ำมันและแมคโดนัลด์ ก่อนเลี้ยวเข้าไปจอดวางแผน ซึ่งมีภาพจากกล้องวงจรปิดวงจร 2 มุม จับภาพเอาไว้ได้ โดยรถขับมาตามปกติ ใช้ทางร่วมกับรถบนถนน ซึ่งมีการปิดกระจกขับ ไม่ได้มีการลดกระจก

จากนั้น มีภาพจากกล้องวงจรปิด ภายในภายในปั๊มน้ำมัน และแมคโดนัลด์ จับภาพวันเดียวกัน 27 มีนาคม 2567 เวลาประมาณ 14.58 น. ซึ่งจะเห็นว่า รถนิสสันสีแดง ที่มีนายกฤษกรหรือเกมส์ เป็นคนขับ ได้มีการขับเข้ามาภายในปั๊ม เพื่อหาที่จอด

และหลังจาก กล้องวงจรปิดเห็นว่ามีการเลี้ยวเข้ามาภายในปั๊มแล้ว ได้เลี้ยวไปที่ด้านหลังแมคโดนัลด์ ซึ่งเป็นลานจอด ที่มีรถจอดอยู่ไม่กี่คัน โดยนายเกมส์ ได้ขับถอยหลังเข้าจอด ซึ่งจังหวะถอยหลังนั้นจะเห็นว่ามีการลดกระจก เห็นคนขับชัดเจน มีบางช่วงที่เจ้าตัวชะโงกออกมาดู ว่าจอดตรงแนวเส้นหรือไม่ ก่อนที่จะปิดกระจก และจอดนิ่งเงียบอยู่ประมาณ 10 ถึง 15 นาที ซึ่งช่วงเวลาที่มีการจอดรถนิ่งที่ลานจอดนั้น ไม่พบว่ามีใครเดินลงจากรถ ลักษณะจอดเพื่อวางแผนเท่านั้น , ก่อนที่จะขับออกจากลานจอด ขับไปบนถนนกาญจนาภิเษก มุ่งหน้าไปที่ห้างแห่งหนึ่ง เพื่อซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติม

หลังจากนั้นวงจรปิดวันที่ 28 มีนาคม จะเห็นรถเก๋งคันดังกล่าวขับเข้ามาในซอย แต่สิ่งผิดปกติที่เห็นนั้น คือมีขอบถุงดำโผล่ออกมาจากท้ายรถ

ต่อมาทีมข่าวช่องแปดได้รับภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งเป็นโกดังฝั่งตรงข้ามจุดที่มีการทิ้งชิ้นส่วนศพ วันที่ 30 มีนาคม เวลาประมาณ 14:27 น. จะเห็นว่ารถเก๋งสีขาวซึ่งมีแผ่นป้ายทะเบียน ติดทั้งด้านหน้าและด้านหลัง มีการขับขับออกจากโกดังท้ายซอยซึ่งเป็นจุดหั่นศพ จากนั้นมีการขับไปที่บ่อน้ำกลางซอยสวิงก่อน โดยมีลักษณะจอด และเห็นคนเปิดประตูลงจากรถ แล้วมีลักษณะคล้ายคล้ายกับมีการโยนวัตถุบางอย่างซึ่งคาดว่าเป็นถุงดำ ก่อนที่รถจะถอยหลัง และเลี้ยวรถกลับไปที่โกดังที่เดิม