วันที่ 23 เม.ย. 2567 ทางพนักงานสอบสวน สภ.สันกำแพง เชียงใหม่ได้รับแจ้งว่ามีเหตุฆ่ากันตาย 3 ศพ ที่บ้านเช่าในซอยหลังร้านอาหารพื้นเมืองชื่อดัง ถนนดอนจั่น แม่ออน ต.บวกค้าง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว พบศพ 3 ศพ นอนตายอยู่ในบ้านจึงแจ้งแพทย์ รพ.สันกำแพง และเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเชียงใหม่ รุดมาร่วมตรวจสอบ




ในบ้านที่เกิดเหตุ เป็นบ้านสองห้องนอน บริเวณห้องนอนด้านทิศเหนือ พบศพ นางนานอ่อน อายุ 29 ปี ชาวไทยใหญ่ นอนตายอยู่บนเตียง สภาพศพถูกปาดคอด้วยมีดปลายแหลมทำครัวยาว 20 นิ้ว นอนตายจมกองเลือดอยู่ ที่ประตูห้องนอนพบศพ นายซานทวย อายุ 38 ปี ชาวไทยใหญ่ สามีใช้เชือกในล่อนผูกคอตัวเองห้อยกับขื่อประตูห้องนอน และห้องนอนด้านทิศใต้พบศพ  ด.ช.ธนพล หรือ น้องหนึ่ง อายุ 9 ขวบ ถูกจับแขวนคอด้วยเชือกห้อยกับขื่อราวประตู 




แพทย์เวรตรวจสภาพศพแล้วลงความเห็นว่า ศพทั้งสามเสียชีวิตมาแล้ว 8 ถึง 12 ชั่วโมง ในเบื้องต้นคนร้ายน่าจะเป็นบุคคลที่พักอาศัยในบ้านเดียวกัน สอดคล้องกับตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้ตรวจที่เกิดเหตุ พบว่าคนก่อเหตุน่าจะเป็นบุคคลในบ้าน ไม่มีบุคคลภายนอกเข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะก่อนที่จะพบศพประตูรอบบ้านล็อกด้านในไว้อย่างดี ขณะเดียวกันตำรวจยังพบสุราในห้องครัวที่เพิ่งดื่มไปจนหมดขวด และมีดในห้องนอนเปื้อนเลือดนั้น น่าจะเป็นมีดทำครัว




หลังจากที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้วทางพนักงานสอบสวน แพทย์ และตำรวจพิสูจน์หลักฐานลงความเห็นร่วมกันเบื้องต้นว่า ผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นสามีได้ใช้มีดปาดคอเมียจนเสียชีวิต ก่อนที่จะจับบีบคอลูกชายให้ตายและจับแขวนคอ แล้วสามีก็แขวนคอฆ่าตัวตายตามเป็นศพที่ 3 ส่วนในบ้านที่เกิดเหตุ ยังพบทรัพย์สินคนตายเป็นรถ จยย. สองคันยังจอดอยู่ข้างบ้าน 




จากการสอบสวน นายวัน อายุ 36 ปี ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ก่อนหน้านั้นได้รับแจ้งจากนายจ้างว่า คนทั้งสองไม่ไปทำงาน โทรศัพท์มาหาก็ไม่รับจึงให้ตนมาตาม มาเคาะบ้านก็ปิดหมดจึงไปเขย่าประตูห้องครัวด้านหลังจนเปิดออก จึงเดินเข้าไปดูก็พบศพตายอยู่ในบ้าน จึบแจ้งให้นายจ้างทราบและพาตำรวจไปดูจุดที่เข้าไปด้วย


ด้าน นางสาวแก้ว (นามสมมติ) เจ้าของร้านหมูจุ่ม ใกล้ที่เกิดเหตุและเป็นนายจ้างของฝ่ายนางนานอ่อน เล่าให้ฟังว่า ฝ่ายนายซานทวย ทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟอยู่ร้านขายอาหารพื้นเมือง ปากซอยเข้าบ้านเช่า และบ้านหลังเกิดเหตุนายจ้างได้เช่าให้ลูกจ้างพักอยู่กับภรรยาและบุตรชาย ส่วนสาเหตุการก่อเหตุนั้น ลูกน้องไม่เคยเล่าให้ฟังเพราะเป็นเรื่องส่วนตัว ซึ่งโดยปกติแล้วพนักงานที่นี่ก็จะไม่ค่อยยุ่งเรื่องส่วนตัวกัน




วันนี้ตนพยายามติดต่อนางนานอ่อนตั้งแต่เช้า เพราะนางนานอ่อนถือกุญแจเปิดร้านไว้ โดยปกติต้องมาเปิดเวลา 9 โมงเช้า แต่วันนี้หายเงียบไปตนจึงพยายามติดต่อแต่ก็ติดต่อไม่ได้ จากนั้นจึงพยายามติดต่อไปฝั่งเจ้านายของนายซานทวย เจ้านายจึงประสานงานให้เพื่อนร่วมงานของนายซานทวยไปตามที่บ้าน เมื่อไปถึงก็พบเป็นศพแล้ว ซึ่งปกติก็เห็นว่านายซานทวยมาหานางนานอ่อนที่ร้านเป็นประจำ เขาดูรักลูก รักเมียมาก แต่จะเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ค่อยพูด วันนี้เสียใจเป็นอย่างมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น ยังทำใจไม่ได้เลย เพราะนางนานอ่อนนั้นเป็นคนอัธยาศัยดี เป็นที่รักของเพื่อนร่วมงานและร่าเริงแจ่มใส




ล่าสุดวันนี้ทางทีมข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุพบ นายณัฐทกรณ์ พี่เขยของ นางนานอ่อน ผู้เสียชีวิต นำทีมข่าวเข้าไปยังในบ้านจุดเกิดเหตุ พร้อมชี้จุดเสียชีวิตของทั้ง 3 ศพ โดยนายณัฐทกรณ์ เผยกับทางทีมข่าวว่า คนที่มาเห็นศพคนแรกคือ เพื่อนร่วมงานของนายซานทวย เนื่องจากปกตินางนานอ่อนต้องไปเปิดร้านหมูจุ่มที่ตนทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟในทุกวัน 9 โมงเข้า แต่วันนี้กลับเงียบไม่มีการเดินทางไปที่ร้าน ทางเจ้าของร้านจึงพยายามติดต่อ แต่ติดต่อไม่ได้ จึงประสานไปยังร้านที่ฝั่งนายซานทวยทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟอยู่เช่นกัน


จากนั้นเจ้านายของนายซานทวย จึงให้เพื่อนร่วมงานนายซานทวยมาตามที่บ้าน เมื่อมาถึงพบว่าบ้านปิดเงียบ ล็อกทุกทาง เพื่อนร่วมงานของนายซานทวยจึงเปิดประตูเข้าทางหลังบ้าน ซึ่งพยายามดึงแค่นิดเดียว ประตูก็สามารถเปิดออกได้โดยง่าย จึงเดินเข้าไปเรียกผ่านห้องครัว ปรากฏว่าพบศพนายซานทวยแขวนคออยู่บริเวณประตูห้องฝั่งขวา เมื่อหันไปฝั่งซ้ายก็พบเป็นลูกชายวัย 9 ขวบแขวนคออยู่เช่นกัน จากนั้นเพื่อนร่วมงานจึงรีบแจ้งไปยังเจ้านาย และนำเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือ




ซึ่งนายนายณัฐทกรณ์ ชี้จุดเกิดเหตุแต่ละจุดให้ทีมข่าวดู จุดแรกเป็นจุดพบศพของหลายชายวัย 9 ขวบ จุดที่ 2 ซึ่งเป็นห้องตรงข้ามกัน และประตูห้องเยื้องกัน เป็นจุดพบศพนายซานทวย ผูกคออยู่ และเมื่อเข้าไปในห้อง บนเตียงคือจุดพบศพนางนานอ่อน เสียชีวิตคาเตียง จากภาพเบื้องต้นเมื่อทีมข่าวเดินเข้าไปภายในบ้าน ปรากฏว่าเต็มไปด้วยคราบเลือด และกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง มีเลือดบริเวณปลอกหมอน และบริเวณเตียงข้างในห้องเต็มทั้งที่นอน สภาพบ้านยังคงอยู่ในสภาพเดิมขณะเกิดเหตุ


ทั้งนี้นายณัฐทกรณ์ บอกว่า ปมการก่อเหตุน่าจะมาจากความหึงหวง เพราะทางด้านนางนานอ่อน เคยไประบายให้หลานสาวฟังว่า อยากเลิกกับนายซานทวย เนื่องด้วยไม่เคยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่ผ่านมา ไม่ว่าจะ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่างวดรถ นางนานอ่อนก็ต้องรับผิดชอบทั้งสิ้น เมื่อนายซานทวยทราบเรื่องจึงพูดขู่ตลอดว่า ถ้าเลิกกับเขาไปอย่าหวังว่าจะมีชีวิตอยู่ ถ้ากูไม่ได้ ใครหน้าไหนก็ไม่ได้ทั้งสิ้น ทั้งนี้นายซานทวยยังเป็นคนเก็บตัวเงียบ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ไม่ค่อยพูดค่อยจา จึงคาดได้ว่าประเด็นหลักๆในการก่อเหตุน่าจะเกิดจากปมนี้แน่นอน

 

ฆ่าโหดยกครัว! แทงคอเมีย - เชือกแดงแขวนคอลูกน้อย