จากกรณีการหายตัวไปของป้าเล็ก อายุ 50 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่ ตำบลเกาะหลัก อำเภอเมืองประจวบฯ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่คืนวันที่ 21 เมษายน 2567 เวลาประมาณ 20.30 น. หลังจากนั้นทางญาติ และชาวบ้านได้ระดมกันค้นหาภายในหมู่บ้านหมู่บ้านและใกล้เคียง จน ในวันที่ 22 เมษายน 2567 เวลาประมาณ 18.00น. ได้มีชาวบ้าน ไปพบกับรถจักรยานยนต์ของป้าเล็ก จอดอยู่บริเวณริมเขื่อนอ่างเก็บน้ำภายในหมู่บ้าน จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัย ค้นหาภายในอ่างเก็บน้ำ จนถึงในช่วงดึก แต่ก็ไม่พบ จึงได้ยุติการค้นหา จากนั้นในช่วงเช้า ของวันนี้ จึงได้ค้นหาต่อเนื่อง ภายในอ่างเก็บน้ำและบริเวณใกล้เคียงจุดที่พบรถจักรยานยนต์ จนกระทั่งเวลาประมาณ 12.30 น. จึงได้ไปพบร่างของป้าเล็ก เสียชีวิตอยู่ภายในบ่อน้ำกลางไร่สับปะรด โดยสภาพศพนอนคว่ำหน้า ไม่สวมเสื้อ และไม่สวมรองเท้า โดยมีต้นกกนำมาสุมปิดอำพรางศพ

นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณร้านค้า กลางหมู่บ้านซึ่งป้าเล็กไปซื้อของก่อนที่จะหายตัวไป โดยภาพวงจรปิดบริเวณ ร้านค้ากลางหมู่บ้านสามารถจับภาพเล็กได้ในช่วงวันที่ 21 เมษายน 2567 เวลาประมาณ 20.32 น. จะเห็นป้าเล็กเข้าไปซื้อของภายในร้านค้าบริเวณกลางหมู่บ้าน

จากนั้นเวลาประมาณ 20.41 น. กล้องของบ้านชาวบ้านที่อยู่ใกล้กับสำนักสงฆ์ สามารถจับภาพ ป้าเล็กซึ่งขี่รถจักรยานยนต์มุ่งหน้าไปทางสำนักสงฆ์ซึ่งอยู่ห่างจาก จุดที่กล้องจับภาพได้ประมาณ 300 เมตร

วันนี้ (23 เม.ย.) ช่วงเวลาประมาณ 18.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ. เมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้ควบคุมตัวนายสม จากสภ. สามร้อยยอด มาสอบสวนที่สภ. เมืองประจวบคีรีขันธ์ เนื่องจากนายสมได้รับสารภาพว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการตายของป้าเล็ก ซึ่งหลังจากที่เดินทางถึง สภ. เมืองประจวบคีรีขันธ์ ทีมข่าวก็ได้เข้าไปพยายามสอบถามถึง เรื่องราวและสาเหตุที่เกิดขึ้น แต่ในสวนก็ไม่ได้พูดอะไร โดยหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ. เมืองประจวบคีรีขันธ์จึงได้นำตัวนายสมเข้าไปภายในห้องสืบสวน โดยหลังจากนั้นทีมข่าวจึงได้สอบถามและพูดคุยกับ นายศรัณย์ กลั่นประเสริฐ อายุ 52 ปี นายจ้างของผู้ต้องสงสัย เปิดเผยว่า

 “ตนเป็นเพื่อนกลับนางเล็ก และเป็นนายจ้างของนายสม โดยนายสม กับนางเล็ก เคยเป็น ผัวเมียกัน แต่ได้เลิกราแล้ว โดยนายสมปกติ จะเลี้ยงวัวอยู่ที่สำนักสงฆ์ร้างใกล้กับจุดพบศพ หลังจากที่ นางเล็กหายตัวไปเมื่อวันที่ 21 เมษายน ตนและนายสมรวมถึงญาตินางเล็ก ก็ได้ไปช่วยกันค้นหา นางเล็ก ตรงจุดพบศพ ก็เห็นว่านายสม ไม่ได้มี ท่าทางผิดปกติอะไร แต่ตนเกิดความสงสัย ในตัวนายสมว่าจะ มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะจากการพูดคุย กับสามีนางเล็กคนปัจจุบัน ให้ข้อมูลบอกว่า รู้สึกสงสัยในตัวนายสม โดยในวันค้นหา เมื่อวานนี้ ตนก็ได้พูดแซวนายสมว่า นายสมเป็นผู้ต้องสงสัย นายสมก็ไม่ได้มีท่าทาง ตื่นตกใจ ได้แต่ หัวเราะและยิ้ม เจื่อนๆ จากนั้น ก็ไม่เห็นนายสมอีกเลย

จากนั้นหลังจากพบศพนางเล็กตนจึงโทรไปหานายสม เพื่อที่จะเกลี้ยกล่อม ให้มอบตัวกับตำรวจ กระทั่งนายสม ยอมรับสารภาพ โดยนายสมบอกว่า ในคืนวันที่ 21 นางเล็ก ได้โทรมาหาและบอกว่าจะเข้ามาหาที่สำนักสงฆ์ร้าง จากนั้นนางเล็กก็ เข้ามาหาพร้อมกับซื้อเบียร์มา 1 กระป๋อง แล้วก็นั่งกินเบียร์กันพอเบียร์หมด ก็มีเพศสัมพันธ์กัน ในสำนักสงฆ์ร้าง และพอกินเสร็จ นายสมก็แต่งตัว แล้ว กลับบ้านส่วนนางเล็ก บอกว่า ขอนอนพักอยู่ในสำนักสงฆ์ก่อน จากนั้น เช้ามืดของอีกวัน นายสมก็กลับมาที่สำนักสงฆ์ร้าง และเห็นว่านางเล็กนอนเสียชีวิตแล้ว ด้วยความตกใจ จึงเผาโทรศัพท์นางเล็กเพื่อทำลายหลักฐานและแบกร่างนางเล็ก ไปใส่ท้ายรถกระบะ แล้วนำไปทิ้ง ที่จุดเกิดเหตุ แล้วก็ขี่จักรยานยนต์ ของนางเล็กไปจอดทิ้งไว้ จากนั้นก็มาใช้ชีวิตปกติ และ ช่วยตามหานางเล็ก กระทั่งพบศพนายสมก็นั่งรถตู่หนีไปก่อนจะไปมอบตัวกับตำรวจที่ สภ.สามร้อยยอด

ส่วนร่องรอยบาดแผล ตามร่างกายนางเล็ก นายสมบอกว่า ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกาย หรือมีปากเสียง อะไรกับนางเล็ก ตรงนี้ ต้องรอผลตรวจพิสูจน์ จากแพทย์ว่าเกิดจากอะไร”

จากนั้นทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางน้อย (นามสมมติ) อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของ ผู้ต้องสงสัย โดยได้เปิดเผยกับทีมข่าวว่า

“ตนได้อยู่กินกับนายสมมาประมาณหกปี ก็ไม่อยากเชื่อว่านายสมจะสามารถฆ่าคนได้ ซึ่งในวันที่เกิดเหตุคือวันที่ 21 เมษายนนั้น นายสมได้โทรหาตน ว่าจะมานอนเป็นเพื่อนที่สำนักสงฆ์หรือไม่ แต่ตนได้ปฏิเสธไป และได้บอกให้นายสมคำมาที่บ้านเพื่อที่จะได้นอนแบบสบาย โดยไม่ต้องไปนอนลำบากที่สำนักสงฆ์ แต่ในช่วงนั้น วัวที่นายสมได้เลี้ยงไว้ได้คลอดลูกแต่แม่ของมันตายจึงต้องคอยดูแลลูกวัว โดยหลังจากนั้น ช่วงดึกนายสมก็กลับบ้านตามปกติ โดยไม่มีอะไรผิดสังเกต แต่ในเรื่องโทรศัพท์นั้นตนไม่เคยยุ่งของนายสม และไม่เคยเปิดดู

โดยปกติแล้วตนก็ทราบว่านายสมได้คุยอยู่กับนางเล็กในลักษณะเพื่อน และทราบว่าก่อนหน้านี้เค้าเคยเป็นสามีภรรยากันมาก่อน แต่ตนก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะคิดว่านายสมคบหากับนางเล็กเป็นเพื่อนธรรมดา ซึ่งพอมา ทราบว่านางเล็กขายตัวไป ตนยังถามกับนายสมว่าได้โทรหานางเล็กหรือไม่ แต่เขาก็ตอบปฏิเสธ จนกระทั่งพบศพนางเล็ก ตนก็ยังโทรไปสอบถามว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับการตายของนางเล็กหรือไม่นายสมก็ยังปฏิเสธกับตน จนกระทั่งตนมาทราบจากนายจ้างซึ่งเป็นผู้เกลี้ยกล่อมให้นายสมมอบตัว ว่านายสมรับสารภาพแล้ว ตนยังรู้สึกตกใจ ว่าทำไมนายสมทำกับตนเช่นนี้ได้ แต่คำรับสารภาพของนายสมก็ได้บอกว่าตัวเขาไม่ได้เป็นคนฆ่า เพียงแต่เขามีอะไรกันแล้วนางเล็กเสียชีวิตเอง ตนก็ยังย้ำถามว่าทำไมนายสมทำกับตนแบบนี้ ซึ่งในตอนนี้ต้นก็ยังไม่ได้คุยกับนายสมเลยตั้งแต่นายสมถูกควบคุมตัว โดยหลังจากนี้ก็จะต้องคุยกับลูกอีกทีว่าจะดำเนินการเช่นไรต่อ ทั้งนี้ในตอนนี้ตนรู้สึกตกใจและเสียใจที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น”