จากกรณี เมื่อเวลา 21.59 น. วันที่ 21 เมษายน 2567 มูลนิธิสยามรวมใจ(ปู่อินทร์) ได้รับแจ้งมีผู้บาดเจ็บโดนทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีด ภายในการเคหะบึงกุ่ม ซอยเสรีไทย 43 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร จึงไปตรวจสอบพบ ผู้บาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย ถูกแทงมีบาดแผลที่ราวนมด้านซ้ายทะลุหลัง หมดสติ ไม่หายใจ ไม่ตอบสนองต่อการทำ cpr กู้ชีพพรัตนฯยืนยันเสียชีวิตก่อนรถกู้ภัยไปถึง โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในท้องที่สน.บึงกุ่ม และทราบชื่อผู้ตายต่อมาคือ นายนพอนันต์ อายุ 42 ปี ส่วนผู้ก่อเหตุคือนาย ปฏิพัทธ์ เป็นไรเดอร์ส่งอาหาร และเป็นผู้เช่าห้องที่อยู่ห้องเยื้องๆกับห้องผู้ตาย รอมอบตัวกับตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ

 

ล่าสุดวันนี้(22 เม.ย.67) ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ ที่เคหะบึงกุ่ม ซอยเสรีไทย43 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร

 

โดยลักษณะจุดเกิดเหตุจะอยู่บริเวณใต้อาคาร 22 ซึ่งตรงพื้นยังคงมีร่องรอยคราบเลือดของผู้ตายติดอยู่ ส่วนบริเวณห้องของผู้ตายและผู้ก่อเหตุ จากการตรวจสอบห้องของผู้ตายจะอยู่เยื้องๆกับห้องของผู้ก่อเหตุที่บริเวณชั้น 5 และมีระยะห่างกันไม่เกิน 5 เมตร

 

ส่วนภาพจากกล้องวงจรปิดที่อาคารซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ จะเห็นว่า ก่อนจะเกิดเหตุ นายปฏิพัทธ์ คนก่อเหตุที่ใส่เสื้อไรเดอร์สีเหลือง และนางพร (นามสมมติ) ซึ่งเป็นภรรยาที่ใส่เสื้อไรเดอร์สีเขียว มีการนั่งเตรียมของขึ้นบนห้องกันอยู่ที่ชั้นล่างสุด

 

จนกระทั่งเวลา 21.47 น. นายนพอนันต์ ผู้ตายที่ใส่เสื้อสีชมพู ได้เปิดประตูห้องออกมาและมีการเดินลงไปที่ชั้นล่าง

 

จากนั้นเมื่อนายนพอนันต์ ผู้ตายเดินลงไปเจอกับคนก่อเหตุที่ชั้นล่าง จะเห็นว่าผู้ตายมีการเดินเข้าไปคุยกับผู้ก่อเหตุ แต่ก็คุยกันไม่รู้เรื่อง ซึ่งจะเห็นว่านายปฏิพัทธ์ ผู้ก่อเหตุมีการต่อยผู้ตายก่อน จากนั้นทั้งคู่ก็ยื้อยุดฉุดกระชากกัน ส่วนนางพร ซึ่งเป็นเมียของคนก่อเหตุยืนดูโดยไม่ได้เข้าไปห้าม กระทั่งผู้ก่อเหตุก็มีการชักมีดออกมาจากกระเป๋า จากนั้นในจังหวะที่ผู้ตายล้มจะเห็นว่านายปฏิพัทธ์ ได้มีการใช้มีดแทงผู้ตาย 1 ครั้ง และจะเห็นว่าเพื่อนบ้านที่ใส่เสื้อสีน้ำเงิน ได้มีการเข้ามาขอมีดจากมือของปฏิพัทธ์ไป แต่นายปฏิพัทธ์ ก็ไม่ยอมหยุด ซึ่งจะเห็นเขามีการต่อยผู้ตายซ้ำและลุกขึ้นมาเตะหน้าผู้ตาย จากนั้นเมื่อผู้ตายได้ตั้งตัวได้ จะเห็นว่าผู้ตายพยายามลุกขึ้นและเดินตามเพื่อนบ้านไป แต่ก็เดินไปได้ไม่กี่ก้าวและทรุดตัวลงไปนั่งและนอนลงที่พื้น

 

จากนั้นก็จะมีบางช่วงบางตอนที่จะเห็นว่าผู้ตาย พยายามลุงขึ้นมานั่ง และจะเห็นว่านายปฏิพัทธ์ ผู้ก่อเหตุก็ไม่ช่วย โดยยังมีการยืนด่าผู้ตาย จากนั้นก็เดินไปหยิบโทรศัพท์และนำโทรศัพท์ที่เปื้อนเลือดไปเช็ดที่เสื้อของผู้ตาย ส่วนคลิปวงจรปิดถัดไปที่เป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องกัน จะเห็นว่านายปฏิพัทธ์ มีการเดินถือมีดไปเช็ดเลือดตรงหน้าผู้ตาย และเดินเอามีดไปส่งให้เมียเก็บเข้ากระเป๋าไรเดอร์ที่ท้ายรถ จยย.

 

ส่วนคลิปถัดไปจะเห็นว่าทั้งคนก่อเหตุและเมียคนก็ มีการเดินไปเดินมา แต่ก็ไม่ช่วยเหลือผู้ตาย และจะเห็นว่าเมื่อมีชาวบ้านเริ่มเข้ามาในที่เกิดเหตุ นายปฏิพัทธ์ ผู้ก่อเหตุ มีการเดินถือของขึ้นไปบนห้อง และเมื่อเข้าไปในห้องได้สักพัก ก็จะเห็นว่านายปฏิพัทธ์ มีการเปลี่ยนเสื้อเป็นสีแดง จากนั้นก็เดินลงไปที่ชั้นล่าง

 

จากนั้นไม่นานก็จะเห็นพ่อแม่ของผู้ตาย เดินลงจากห้องไปดูอาการของผู้ตาย ซึ่งในช่วงที่พ่อแม่ยืนอยู่ ก็จะเห็นนายปฏิพัทธ์ ผู้ก่อเหตุยืนดูกู้ภัย ปฐมพยาบาลผู้ตายอยู่ตรงจุดเกิดเหตุ ซึ่งต่อมาภาพอีกมุมจะเห็นว่าในขณะที่ ชาวบ้านเริ่มเข้ามาเยอะ ทางกู้ภัยต้องมีการนำตัวนายปฏิพัทธ์ เดินไปขึ้นรถกู้ภัยเพื่อรอตำรวจ เพราะตามข้อมูลชาวบ้านในพื้นที่เริ่มไม่พอใจเมื่อรู้ว่านายปฏิพัทธ์ เป็นคนก่อเหตุ และก็จะมีบางช่วงบางตอนที่ชาวบ้านพยายามเดินไปล้อมรถกู้ภัยแต่ตำรวจมาระงับเหตุเอาไว้ก่อน

จากนั้นเมื่อเวลา 15.10 น.ในขณะที่ตำรวจคุมตัวนายปฏิพัทธ์ อายุ 25 ปี ออกจากห้องขังเพื่อพิมพ์ลายนิ้วมือ ทีมข่าวสังเกตเห็นว่า นายปฏิพัทธ์ ผู้ก่อเหตุ มีอาการเหม่อลอย แต่ให้ความร่วมมือกับตำรวจเป็นอย่างดี โดยข้อหาที่ตำรวจแจ้งเอาไวคือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และข้อหาพกพาอาวุธมีด ซึ่งวันนี้ตำรวจยังไม่ได้มีการสอบปากคำ เนื่องจากทนายความ ที่ต้องมาร่วมฟังการสอบปากคำตามกฎหมาย เลื่อนนัดเป็นวันพรุ่งนี้ในช่วงเช้า ซึ่งในขณะที่ตำรวจคุมตัวเข้าห้องขัง นักข่าวพยายามสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แต่นายปฏิพัทธ์ ผู้ก่อเหตุ ไม่หันมาตอบคำถามและเดินเข้าไปในห้องขัง

 

ด้าน นางอัจฉรานันท์ อายุ 71 ปี เป็นแม่ของผู้ตาย บอกว่า ก่อนจะเกิดเหตุประมาณสองวัน ยอมรับว่าลูกชายเคยมีปัญหากับคนก่อเหตุ ซึ่งคืนนั้นแม่ก็อยู่ในเหตุการณ์ และแม่ก็ได้ยินคนก่อเหตุเปิดประตูเสียงดัง จากนั้นลูกชายก็เปิดประตูห้องออกไปเตือนคนก่อเหตุว่า "มันดึกแล้วให้เปิดปิดประตูเสียงเบาๆหน่อย" แต่ผู้ก่อเหตุ ฉุนและพูดว่า "ถ้าไม่พอใจตัวต่อตัวก็ได้" ซึ่งเมื่อแม่เห็นท่าไม่ดีเพราะลูกชายก็เมา แม่ก็เลยดึงลูกชายเข้าห้องเพื่อไม่ให้ทั้งคู่ทะเลาะกัน แต่ปรากฏว่า เมื่อวานนี้ จู่ๆลูกก็เดินลงไปให้เขาแทงตาย

 

ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนตัวแม่ยอมรับว่าเสียใจมาก เพราะว่าลูกชายกำลังจะเดินทางไปทำงานที่พัทยา และเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ก็เพิ่งจะพ้นวันเกิดของลูกชายมาหมาดๆ ไม่คิดว่าแค่เรื่องที่ลูกชายไปเตือนจะกลายเป็นเรื่องที่ทำให้ลูกชายต้องมาตายแบบนี้ ซึ่งแม่มองว่าเขาทำเกินกว่าเหตุ ทะเลาะกันจบแค่การชกต่อยกันก็ได้ และอยากจะให้ตำรวจดำเนินคดีกับคนก่อเหตุให้ถึงที่สุด

 

จากนั้นทีมข่าวได้เดินทางไปติดตามความคืบหน้าทางคดี ที่ สน.บึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร โดยช่วงเที่ยงของวันนี้ นางพร (นามสมมติ) เมียของคนก่อเหตุ ไม่ได้เข้ามาเยี่ยมสามี โดยบรรยากาศที่หน้าห้องขังมีเพียงเพื่อนของคนก่อเหตุซื้อข้าวเข้ามาเยี่ยมนายปฏิพัทธ์

 

ซึ่งนางเตย (นามสมมติ) เพื่อนของผู้ก่อเหตุ ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ที่ผ่านมายืนยันว่านายปฏิพัทธ์ เคยมาระบายให้เพื่อนๆฟังว่ามีปัญหากับผู้ตาย เพราะเวลาผู้ตายเมาชอบมาหาเรื่อง ซึ่งเรื่องที่เปิดปิดประตูเสียงดัง ไม่น่าจะใช่ปมเหตุ เนื่องจากเท่าที่สอบถามคนข้างห้อง ก็ไม่มีใครเดือดร้อนในเรื่องดังกล่าว และคนข้างห้องยังบอกว่าเวลาผู้ตายเมายา ยังเคยถูกผู้ตายพยายามเข้ามาทำร้ายหลายครั้ง ซึ่งเท่าที่ได้คุยกับนายปฏิพัทธ์ ในห้องขัง นายปฏิพัทธ์ มีอาการเครียด และบอกว่าอยากจะออกไปจากห้องขังเนื่องจากอากาศร้อน

เลือดเย็น! ฉุนเตือนปิดประตูดัง คว้ามีดแทงยืนดูจนขาดใจตาย