จากกรณีที่เมื่อวันที่ 18 เมษายน ที่ผ่านมา พบศพชายชาวเมียนมาถูกรถไฟทับ ศีรษะขาดคารางรถไฟ บริเวณซอยพระยามนธาตุ 9 แยก 2 เขตบางบอน ซึ่งภายหลังพบว่าที่ศพมีรอยถูกแทงตามร่างกายหลายจุด ก่อนผลชันสูตรพลิกศพ เผยว่า ผู้ตายถูกแทงเสียชีวิต ก่อนจะพบศพถูกรถไฟทับ จึงเชื่อว่าเป็นการอำพรางจัดฉากการเสียชีวิตว่าถูกรถไฟชน

ต่อมาหลังจากชุดสืบสวน สน.ท่าข้าม ร่วมกับชุดสืบสวน บก.น.9 ได้ร่วมกันสืบสวนหาข่าวเบาะแสถึงตัวผู้กระทำความผิด จนเมื่อวานนี้ ตำรวจ สน.ท่าข้าม ร่วมกับ บก.น.9 สามารถจับกุมชายชาวเมียนมา 2 ราย คือ นายยี ทูน อายุ 30 ปี และนายหม่อง ซามิ อายุ 29 ปี ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ได้บริเวณซอยเอกชัย 66 เขตบางบอน กทม. หลังพบพยานหลักฐานเชื่อมโยงว่ามีส่วนกระทำความผิดในการฆ่าเพื่อนร่วมชาติจากกล้องวงจรปิด

โดยพบว่า ทั้งสองคนทำงานที่เดียวกันคือร้านซ่อมรถแห่งหนึ่ง และรู้จักกับผู้ตายคือ นายเย เธ็ท อ่อง อายุ 22 ปี โดยความสัมพันธ์ นายเย คนตาย เป็นน้องเขย ของนายอ่อง คนแทง ส่วนคนที่ถูกจับ เป็นเพื่อนของนายอ่อง จากนั้นได้ทำการเข้าตรวจค้นห้องพักของผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย พบเสื้อผ้าที่ทั้งคู่ใส่ในวันก่อเหตุ และมีคราบเลือดที่ถูกทิ้งในถังขยะ จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่ สน.ท่าข้าม

ขณะเดียวกัน ตามข้อมูลการสอบสวนอย่างละเอียด ตำรวจเผยพฤติกรรมของผู้ต้องหา 2 รายที่ถูกจับรวมถึงอีก 1 รายที่กำลังหลบหนี พบว่า จากหลักฐานกล้องวงจรปิดที่พบบริเวณใกล้เคียง มีชายผู้ต้องหา 3 คน และนายเย ผู้เสียชีวิตรวมกันเป็น 4 คน รวมกลุ่มแล้วเดินไปที่ทางรถไฟบริเวณเกิดเหตุ ระหว่างทางปรากฏภาพกล้องวงจรปิดพบผู้ต้องหา 2 คน ได้แวะซื้อเบียร์จำนวน 2 ขวด และน้ำ 1 ขวด จากร้านสะดวกซื้อ ก่อนจะพากันเดินมุ่งหน้าไปยังริมทางรถไฟ สถานที่เกิดเหตุ

หลังเกิดเหตุประมาณ 15 นาที ชายทั้งสามคนได้เดินออกมาจากจุดเกิดเหตุ โดยไม่ปรากฏผู้ตายเดินออกมาด้วย และในห้วงเวลาหลังจากนั้นก็ไม่ปรากฏภาพบุคคลอื่นใดเข้าไปในบริเวณที่เกิดเหตุ ทั้งจุดที่พบศพ ยังพบขวดเบียร์ ลักษณะเดียวกันกับที่กลุ่มชายทั้งหมดได้ซื้อไปก่อนหน้านี้ จึงเชื่อว่าชายทั้งสามคน ซึ่งอยู่กับผู้ตายเป็นครั้งสุดท้าย เป็นผู้ก่อเหตุและเป็นคนร้ายในคดี จึงแน่ชัดว่าทั้งสามคนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมครั้งนี้

กระทั่งวันที่ 19 เมษายน จากการสืบสวนสอบสวนพบว่าผู้ต้องหาทั้งสามคนเช่าห้องอยู่ที่ถนนเอกชัย แขวงคลองบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพฯ จึงเดินทางไปตรวจสอบและพบผู้ต้องหา 2 รายคือ นายยี และนายหม่อง จึงทำการรวบตัว โดยได้นำภาพกล้องวงจรปิดที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ให้บุคคลทั้งสองดูซึ่งทั้งสองรับว่าเป็นบุคคลตามภาพกล้องวงจรปิดที่ปรากฏความเกี่ยวพัน แต่ไม่ได้เป็นคนแทงผู้เสียชีวิต โดยนายยี ผู้ต้องหาคนที่หนึ่งเป็นคนซื้อเบียร์ และนายหม่อง ผู้ต้องหาคนที่สองเข้าไปในร้านสะดวกซื้อด้วยและรับเป็นคนร่วมฆ่า

ทั้งคู่เผยคำรับสารภาพ ว่า นายอ่อง ผู้ต้องหาอีกรายที่กำลังหลบหนีได้ชักชวนทั้งหมดไปที่ริมทางรถไฟ แล้วมีการชวนทั้งสองร่วมกันฆ่านายเย ผู้เสียชีวิต เนื่องจากนายอ่อง มีความโกรธแค้นกันกับผู้เสียชีวิตมาก่อน และก่อนจะก่อเหตุ นายอ่องได้เตรียมมีดและถุงมือมาด้วย และได้ใช้มีดแทงนายเยจนเสียชีวิต อีกทั้งยอมรับว่าตนและเพื่อนอีกรายที่ถูกจับกุมก็ยืนอยู่ในเหตุการณ์ โดยตลอดจนกระทั่งผู้เสียชีวิตถูกแทงแล้ว ทั้งสามคนจึงเดินทางกลับห้องพัก

ล่าสุดวันนี้ (20 เม.ย. 2567) ทีมข่าวช่อง 8 ไปพูดคุยกับ นายจ่อแง (นามสมมติ) เป็นแรงงานชาวเมียนมา ที่อาศัยอยู่ในชุมชน บอกว่า วันเกิดเหตุที่กลุ่มคนก่อเหตุพาคนตายเดินผ่านเข้ามาไม่มีใครเห็น เนื่องจากที่บ้านเข้านอนกันตั้งแต่ 3 ทุ่ม ซึ่งส่วนตัวมารู้ว่ามีคนตายตอนเช้าอีกคนหลังเกิดเหตุ

ส่วนกลุ่มคนก่อเหตุและผู้ตาย ตนเองไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน และคาดว่าเป็นแรงงานที่ทำงานอยู่นอกพื้นที่ ซึ่งตรงจุดเกิดเหตุ ที่ผ่านมามีทั้งคนไทยและแรงงานต่างชาติเดินเข้าไปมั่วสุมกันอยู่เป็นประจำ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าตกใจมากที่เพื่อนร่วมชาติมาฆ่ากันเอง และหลังเกิดเหตุก็รู้สึกกลัวเพราะยังจับคนแทงไม่ได้

จากนั้นทีมข่าวได้เดินทางไปยังหอพักของผู้ก่อเหตุ โดยหอพักดังกล่าวมีลักษณะเป็นอาคาร 3 ชั้นที่กั้นห้องให้แรงงานต่างชาติมาเช่าอาศัย ซึ่งวันนี้คุณจิตนา (นามสมมติ) เป็นคนดูแลหอพัก ได้พาทีมข่าวเดินขึ้นไปดูบริเวณห้องพักของคนก่อเหตุ ซึ่งห้องพักดังกล่าวจะอยู่บริเวณชั้นสอง และตามข้อมูล เจ้าของห้องคือนายหม่อง ซามิ หนึ่งในผู้ก่อเหตุที่มาเช่าห้องที่หอพักดังกล่าวเอาไว้ประมาณ 3 เดือนก่อนจะเกิดเหตุ

โดยคุณจิตนา (นามสมมติ) ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า หลังจากที่นายหม่อง ซามิ มาทำเรื่องขอเช่าห้อง ตนเองรู้แค่ว่าเขาพาเพื่อน 3-4 คนมาพักที่ห้องดังกล่าว ส่วนวันเกิดเหตุไม่มีใครในหอพักเห็นว่ากลุ่มคนก่อเหตุออกไปจากหอพักตอนไหน และก็เพิ่งมารู้ว่านายหม่อง ซามิ กับนายยี ทูน เป็นคนก่อเหตุก็ตอนที่ตำรวจพาตัวมาค้นห้องพัก

ส่วนนายอ่อง คนก่อเหตุที่หลบหนีไป ไม่คุ้นหน้าเพราะเขาไม่ได้มาอาศัยอยู่ที่นี่ ส่วนคนตายเท่าที่สอบถามกับตำรวจชุดที่มาจับกุม ให้ข้อมูลว่าจริง ๆ แล้วคนตายเป็นแรงงานที่ทำงานอยู่ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี แต่ก่อนเกิดเหตุได้เข้ามาหาเพื่อนกระทั่งไปเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าตกใจมาก เพราะสองคนที่ตำรวจจับตัวไป เป็นแรงงานที่นิสัยดี เนื่องจากทั้งคู่ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ และช่วงหลังวันเกิดเหตุก็ยังเห็นทั้งคู่เดินเข้า-ออกหอพักไปทำงานตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น