จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หลังสวน รับแจ้งพบผู้เสียชีวิตในบ่อน้ำ 2 ราย ทราบชื่อต่อมาคือนายนายเจือ เจียมวิจิตร อายุ 89 ปี และนางล้วน เจียมวิจิตร อายุ 85 ปี บ้านหลังหนึ่งที่ ม.14 ต.นาพญา อ.หลังสวน จ.ชุมพร และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมพุทธประทีปหลังสวน เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ คาดว่าเป็นการถูกฆาตกรรมนั้น

 

หลังจากนั้นทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางมาหานางหีด อายุ 77 ปี ซึ่งเป็นอดีตภรรยาของคุณตาเจือ ผู้เสียชีวิต อีกครั้งหนึ่งเพื่อขอคำชี้แจงหลักจากที่มีข้อมูลมาว่าถึงแม้นางหีด จะเลิกรากับคุณตาเจือไปนานแล้ว แต่ก็ยังคงมีการไปขอที่ดินไปขอเงินมาใช้จ่ายสุรุยสุร่าย โดยนางหีดได้ชี้แจงผ่านทีมข่าวช่อง 8 ว่าถ้าเรื่องที่ตนไปขอที่ดินไปขอเงินเป็นเรื่องจริงก็ขอให้ตนมีอันเป็นไป เพราะตนไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องเงินของอดีตสามีเลยแม้แต่น้อย และเหตุผลที่ตนต้องเลิกกันกับตนเจือ ก็เพราะตาเจือและยายล้วน รักกันเกินกว่าพี่น้อง จนทำให้ชาวบ้านชาวช่องต่างลือกันไปทั่วบ้านทั่วเมือง จนแม่ของตาเจือและยายล้วนแทบมุดแผ่นดินหนี และแม่ของตาเจือและยายล้วนก็เป็นคนมาขอโทษตนด้วยตัวเอง อีกทั้งตาเจือเองก็ไม่ได้ที่ดินสักพื้นที่เป็นชื่อตัวเองแล้ว เนื่องจากครั้งหนึ่งตาเจือเคยไปก่อเรื่องจนขึ้นโรงขึ้นศาล และได้ไปบอกกับหลานที่เป็นตำรวจที่ อ.หาดใหญ่ ให้เข้ามาช่วยเหลือตน หากตนรอดไปได้จะยกที่ดิน 8 ไร่ที่มีอยู่ให้ไปเลย สุดท้ายก็รอดจริงๆ และตาเจือก็ไม่ผิดสัญญาก็ทำการยกที่ดินให้กับหลานที่เป็นตำรวจที่ อ.หาดใหญ่ ทันที

 

และเรื่องที่ลูกชายตนไม่ถูกกับตาเจือ จนมีเรื่องจะฆ่าแกงกัน ก็เป็นเพราะแม่ยายของลูกชายได้มาติดต่อซื้อที่ดินจากยายล้วนจำนวน 200,000 บาทให้กับลูกชายของตน แต่พอมีการตกลงจ่ายเงินซื้อขายกันแล้ว กลับพบว่าที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินสปก. ไม่ใช่ที่ดินที่มีโฉนด ทำให้แม่ยายของลูกชายไม่เอา และได้มีการไปฟ้องศาลเพื่อเรียกเงินที่จ่ายไปคืน ซึ่งก็ฟ้องชนะและศาลก็มีคำสั่งให้เอาเงินคืนให้ แต่ยายล้วนก็ยังไม่เคยจ่ายให้เลยแม้แต่บาทเดียว ทำให้ลูกชายจึงไปเรียกเอาเงินคืนอยู่ประจำ แต่ช่วง 4-5 ปีมาไม่ได้ไปแล้ว เพราะคิดว่ายังไงก็ไม่ได้เงินคืนแน่นอน

 

ส่วนเรื่องที่ตนสงสัยก็เป็นเรื่องของญาติพี่น้อง ที่เดินทางมาเพื่อรถน้ำดำหัวและบังเอิญมาเจอศพแบบพอดี โดยคนเหล่านี้ที่เดินทางมารดน้ำดำหัวทั้งตาเจือและยายล้วน ต่างก็เป็นบุคคลที่ไม่ถูกกับทั้งคู่ชนิดไม่เผาผีกันเลย เนื่องจากครั้งหนึ่งมีญาติหนึ่งคนที่เดินทางมารดดำหัว ได้มีการติดต่อซื้อที่ดินของยายล้วนแปลงหนึ่ง โดยยายล้วน ได้มีการบอกกับญาติคนนี้ว่าก่อนที่จะเอาเงินมาให้ไปสร้างบ้านในที่ดินของตัวเองก่อนเลยก็ได้แล้วค่อยมาจ่ายเงิน แต่ถ้าว่าเมื่อญาติคนดังกล่าวสร้างบ้านในที่ดินของยายล้วนก่อนที่จะนำเงินมาจ่าย ทั้งตาเจือและยายล้วน ก็ได้มาไล่ที่ด้วยกันเอามีดมาไล่ฟันคนในบ้านพร้อมบอกว่าตรงนี้เป็นที่ดินของตัวเอง ให้ออกไปให้หมด นั่นจึงทำให้กลุ่มญาติเหล่านี้ไม่ถูกกับตาเจือและยายล้วนตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้เองตนมองว่าน่าจะเป็นบุคคลที่ต้องสงสัยมากที่สุดจึงอยากฝากตำรวจให้ไปตรวจเช็คประวัติของบุคคลเหล่านี้ให้ดี เพราะอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมในครั้งนี้ก็เป็นได้

 

ขณะที่ในวันนี้ทีมข่าวช่อง 8 ได้ลงพื้นที่หาภาพจากกล้องวงจรปิดอีกรอบ โดยพบว่านายสมเกียรติ วินมอเตอร์ไซค์ ที่บอกว่าเมื่อวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา ตัวเองไปส่งตาเจือไปส่งที่รพ. จากการตรวจภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่านายสมเกียรติ ไปส่งตาเจือจริง

 

ภาพจากกล้องวงจรปิดเวลา 07.58.42 น. สามารถจับภายนายสมเกียรติ วินมอเตอร์ไซค์ ขี่รถ จยย.ไปส่งตาเจือที่รพ.ปากน้ำหลังสวน โดยจุดที่ทีมข่าวช่อง 8 ได้ภาพจากกล้องวงปิดมาห่างจาก รพ.ปากน้ำหลังสวน เพียง 500 เมตร

 

ภาพจากกล้องวงจรปิดเวลา 11.45.49 น. สามารถจับภายนายสมเกียรติ วินมอเตอร์ไซค์ ขี่รถ จยย.พาตาเจือออกจากรพ.ปากน้ำหลังสวน แล้วไปส่งที่บ้าน

เปิดปากเมียคนตาย 2 ศพหมกบ่อนํ้า สัมพันธ์มากกว่าพี่น้อง