"วันนอร์" รับไม่ได้ สัญญาณเปลี่ยนตัวประธานสภาฯ อ้างประเพณีไม่เคยมี แม้เปลี่ยน "นายกฯ" ลั่น อยู่หรือไป เป็นไปตาม รธน. ลั่นตำแหน่งนี้ เป็นเสาหลักต้องเป็นกลาง ต้องไม่ให้ฝ่ายการใดแทรกแซง

 

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสการเปลี่ยนตัวประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อรองรับการปรับคณะรัฐมนตรีว่า จนถึงขนาดนี้ไม่มีสัญญาณอะไร แต่อยากจะเรียนว่าการปรับคณะรัฐมนตรีกับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นคนละเรื่องกัน และไม่เกี่ยวกัน เพราะการปรับคณะรัฐมนตรีก็เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ ส่วนตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร นั้นเป็นเรื่องของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งต้องมีการเลือกในที่ประชุม มีการเสนอชื่อ มีผู้รับรองและต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อโปรดเกล้าฯ และวาระการดำรงตำแหน่ง ของประธานสภาผู้แทนราษฎรและรองประธานฯ เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ

ทั้งนี้ ส่วนตัวตนไม่ได้ติดยึดกับตำแหน่งใดๆ หากทำเพื่อประโยชน์ของประชาชน ก็ต้องทำเต็มที่ หากทำไม่ได้ ตนก็พร้อมที่จะไป แต่อยากจะย้ำว่า ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นตำแหน่งอันทรงเกียรติที่เป็นเสาหลักของประชาธิปไตย ในสามเสา คือบริหาร นิติบัญญัติและตุลาการ ซึ่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้องมีความเป็นกลาง ไม่สามารถมีอำนาจใดเข้ามาแทรกแซงได้ และรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันก็ชัดเจน ว่า ประธานและรองประธานสภา ต้องไม่เป็นกรรมการบริหารของพรรคการเมืองใดๆ เพื่อไม่ให้เกิดความผูกพัน หรือแทรกแซงจากพรรคการเมืองในการปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้น ตนจึงยืนยันว่าการปรับคณะรัฐมนตรีเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี แต่ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นไปตามข้อบังคับ และกฎหมายรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้ ควรจะรักษาเกียรติและระบอบประชาธิปไตยที่เป็นเสาหลักอันนี้เอาไว้ อย่างมั่นคง

"ข้อบังคับและประเพณีปฏิบัติที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีการเปลี่ยนกลางคัน ตนเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรก ได้ 1 ปี โดยหัวหน้าพรรคความหวังใหม่ลาออก มีการเปลี่ยนรัฐบาล เปลี่ยนนายกรัฐมนตรี แต่ประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ไปอีก 2-3 ปี ทำงานในระบบของสภากับฝ่ายบริหาร ก็ไม่ได้มีปัญหา เพราะตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ใครมาเป็นก็ต้องมีความเป็นกลาง มิใช่เครื่องมือของพรรคการเมืองใด"

เมื่อถามว่าขณะนี้ยังไม่มีใครส่งสัญญาณมาใช่หรือไม่นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ไม่มี แต่ถึงส่งสัญญาณมา ก็เป็นสัญญาณที่รับไม่ได้ และตอนนี้ไม่มีเหตุอะไรที่จะต้องออกจากตำแหน่ง หากปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ก็ต้องไปเอง เพราะตนถือว่า ประโยชน์ของประชาชนประโยชน์ของสภาเขตและศักดิ์ศรีของประชาธิปไตยก็ต้องให้เดินไปตรงแนวทางจะมาบิดๆเบี้ยวๆ เพื่ออย่างใดอย่างหนึ่งตนคิดว่า ไม่ควรกระทำ

ส่วนยังทำหน้าที่ต่อไปได้ใช่หรือไม่ตนประเมินเองไม่ได้ ต้องให้สื่อและประชาชนเป็นคนประเมิน