"ดาว บ้านดอน" วูบล้มในห้องน้ำ แพทย์เผยเส้นเลือดสมองตีบ อาการล่าสุดรู้สึกตัวดี แต่ยังไม่สามารถพูดได้

จากกรณีเฟซบุ๊ก "ดาว บ้านดอน" โพสต์ข้อความว่าแจ้งข่าวพ่อดาวบ้านดอนนะคะ คุณพ่อล้มในห้องน้ำตอนเช้า ตอนนี้อยู่ห้องไอซียูค่ะ โดยข้อความดังกล่าวโพสต์เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งโพสต์ดังกล่าวมีศิลปินและแฟนคลับจำนวนมากเข้ามาให้กำลัง

ล่าสุดวันที่ 18 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านดอนมะยาง ตำบลตาดทอง อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร ซึ่งเป็นบ้านเกิดของพ่อดาว บ้านดอน และได้พบกับ นายแหวน เศิกศิริ หรือ เดือน บ้านดอน อายุ 74 ปี น้องชายแท้ๆ ของพ่อดาว บ้านดอน ได้เล่าว่า คืนวันที่ 12 เมษายน 2567 ที่ผ่านมาตนได้ไปพบกับพี่ชายที่งานร้องเพลงรับเชิญที่ อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี หลังจากที่พี่ชายร้องเพลงเสร็จก็เป็นเวลาดึกมากแล้วตนจึงเดินทางกลับมาที่ยโสธร ส่วนพี่ชายมีงานคอนเสิร์ตต่อในวันรุ่งขึ้น แต่เห็นว่าดึกแล้วจึงไปนอนพักที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง จนกระทั่งเวลา 05.00 น. ของวันที่ 13 เมษายน 2567 ดาว บ้านดอน ได้เข้าห้องน้ำเตรียมอาบน้ำแต่งตัว แต่ระหว่างนั้นภรรยาได้ยินเสียงดังผิดปกติจึงพังประตูห้องน้ำเข้าไปพบเห็นดาว บ้านดอน นอนหมดสติอยู่ จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งตอนนี้ยังรักษาตัวอยู่ในห้อง ไอซียู และอาการเริ่มดีขึ้นเป็นลำดับ โดยขณะนี้ ดาว บ้านดอน ลุกนั่งได้ ลืมตาได้และรู้สึกตัวดี แต่ยังไม่สามารถพูดได้ โดยแพทย์วินิจฉัยว่าเส้นเลือดใหญ่ในสมองตีบ ซึ่งปกติ ดาว บ้านดอนก็จะกลับมาที่บ้านดอนมะยาง และนอนพักที่บ้านดอนมะยางเป็นประจำในช่วงเวลาที่มาทำธุระหรือมีงานร้องเพลงในภาคอีสาน

เดือน บ้านดอน ยังเล่าถึง ดาว บ้านดอน ว่าฐานะครอบครัว ดาว บ้านดอน ตอนนี้ได้ย้ายไปอยู่กรุงเทพมหานครกับครอบครัว แต่ก็ไม่ถือว่าร่ำรวยมากนัก ส่วนฉายา ดาว บ้านดอน นั้นมาจากบ้านเกิดคือบ้านดอนมะยาง ส่วนดาวมาจากที่เป็นนักร้องที่เปรียบเทียบให้ตัวเองเป็นดาว แต่ชื่อจริงคือ นายเทียม เศิกศิริ อายุ 76 ปี

สำหรับประวัติของ ดาว บ้านดอน เป็นนักร้องและนักแต่งเพลงลูกทุ่งที่มีชื่อเสียง เป็นเจ้าของผลงานเพลง คนขี่หลังควาย , แปรจ๋า, รอรักใต้ต้นกระโดน และอื่นๆ อีกหลายผลงานเพลง มีชื่อจริง นายเทียม เศิกศิริ เป็นชาวบ้านดอนมะยาง ตำบลตาดทอง อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร เป็นลูกหลานชาวนา มีพี่น้องทั้งหมด 7 คน ชีวิตลำบากมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เรียนหนังสือจบแค่ ป.4 ไม่มีโอกาสเรียนต่อทั้งๆ ที่เป็นคนเรียนเก่งและความจำดี จึงได้มาบรรพชาเป็นสามเณรฝึกหัดเทศน์แหล่จนชำนาญ เป็นสามเณรเสียงทองที่มีปฏิภาณไหวพริบเป็นเลิศกลายเป็นสามเณรนักเทศน์แหล่อันดับต้นๆ ของภาคอีสานในสมัยนั้น จากนั้นเทพบุตร สติรอดชมภู เห็นแววของสามเณร จึงชักชวนสามเณรว่าหากว่าลาสิกขามาเมื่อใดจะให้ออกมาแสดงหมอลำ ในที่สุดสามเณรก็ลาสิกขาออกมาแสดงหมอลำและร้องเพลงลูกทุ่งในเวลาต่อมา ด้วยความเป็นคนที่มีความจำและสมองดี รู้จักคิดประดิดประดอยถ้อยคำใหม่ๆ มาตั้งแต่สมัยเป็นนักเทศน์ ดาว บ้านดอน จึงสามารถเขียนกลอนลำและเขียนเพลงร้องได้เอง

ทีมข่าวออนไลน์ช่อง8 ขอส่งกำลังใจให้ "พ่อดาว บ้านดอน" ที่เข้ารับรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู หายป่วยและกลับมาแข็งแรงไวๆนะคะ