ความคืบหน้ากรณีพบศพนายชิษณุพงศ์ หนูนา อายุ 23 ปี สภาพศพสวมใส่กางเกงยีน 5 ส่วน สวมเสื้อแจ็กเก็ต สีดำแขนยาว มีโลโก้สโมสรทีมฟุตบอลที่หน้าอกของเสื้อ ที่แผ่นหลังมีรอยสักรูปปลาคราฟ คาดว่าตายมามากกว่า 3 วัน เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างสามัคคีอุทิศนำศพขึ้นมาก็พบว่าที่ศีรษะถูกคลุมครอบด้วยกระเป๋าสีดำที่มีดินทรายอยู่เต็มกระเป๋า เสียชีวิตในหนองน้ำพื้นที่บ้านพรสวรรค์ ม.13 ถนนเหล่านาดี ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 13 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา พร้อมทั้งได้สอบปากคำเพื่อนของผู้ตายซึ่งอยู่กับผู้ตายเป็นคนสุดท้าย โดยใช้เครื่องจับเท็จแต่ก็ไม่พบว่ามีพิรุธ และลงพื้นที่ปูพรมค้นหาโทรศัพท์ของผู้เสียชีวิตภายในบริเวณบ่อน้ำที่พบศพเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านเป็ด ได้เชิญตัวนายชัยยันต์ หรือ นายบิ๊ก เพื่อนของนายชิษณุพงศ์ หนูนา (ผู้ตาย) เข้าให้ปากคำ เนื่องจากว่านายชัยยันต์เป็นเพื่อนคนสุดท้ายที่ผู้ตายได้อยู่ด้วย และได้เช็คอินในเฟซบุ๊กส่วนตัวของผู้ตาย ที่ต.ท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ระบุข้อความในโพสต์ว่า “อยู่จักคราวก่อน” พร้อมกับติดแท็กเฟซบุ๊กของนายชัยยันต์

 

โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบปากคำนายชัยยันต์ ซึ่งมีอาชีพขับรถขนดิน จากการสอบปากคำโดยใช้เครื่องจับเท็จ ยังไม่พบพิรุธหรือมีความผิดปกติ ซึ่งทางตำรวจได้สอบปากคำอย่างละเอียด

 

จากการสอบสวนนายชัยยันต์ให้การว่า ผู้ตายเดินทางด้วยรถตู้มาถึงที่ บขส.3 จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 9 เม.ย.67 โดยขอมาพักอาศัยกับเพื่อนเพื่อจะหางานทำ และมาหาแฟนสาวซึ่งอาศัยอยู่ในจังหวัดขอนแก่น ซึ่งนายชัยยันต์ได้ขับรถ 6 ล้อ ซึ่งเป็นรถขนดินไปรับ

 

นายชัยยันต์อ้างว่าจะพาผู้ตายไปทำงานขนดินด้วยแต่ผู้ตายมีอาการเวียนหัววิงเวียนศีรษะเนื่องจากจากการตกหลุมบนถนนและของรถขนดิน จึงได้พาตระเวนหาสมัครงานส่งอาหารเดลิเวอรี่ ซึ่งเพื่อนก็พาหาสมัครงานในเมืองด้วยตลอดทั้งวันแต่ก็ยังไม่ได้งาน

 

จึงได้พาไปนอนด้วยที่ไซต์งาน 1 คืน ก่อนที่วันรุ่งขึ้นผู้ตายบอกให้พาไปส่งตรงบริเวณสี่แยกไฟแดงบ้านสะอาด ช่วงเย็นวันที่ 10 เม.ย.67 โดยบอกว่าจะมีคนมารับ ห่างจากบริเวณจุดที่เป็นทางเข้าแหล่งน้ำที่พบศพประมาณ 50 เมตร ซึ่งเพื่อนผู้ตายได้สอบถามผู้ตายว่าใครมารับ แต่ถามสามครั้งผู้ตายไม่ยอมตอบ จึงบอกเพื่อนว่างั้นกลับก่อน พร้อมกับเอาเงินไว้ให้ติดตัวเป็นค่ารถเดินทางกลับเกษตรสมบูรณ์จำนวน 300 บาท

 

ซึ่งผู้ตายก็ยังไม่พูดอะไรและตั้งหน้าตั้งตาพิมพ์ข้อความอยู่ในมือถือแต่ก็ไม่ทราบว่าคุยกับใคร โดยเพื่อนผู้ตายได้ขับรถออกไปและยูเทิร์นกลับมาซึ่งจุดยูเทิร์นห่างจุดที่ส่งประมาณ 100 กว่าเมตร พอยูเทิร์นกลับมาก็ไม่พบผู้ตายแล้ว แต่ก็ไม่ทราบว่าหายไปกับใครหรือมีใครมารับหรือไม่เพราะช่วงที่ขับรถมาก็ไม่พบว่ามีใครขับรถมาตามหลังแต่อย่างใด กระทั่งพบว่าเป็นศพดังกล่าว

 

ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับนายชัยยันต์ หรือ บิ๊ก เพื่อนของนายชิษณุพงศ์ คนตาย ระบุว่า ตัวเองกับคนตายเพิ่งรู้จักกันเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ระหว่างเดินทางไปทำงานก่อสร้างที่อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด จากนั้นตัวเองก็ได้ย้ายมาทำงานที่จังหวัดขอนแก่น ส่วนคนตายไปทำงานอยู่ที่อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี แต่ก็ยังมีการติดต่อกันอยู่บ้าน จนกระทั่งประมาณวันที่ 8 เมษายน ที่ผ่านมา นายชิษณุพงศ์ คนตาย ก็ได้โทรศัพท์มาหา บอกว่า จะมาเล่นด้วยสักวันนึง ตัวเองก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร แล้ววันรุ่งขึ้น (9 เม.ย.) ก็ได้ขับรถหกล้อขนดิน ออกไปรับนายชิษณุพงศ์ ที่ซอยข้างบข.ส.3 จังหวัดขอนแก่น ตอนประมาณบ่าย 3 โมง เมื่อรับนายชิษณุพงศ์ ขึ้นมาแล้ว ก็ได้พาไปวิ่งงานต่อ แล้วได้กลับเข้าที่พักมาตอนเย็น แล้วก็ได้พากันออกไปกินข้าว - กินเหล้า ที่ร้านอาหาร ก่อนจะกลับมานอนที่ไซต์งาน

 

นายชัยยันต์ บอกว่า ระหว่างอยู่ด้วยกันนายชิษณุพงศ์ คนตาย มีท่าทีปกติดี ไม่ได้มีสีท่าทางเคร่งเครียด แต่ก็จะเห็นก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ ลักษณะแชตคุยกับคนอื่นอยู่บ้าง แต่ตัวเองก็ไม่รู้ว่าคุยกับใคร โดยระหว่างที่อยู่ด้วยกัน ได้พูดคุยตามปกติ ซึ่งนายชิษณุพงศ์ บอกว่าจะกลับบ้านที่จังหวัดชัยภูมิ แต่ก็อยากจะหางานทำที่นี่ด้วย เพราะสาเหตุที่เดินทางกลับมาจากจังหวัดอุบลราชธานี นั้น เนื่องจากงานหมดแล้ว ตัวเองจึงได้คุยกับนายจ้างให้ แต่เนื่องจากติดช่วงเทศกาลสงกรานต์ นายจ้างจึงให้นายชิษณุพงศ์ กลับบ้านไปก่อน

 

ต่อมาเช้าวันที่ 10 เมษายน นายชัยยันต์ บอกว่า ตัวเองได้ออกไปทำงานขับรถขนดินตามปกติ โดยได้พานายชิษณุพงศ์ คนตายไปด้วย เพราะเห็นว่านายชิษณุพงศ์ ไม่รู้จักใครในไซต์งานนี้ จึงให้ออกไปด้วยกัน แล้วตระเวนขับรถส่งดินอยู่ในละแวกไซต์งาน จนกระทั่งประมาณ 4 โมงเย็น ก็ได้พากันเข้ามาเก็บกระเป๋าเสื้อผ้า ซึ่งยืนยันว่าเป็นใบเดียวกันกับที่พบติดอยู่กับศพ จากนั้นได้ขับรถหกล้อขนดิน มุ่งหน้าไปที่ บขส.3 จังหวัดขอนแก่น เพื่อจะไปส่งนายชิษณุพงศ์ คนตาย ขึ้นรถเดินทางกลับจังหวัดชัยภูมิ แต่เมื่อมาถึง บขส.3 นายชิษณุพงศ์ กลับบอกให้ขับเลยไปทางตำบลบ้านเป็ด อ้างว่า เดี๋ยวจะมีคนมารับ เมื่อถามว่าใครจะมารับ นายชิษณุพงศ์ ก็ไม่ตอบ แล้วได้ให้ตัวเองส่งลงตรงก่อนจะถึงสระน้ำที่พบศพประมาณ 200 เมตร หลังจากนั้นเมื่อตัวเองไปกลับรถจะมุ่งหน้ากลับไซต์งานก่อสร้าง ไม่ถึง 5 นาที หันมองไปในจุดที่ส่งนายชิษณุพงศ์ ลงรถ ก็ไม่เห็นตัวนายชิษณุพงศ์ แล้ว

 

นายชัยยันต์ ยอมรับว่า เครียดหลังตกเป็นผู้ต้องสงสัยฆ่าเพื่อน แต่ก็อยากฝากถึงญาติพี่น้องของนายชิษณุพงศ์ ว่า ตัวเองไม่ได้เป็นคนทำ โดยก่อนเกิดเหตุที่นายชิษณุพงศ์ มาหา ก็เลี้ยงดูเป็นอย่างดี อีกทั้งก่อนจะแยกกันยังได้ให้เงินติดตัวไปจำนวน 300 บาท ด้วย

 

ขณะเดียวทีมข่าวย้อนกลับไปไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด บริเวณโดยรอบบขส.3 จังหวัดขอนแก่นอีกครั้ง หลังมีข้อมูลพบว่า นายชัยยันต์ เพื่อนของนายชิษณุพงศ์ คนตาย ได้ขับรถหกล้อขนดินมารับ แล้วได้พากลับไปพักค้างคืนที่ไซต์งานก่อสร้างในตำบลดอนหัน อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ซึ่งก็กล้องวงจรปิด ของอาคารพาณิชย์ข้างบขส.3 จังหวัดขอนแก่น พบว่า เมื่อเวลาบ่าย 3 โมง 20 นาที วันที่ 9 เมษายน นายชัยยันต์ หรือ บิ๊ก เพื่อนของนายชิษณุพงศ์ คนตาย ได้ขับรถหกล้อขนดิน มาบนถนนสายเลี่ยงเมืองขอนแก่น ผ่านหน้าบข.ส.3 ก่อนจะเลี้ยวซ้ายเข้าซอยข้างบขส.3 ไปรับนายชิษณุพงศ์

 

จากนั้นกล้องวงจรปิดภายในซอยจะเห็นรถหกล้อคันนี้ขับเข้าไป ซึ่งเป็นจังหวะที่รับนายชิษณุพงศ์คนตายขึ้นรถมาแล้ว จากนั้นได้กลับรถไปอีกฝั่งหนึ่ง มุ่งหน้าออกไปทางสามแยก

 

หลังจากนั้นเกือบ 2 นาที นายชัยยันต์ ก็ได้ขับรถหกล้อคันเดิมออกมาแล้วเลี้ยวขวา กลับไปทางไซต์งานก่อสร้าง ตำบลดอนหัน ระยะทางประมาณ 18 กิโลเมตร โดยมีนายชิษณุพงศ์ คนตาย นั่งไปด้วย

 

ต่อมาเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้เข้าตรวจไซส์งานก่อสร้าง ซึ่งอยู่ในพื้นที่ หมู่1 ตำบลดอนหัน อำเภอเมือง จังหวัดจอนแก่น โดยได้เข้าเก็บหลักฐานจากรถบรรทุกดินคันที่นายชัยยันต์ใช้ไปส่งนายชิณษุพงศ์ คนตาย ที่บขส 3 ขอนแก่น แต่กลับพบว่านายชัยยันต์ไปส่งนายชิณษุพงศ์ เลยบขส.แห่งที่ 3 ไปอีกประมาณ 2-3 กิโลเมตร แต่อยู่ห่างจากสระน้ำที่พบศพ ประมาณ 200 เมตร พร้อมกับได้เก็บหลักฐานภายในรถกระบะ ของไซต์งานนี้ ด้วย

 

ล่าสุดเมื่อเวลา 17.00 น. พันตำรวจเอก พรศักดิ์ งามดี ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ในวันนี้ภายหลังทางชุดสืบสวนปูพรมเดินเท้าค้นหารอเรือและชุดประดาน้ำมาทำการค้นหาทางน้ำ ซึ่งพบโทรศัพท์มือถือและไฟแช็ก คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิตวางอยู่บนกองดิน สูงประมาณกว่า 1 เมตร คาดว่าจะเป็นดินชนิดเดียวกันกับที่ที่อยู่ในกระเป๋าของผู้เสียชีวิตขณะพบศพคลุมศีรษะ อยู่ริมบ่อน้ำที่พบศพ จึงได้ประสาน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 4 ลงพื้นที่เก็บหลักฐานในจุดที่พบศพผู้เสียชีวิตประกอบด้วยโทรศัพท์มือถือ ไฟแช็ก และดินจำนวนหนึ่งจากกองดินที่คาดว่าจะเป็นดินชนิดเดียวกันที่อยู่ในกระเป๋าของผู้เสียชีวิตในขณะพบศพ ก่อนจะเก็บรวบรวมหลักฐานทั้งหมดส่งตรวจพิสูจน์หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ เพื่อประกอบหาสาเหตุการเสียชีวิต ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการผ่าชันสูตรพลิกศพ เพื่อที่จะดูว่าเสียชีวิตในน้ำหรือเสียชีวิตตั้งแต่อยู่บนบก และนำดินไปตรวจเทียบเคียงกับดินในกระเป๋าและในเล็บของผู้เสียชีวิต ว่าเป็นดินชนิดเดียวกันหรือไม่ เพราะในบริเวณที่พบกองดินดังกล่าวนั้นมีร่องรอยเหมือนการใช้มือขุด และวางโทรศัพท์คู่กับไฟแช็กเอาไว้ให้เห็น ขณะที่เป้าการปูพรมค้นหาทั้งทางบกและทางน้ำในวันนี้ เบื้องต้นได้ตั้งโครงการค้นหาไว้สามอย่างประกอบด้วยโทรศัพท์มือถือ เสื้อผ้า และรองเท้า ขณะนี้เราพบโทรศัพท์มือถือแล้ว โดยในวันพรุ่งนี้จะทำการค้นหาเสื้อผ้าและรองเท้าอีกรอบ ซึ่งยังไม่ตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่งทิ้งโดยตั้งประเด็น เป็นการถูกทำให้ตาย และเป็นการฆ่าตัวตาย ซึ่งจะต้องรอผลผ่าชันสูตรพลิกศพจากนิติเวชโรงพยาบาลศรีนครินทร์ สรุปสาเหตุเสียชีวิตเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

แกะรอยฆาตกรฆ่าถ่วงน้ำ หรือ "ชิษณุพงศ์" จมน้ำตายเอง